ปอท.VS เสริมสุข กษิติประดิษฐ์

อัปเดตล่าสุด: 02/12/2559

ผู้ต้องหา

นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์

สถานะคดี

ชั้นสืบสวนสอบสวน

คดีเริ่มในปี

2556

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)

สารบัญ

เสริมสุข กษิติประดิษฐ์ บก.ข่าวการเมืองและความมั่นคงของสำนักข่าวไทยพีบีเอส ถูกหมายเรียกข้อหาพ.ร.บ.คอมฯ ฐานสร้างความตื่นตระหนก หลังโพสต์ข่าวลือว่าจะมีปฏิวัติ ให้ประชาชนกักตุนน้ำและอาหาร 

ภูมิหลังผู้ต้องหา

ภูมิหลังผู้ต้องหา

นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ นักหนังสือพิมพ์ เป็นอดีตหัวหน้าข่าวสายทหารของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เป็นผู้เขียนรายงานข่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกา ยืนยันว่ารันเวย์ของสนามบินสุวรรณภูมิแตกร้าว ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ฉบับวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2548 และเป็นข่าวไปทั่วโลก ส่งผลให้กระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เรียกค่าเสียหายหนึ่งพันล้านบาท โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ระบุว่าเป็นการเต้าข่าว ไม่รักชาติ

ผลจากการฟ้องร้องของกระทรวงคมนาคม ส่งผลให้ทางหนังสือพิมพ์กดดันให้ นายเสริมสุข ลาออกจากงานพร้อมกับนายชฎิล เทพวัลย์ บรรณาธิการข่าว เพื่อเป็นการรับผิดชอบ กรณีนี้ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการแทรกแซงสื่อ จากฝ่ายการเมืองในขณะนั้น

เสริมสุข กษิติประดิษฐ์ และชฎิล เทพวัลย์ ได้รับการยกย่องจากสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เป็น นักข่าวเกียรติยศ ประจำปี 2549 เนื่องในวันนักข่าว ครั้งที่ 52 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2550

ในปัจจุบัน เสริมสุข เป็นบรรณาธิการข่าวการเมืองและความมั่นคง สถานีโทรทัศน์ทีวีไทย และมีชื่อเรียกเล่น ๆ ในแวดวงสื่อมวลชนว่า พี่เป๊ปซี่

ข้อหา / คำสั่ง

มาตรา 14 (2) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ, มาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญา

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเป็นข้อความเกี่ยวกับการปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาล เพื่อชี้นำให้ประชาชนตื่นตระหนกโดยการกักตุนอาหารและน้ำ อีกทั้งยังโพสต์ข้อความที่อาจจะก่อให้เกิดความวุ่นวายของบ้านเมือง จากการพิจารณาจากเนื้อหาไม่มีมูลความจริงและถ้าปล่อยให้เผยแพร่ก่อจะเกิดความเสียหายต่อประเทศ ทาง ปอท. จึงออกหมายเรียกทั้งสี่รายเพื่อให้พบพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) เรื่องการนำข้อมูลที่เป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทำให้กระทบต่อความมั่นคง

พฤติการณ์การจับกุม

ไม่มีข้อมูล

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ไม่มีข้อมูล

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ผอ.ซีป้าแนะ รบ.หยุดเอาผิดคนโพสต์ข่าวลือปฏิวัติ, เว็บไซต์ประชาไท, 5 สิงหาคม 2556 (เข้าถึงเมื่อ 6 สิงหาคม 2556)
 
"ปอท."เรียกสอบ4มือโพสต์ปล่อยข่าวปฏิวัติว่อนเฟซบุ๊ก, เว็บไซต์เดลินิวส์, 5 สิงหาคม 2556 (เข้าถึงเมื่อ 6 สิงหาคม 2556)
 
 
'เสริมสุข-ทนาย'แจงเจตนาโพสต์เตือน, เว็บไซต์คมชัดลึก, 9 สิงหาคม 2556 (เข้าถึงเมื่อ 17 มกราคม 2557)
 
เสริมสุข กษิติประดิษฐ์ เข้าพบ ปอท. 8 ส.ค. ปมโพสต์ป่วนมั่นคง, เว็บไซต์กระปุกดอทคอม, 6 สิงหาคม 2556 (เข้าถึงเมื่อ 17 มกราคม 2557)
 
เสริมสุข เข้ารับทราบข้อหา ปอท. ศุกร์นี้, เว็บไซต์สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์, 6 สิงหาคม 2556 (เข้าถึงเมื่อ 17 มกราคม 2557)
 
"ไทยพีบีเอส” ยัน “เสริมสุข” แสดงความเห็นตามสิทธิ-เตรียมสอบสวนเอง, เว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา, 6 สิงหาคม 2556 (เข้าถึงเมื่อ 20 มกราคม 2557)

 

4 สิงหาคม 2556

กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ตรวจพบข้อความทางสื่อออนไลน์เว็บไซต์เฟซบุ๊ก โดยผู้โพสต์ทั้ง 4 ราย ได้แก่ นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์  นายเดชาธร ธีรพิริยะ  น.ส.วารุณี คำดวงศรี  และผู้ใช้นามแฝง Yo Onsine โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาล เพื่อชี้นำให้ประชาชนตื่นตระหนกโดยการกักตุนอาหารและน้ำ และข้อความที่อาจทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

 

5 สิงหาคม 2556

พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการ ปอท. แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยนำรายชื่อ 4 บุคคล ที่เป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว มาเปิดเผยต่อสาธารณชน นอกจากนั้น จากการตรวจสอบพบว่า บุคคลทั้ง 4 เป็นผู้โพสต์ข้อความด้วยตนเองและออกหมายเรียก ทั้ง 4 คน มาสอบสวน หากพบว่ากระทำผิดจริง พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหา มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแก่กฎหมายแผ่นดิน เกิดความปั่นป่วน ซึ่งจะก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร

นอกจากนี้ ปอท.ยังพบว่า มีผู้ใช้นามแผงว่า เดอะ เลดี้  และคณะเสนาธิการร่วม ได้โพสข้อความดังกล่าวด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์ตัวบุคคล พร้อมเตือนประชาชนห้ามโพสต์ กดไลค์ หรือส่งต่อข้อความที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เพราะจะถือว่าเป็นผู้กระทำผิดร่วม

 

6 สิงหาคม 2556

พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการ ปอท. เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ตามที่ ปอท. ได้ออกหมายเรียกผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวทั้ง 4 ราย มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำและดำเนินการตามกฎหมาย มีเพียงนายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ตอบรับที่จะเข้ามาให้ปากคำ ในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ เวลา 10.00 น. ส่วนอีก 3 คน ยังไม่ติดต่อมา ซึ่งก็จะสอบปากคำก่อนว่ามีเจตนาใดหรือไม่ หากเข้าข่ายความผิดก็จะแจ้งข้อหาทันที ภายหลังนายเสริมสุขได้ขอเลื่อนนัดเข้ารับทราบข้อหาเป็นวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2556 เวลา 10.00 น.

ในวันเดียวกัน องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ต้นสังกัดของนายเสริมสุข ออกแถลงการณ์กรณีการแสดงความคิดเห็นทางสื่อออนไลน์ ของบรรณาธิการอาวุโส โดยมีใจความว่า

 

1. กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นการแสดงความเห็นโดยบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ หากขัดกับข้อกฎหมายใด ย่อมสามารถตรวจสอบหรือดำเนินการอย่างเหมาะสม เท่าเทียม เป็นเหตุเป็นผล โดยยุติธรรมและปราศจากอคติหรือผลประโยชน์แอบแฝงใดๆ ได้

 

2. ในเบื้องต้น ผู้อำนวยการ ส.ส.ท.ได้กำชับให้นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ แสดงความเห็นทางสื่อต่างๆด้วยความระมัดระวัง และเหมาะสมกับสถานะของตนเอง โดยมิให้กระทบต่อความน่าเชื่อถือในการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนและองค์กรด้วยแล้ว

 

3. ส.ส.ท.มีระเบียบ กรอบจริยธรรมในการปฏิบัติหน้าที่รวมถึงการแสดงความเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีที่เกิดขึ้น ส.ส.ท.จะจัดกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามควรแก่กรณีอย่างเป็นธรรม

 

แถลงการณ์ลงชื่อ นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.)

 

 

9 สิงหาคม 2556

นายเสริมสุข และนายนคร ชมพูชาติ ทนายความเข้าพบ พ.ต.อ.วรรณวุฒิ ชาญนุกูล รองผู้บังคับการตำรวจ ปอท. เพื่อให้ปากคำตามหมายเรียก นายเสริมสุขชี้แจงว่าไม่มีเจตนาปล่อยข่าวลือ แต่ที่โพสต์ข้อความดังกล่าวเพราะเห็นว่าข่าวลือดังกล่าวไม่น่าจะเป็นความจริง ตนเพียงต้องการเอาข่าวลือมาโพสต์บอกว่านี่ไม่ใช่ข่าวจริง เพื่อให้เพื่อนในเฟสบุ๊คของตนรับทราบ

นอกจากนี้ นายเสริมสุขถูกเรียกมาให้ปากคำในฐานะพยาน เพราะสำนวนสอบสวนมีหลายสำนวน (มีผู้โพสต์หลายคน คนละสำนวนกัน) ซึ่งยังไม่มีการแจ้งใครเป็นผู้ถูกกล่าวหา 

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา