กิตติธน: เคนจิ

อัปเดตล่าสุด: 08/03/2560

ผู้ต้องหา

กิตติธน

สถานะคดี

ตัดสินแล้ว / คดีถึงที่สุด

คดีเริ่มในปี

2556

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

ไม่มีข้อมูล

สารบัญ

ในวันที่ 30 สิงหาคม 2556 กิตติธน ถูกตำรวจหลายสิบนายบุกจับกุมที่บ้าน และถูกกล่าวหาว่าใช้นามแฝง “เคนจิ” โพสต์ตอบกระทู้ในเว็บบอร์ดอินเทอร์เน็ตฟรีด้อม ด้วยข้อความที่เข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ กิตติธนถูกนำตัวไปฝากขังในวันเดียวกัน 

หลังถูกนำตัวไปฝากขัง กิตติธนก็ถูกควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมาโดยตลอด ในวันที่ 12 ธันวาคม 2556 ศาลอาญาพิพากษาว่ากิตติธนทำความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯและความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯรวมสองกรรมและความผิดฐานพยายามหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์จากการมีภาพเขียนข้อความที่เข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์อยู่ในเครื่องแต่ยังไม่ได้โพสต์ลงในอินเทอร์เน็ตอีกหนึ่งกรรม กิตติธนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกกิตติธนเป็นเวลาห้าปี 20 เดือน

ในวันที่ 8 สิงหาคม 2559 มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ 2559 กิตติธนเข้าเกณฑ์ได้รับการปล่อยตัวก่อนครบกำหนดโทษเดิมและได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพในวันที่ 7 กันยายน 2559 รวมเวลาถูกคุมขังในเรือนจำ 1105 วัน 

 คดีของกิตติธนน่าสนใจเพราะเท่าที่บันทึกไว้ คดีนี้เป็นคดี112 คดีแรก ที่ศาลลงโทษบุคคลด้วยความผิดฐานพยายามหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ 

ภูมิหลังผู้ต้องหา

กิตติธน เป็นชาวสมุทรปราการ ประกอบธุรกิจเปิดร้านค้าขายส่ง

ข้อหา / คำสั่ง

มาตรา 14 (2) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ, มาตรา 14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ, มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

วันที่ 1 และ 2 สิงหาคม 2556 กิตติธนใช้นามแฝง “เคนจิ” โพสต์ตอบกระทู้ในเว็บบอร์ดอินเทอร์เน็ตฟรีดอมรวม 2 ข้อความ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2)(3)

นอกจากนี้ยังตรวจพบไฟล์ภาพและข้อความที่เป็นการดูหมิ่น จาบจ้วงพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และพระบรมวงศานุวงศ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์บันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ยึดได้ระหว่างจับกุม จึงเป็นความผิดฐานพยายามหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ

พฤติการณ์การจับกุม

30 สิงหาคม 2556
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) นำกำลังตำรวจหลายสิบนาย พร้อมรถตำรวจเกือบ 20 คัน เข้าจับกุมกิตติธน ที่บ้านในจังหวัดสมุทรปราการ
 
ขณะถูกจับกุม กิตติธนกำลังเปิดหน้าเว็บบอร์ดอินเทอร์เน็ตฟรีดอม และล็อกอินในชื่อ “เคนจิ”
 
กิตติธนถูกนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.สมุทรปราการ และถูกตั้งข้อหาหมิ่นประมาทพระกษัตริย์ฯ ตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 กิตติธนรับสารภาพในชั้นสอบสวน เขาถูกส่งตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากฝากขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

อ.4345/2556

ศาล

ศาลอาญา

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
22 พฤศจิกายน 2556
 
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ ฟ้องกิตติธนต่อศาลอาญา ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และพยายามหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายฯ
 
คำบรรยายฟ้องสรุปได้ดังนี้
 
1.จำเลยตระเตรียมและพยายามกระทำความผิด โดยมีเจตนาที่จะหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาท กล่าวคือ จำเลยมีภาพถ่ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระราชินี สมเด็จพระเทพฯ และองค์เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ รวมทั้งองค์รัชทายาทของแต่ละพระองค์ที่เสด็จไปสถานที่ต่างๆ ในพระอิริยาบถต่างๆ
 
แล้วจำเลยได้เขียน พิมพ์ข้อความต่างๆ ประกอบพระบรมฉายาลักษณ์ โดยเป็นข้อความในลักษณะดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ซึ่งเมื่อมีผู้มาพบเห็นภาพถ่ายและข้อความดังกล่าว จะเข้าใจผิดว่าพระมหากษัตริย์ทรงสร้างภาพมาโดยตลอดว่าพระองค์เป็นผู้ยิ่งใหญ่ต่อสายตาชาวโลก ซึ่งจำเลยได้ตระเตรียมเอกสารและภาพถ่ายพร้อมข้อความดังกล่าวและบันทึกไว้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แผ่นซีดี แฟ้มข้อมูลคอมพิวเตอร์ ระบบอินเทอร์เน็ต ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตทั่วโลก เพื่อเผยแพร่ภาพและข้อความดังกล่าว
 
และเมื่อมีผู้พบเห็นก็จะทำให้เกิดการดูหมิ่นเกลียดชังฯ พระมหากษัตริย์ จำเลยได้กระทำความผิดไปโดยตลอดแล้วแต่การกระทำไม่บรรลุผล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้น ยึดภาพถ่ายและข้อความต่างๆ พร้อมอุปกรณ์สื่อสารทางอินเทอร์เน็ตก่อนที่จำเลยจะโพสต์ข้อความดังกล่าวลงเว็บไซต์ www.dangdd.com ซึ่งเปลี่ยนชื่อโดเมนเนมมาจาก www.internettofreedom.com 
 
2.วันที่ 1 สิงหาคม 2556 จำเลยใช้ชื่อล็อกอิน "เคนจิ" ใช้อีเมล์ [email protected] เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับบริษัท ทรูอินเทอร์เน็ต จำ กัดซึ่งปรากฏไอพี 108.162.199.196 นำภาพถ่ายและข้อความหยาบคาย ในลักษณะสาปแช่ง ดูหมิ่น หมิ่นประมาท จาบจ้วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี แสดงต่อบุคคลทั่วไป ด้วยการโพสต์ลงในเว็บไซต์ www.dangdd.com ซึ่งปรากฏไอพี  โดยประการที่น่าจะทำให้น่าจะทำให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี ซึ่งทั้งสองทรงเป็นที่เคารพสักการะต้องเสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง และเกิดความเสื่อมศรัทธาเข้าใจผิดได้ว่า
 
สถาบันพระมหากษัตริย์ปิดบังการเสร็จสวรรคตของทั้งสองพระองค์  และเป็นการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่นำจะทำให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
 
3.วันที่ 2 สิงหาคม 2556 จำเลยใช้ชื่อล็อกอิน "เคนจิ" ใช้อีเมล์ [email protected] เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับบริษัท ทรูอินเทอร์เน็ต จำ กัดซึ่งปรากฏไอพี 108.162.199.196 นำภาพถ่ายและข้อความหยาบคาย ในลักษณะสาปแช่ง ดูหมิ่น หมิ่นประมาท จาบจ้วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี แสดงต่อบุคคลทั่วไป ด้วยการโพสต์ลงในเว็บไซต์ www.dangdd.com ซึ่งปรากฏไอพี  โดยประการที่น่าจะทำให้น่าจะทำให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี ซึ่งทั้งสองทรงเป็นที่เคารพสักการะต้องเสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง และเกิดความเสื่อมศรัทธาเข้าใจผิดได้ว่า
 
สถาบันพระมหากษัตริย์ปิดบังการเสร็จสวรรคตของทั้งสองพระองค์  และเป็นการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่นำจะทำให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
 
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (2) (3), ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 91, 112 และพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 มาตรา 4

12 ธันวาคม 2556

นัดฟังคำพิพากษา
 
ที่ห้องพิจารณาคดี 715 ศาลอาญา รัชดา มีผู้สังเกตการณ์คดี 6 คน ศาลขึ้นบัลลังก์เวลา 9.55 น. และอ่านคำพิพากษาในเวลาประมาณ 10.00 น.
 
ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 มาตรา112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(2)(3) เป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมตามกระทงความผิด
 
ในความผิดฐานพยายามหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามมาตรา 112 ประกอบ มาตรา 80 ให้ลงโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน ส่วนในความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ และฐานนำเข้าข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ 2 กรรม เป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท พิจารณาลงโทษจำคุกในฐานความผิดสูงสุด ลงโทษกรรมละ 5 ปี รวมเป็น 10 ปี
 
จำเลยรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ลดโทษกึ่งหนึ่งในฐานพยายามหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ เหลือจำคุก 1 ปี 8 เดือน และในฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ เหลือจำคุกกรรมละ 2 ปี 6 เดือน เหลือโทษจำคุกทั้งสิ้น 5 ปี 20 เดือน
 
หลังการพิพากษาจำเลยตั้งใจจะไม่ยื่นอุทธรณ์และขอพระราชทานอภัยโทษต่อไป
 
8 สิงหาคม 2559
 
ราชกิจจานุเบกษาตีพิมพ์พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2559 กิตติธนอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการลดหย่อนโทษตามพระราชกฤษฎีกานี้ด้วย โดยกิตติธนอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับปล่อยตัวก่อนครบกำหนดโทษเดิม 
 
7 กันยายน 2559
 
กิตติธนได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพในช่วงเช้า
 

 

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา