คฑาวุธ: รายการนายแน่มาก

อัปเดตล่าสุด: 23/10/2560

ผู้ต้องหา

คฑาวุธ

สถานะคดี

ตัดสินแล้ว / คดีถึงที่สุด

คดีเริ่มในปี

2557

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

อัยการศาลทหารกรุงเทพ

สารบัญ

คฑาวุธจัดรายการวิเคราะห์การเมือง "นายแน่มาก" เผยแพร่บนอินเทอร์เนตตั้งแต่ก่อนการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ในวันที่ 2 มิถุนายน 2557  มีคำสั่งเรียกคฑาวุธเข้ารายงานตัวกับคสช.  คฑาวุธเข้ารายงานตัวตามคำสั่งในวันที่ 3 มิถุนายน 2557และถูกควบคุมตัวในค่ายทหารตามกฎอัยการศึกเป็นเวลา 7 วัน

ครบกำหนดเจ็ดวันคฑาวุธถูกนำตัวไปตั้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 โดยพนักงานสอบสวนแจ้งว่ารายการที่เขาจัดตอนหนึ่งมีเนื้อหาเข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ คฑาวุธเคยถูกฝากขังด้วยอำนาจศาลพลเรือนแต่ภายหลังถูกย้ายไปฝากขังโดยอำนาจศาลทหาร เจ้าหน้าที่ระบุว่าคดีของคฑาวุธอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลทหารเพราะเนื้อหาซึ่งเป็นความผิดยังเข้าถึงได้หลังมีประกาศให้พลเรือนที่ทำความผิดบางประเภทรวมทั้งมาตรา 112 ขึ้นศาลทหาร

ตั้งแต่ถูกฝากขังคฑาวุธยื่นคำร้องขอประกันตัวหลายครั้งแต่ศาลก็ไม่อนุญาตเขาจึงถูกคุมขังเรื่อยมา ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 คฑาวุธรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ศาลทหารพิพากษาจำคุกคฑาวุธเป็นเวลาห้าปี 

ในวันที่ 8 สิงหาคม 2559 มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ 2559 คฑาวุธอยู่ในเกณฑ์ที่จะรับการปล่อยตัวก่อนกำหนด คฑาวุธได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพในวันที่ 7 กันยายน 2559 รวมระยะเวลาถูกคุมขังเป็นเวลา 822 วัน

ภูมิหลังผู้ต้องหา

คฑาวุธเคยเป็นนายทหารพระธรรมนูญ และเคยเป็นทนายความ ก่อนถูกควบคุมตัวคฑาวุธเป็นดีเจจัดรายการวิทยุวิเคราะห์การเมืองบนอินเทอร์เน็ต ชื่อ "นายแน่มาก” ซึ่งหนึ่งตอนยาวประมาณหนึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง รายการของคฑาวุธเผยแพร่บนเว็บไซต์ของเขาเองแต่ก็มีคนเอาไปโหลดไว้บนเว็บไซต์ยูทูปด้วย

ข้อหา / คำสั่ง

มาตรา 14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ, มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

คฑาวุธและบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า "หนุ่มลับแล" ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นผู้ใด ร่วมกันจัดรายการวิทยุออนไลน์ ที่มีเนื้อหาเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

พฤติการณ์การจับกุม

คฑาวุธ มีชื่ออยู่ในคำสั่งเรียกบุคคลรายงานตัวของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 44/2547 ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2557

คฑาวุธเดินทางมารายงานตัวในวันที่ 3 มิถุนายน 2557 หลังมารายงานตัว คฑาวุธถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก ก่อนจะถูกตั้งข้อหาและถูกนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

54 ก./ 2557

ศาล

ศาลทหารกรุงเทพ

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล

2 มิถุนายน 2557

ชื่อของคฑาวุธปรากฎอยู่ในคำสั่งคสช. ฉบับที่ 44 ซึ่งกำหนดให้คฑาวุธเข้ารายงานตัวที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศน์ ภายในวันที่ 3 มิถุนายน 2557

3 มิถุนายน 2557

คฑาวุธเดินทางเข้ารายงานตัวตามคำสั่งของคสช. และถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก

9 มิถุนายน 2557 

หลังถูกควบคุมตัวตามกฎครบ 7 วัน  คฑาวุธถูกนำมาควบคุมตัวต่อที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง เพื่อให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา

10 มิถุนายน 2557

คฑาวุธถูกนำตัวไปที่ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อพบพนักงานสอบสวน ในบ่ายวันเดียวกันคฑาวุธถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา โดยมีเพื่อนและทีมงานช่วยกันระดมเงินจำนวน 200,000 บาทเพื่อยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยพนักงานสอบสวนไม่คัดค้าน

ต่อมาศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจาก ข้อหาที่ถูกกล่าวหามีอัตราโทษสูง การกระทำกระทบต่อจิตใจประชาชนจึงเป็นเรื่องร้ายแรง ทั้งเป็นการดำเนินการผ่านเว็บไซต์โดยมีกลุ่มดำเนินการอยู่ที่สปป.ลาว ซึ่งผู้ต้องหามีธุรกิจก่อสร้างอยู่ ดังนั้นหากปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาอาจหลบหนีออกนอกประเทศ ยากแก่การติดตามตัว

คฑาวุธถูกนำตัวไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

9 กรกฎาคม 2557

ทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวเป็นครั้งที่สามด้วยหลักทรัพย์เงินสด 400,000 บาท ศาลสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว เพราะคำร้องไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงความร้ายแรงของข้อหา

18 กรกฎาคม 2557

ทนายความยื่นขอประกันตัวครั้งที่สี่ด้วยหลักทรัพย์เงินสด 500,000 บาท ศาลสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว เพราะคำร้องไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

22 สิงหาคม 2557 

พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอยุติการฝากขังต่อศาลอาญาในช่วงเช้า และควบคุมตัวคฑาวุธไปขออำนาจศาลทหาฝากขังในช่วงบ่าย โดยพนักงานสอบสวนแจ้งว่าอัยการมีความเห็นว่าคดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจของศาลอาญา แต่อยู่ในอำนาจของศาลทหารตามประกาศคสช.ฉบับที่ 37/2557

ในวันเดียวกันคฑาวุธยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อศาลทหารพร้อมวางเงินสด 300,000 บาทเป็นหลักประกัน ต่อมาศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่า "พนักงานสอบสวนไม่อยู่ที่ศาลขณะยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวและติดต่อไม่ได้ แต่ตามคำร้องฝากขัง พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวไว้ เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ศาลนำมาประกอบการพิจารณาด้วยแล้ว พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่าหากปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาแล้วอาจจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่การสอบสวนของเจ้าพนักงาน หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงไม่อนุญาต"

21 ตุลาคม 2557

นัดสอบคำให้การ

คฑาวุธถูกควบคุมตัวมาถึงศาลตั้งแต่เช้า เวลาประมาณ 9.00 ตัวแทนจากสถานทูตของสหภาพยุโรปเดินทางมาถึงศาลทหารและลงไปพูดคุยกับคฑาวุธที่ห้องควบคุมชั้วคราวเป็นเวลาสั้นๆ ก่อนที่คฑาวุธจะถูกควบคุมตัวไปยังห้องพิจารณาคดี 1 ในเวลาประมาณ 9.30 น. 

ในห้องพิจารณาคดี นอกจากจะมีคฑาวุธซึ่งเป็นจำเลย และทนายจำเลยแล้ว ยังมีเลขาของคฑาวุธและตัวแทนจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย ส่วนผู้แทนจากสถานทูตของสหภาพยุโรปไม่ได้เข้ามาในห้องพิจารณาคดีเพราะได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศาลว่าศาลจะพิจารณาลับ

ในเวลาต่อมา ระหว่างที่จำเลยรวมทั้งผู้สังเกตการณ์กำลังนั่งรอศาลขึ้นบัลลังก์ เจ้าหน้าที่ศาลซึ่งเป็นนายทหารแจ้งกับผู้มาสังเกตการณ์คดีว่า ศาลจะพิจารณาคดีเป็นการลับ เพราะคดีนี้เป็นคดีความมั่นคง ขอให้ผู้ที่ไม่ใช่คู่ความหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออกจากห้องพิจารณาคดี  

ผู้สังเกตการณ์หลายคนพยายามสอบถามและชี้แจงเหตุผลที่ควรอนุญาตให้เข้าสังเกตการณ์แต่ถูกปฏิเสธอย่างสุภาพ

หลังจากผู้สังเกตการณ์ทั้งหมดออกไปนั่งรอหน้าห้องพิจารณาคดีไม่นาน เจ้าหน้าที่ศาลเดินกลับมาแจ้งกับผู้สังเกตการณ์ที่ยังนั่งรออยู่หน้าห้องว่า ศาลให้ทุกคนเข้าห้องพิจารณา เพื่อฟังคำสั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดี
 
ศาลก็ขึ้นบัลลังก์เวลาประมาณ 9.50 น.  อัยการลุกขึ้นแถลงขอให้ศาลสั่งพิจารณาคดีเป็นการลับ โดยให้เหตุผลซึ่งสรุปความได้ว่า คดีนี้จำเลยถูกฟ้องว่า หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อ พระมหากษัตริย์ พระราชินี องค์รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เป็นคดีที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งข้อความตามฟ้องในคดีเป็นความลับของทางการที่ไม่สมควรเปิดเผยให้ประชาชนทั่วไปล่วงรู้ เพราะอาจเกิดผลในทางร้าย 
 
ก่อนที่จะให้โอกาสจำเลยคัดค้าน ศาลกล่าวว่า พิจารณาแล้วเห็นว่า เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ประกอบกับมีการพาดพิงสถาบันเบื้องสูง เพื่อประโยชน์แห่งความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงให้การพิจารณาคดีทั้งสองเป็นการพิจารณาโดยลับตลอดกระบวนการ ขอให้ผู้ที่ไม่ใช่คู่ความทั้งหมดออกจากห้องพิจารณาคดี 
 
ทนายจำเลยเปิดเผยหลังเสร็จสิ้นกระบวนพิจารณาว่า จำเลยขอเลื่อนนัดสอบคำให้การ เนื่องจากยังไม่พร้อมให้การ ศาลอนุญาตให้เลื่อนได้ โดยนัดใหม่เป็นวันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 การพิจารณาในนัดดังกล่าว จะเป็นการพิจารณาลับ
 
ทนายจำเลยเปิดเผยด้วยว่า ศาลไม่อนุญาตให้คัดถ่ายรายงานกระบวนพิจารณา (บันทึกรายละเอียดของการพิจารณา ซึ่งรวมถึงเหตุผลในการออกคำสั่งให้พิจารณาคดีโดยลับด้วย) โดยให้เหตุผลว่า ได้อ่านให้ฟังแล้ว 
 
18 พฤศจิกายน 2557
 
นัดสอบคำให้การ
 
ศาลทหารนัดสอบคำให้การ จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลทหารพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ลงโทษจำคุก 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี
 
คำตัดสินนี้ถือเป็นที่สุดเนื่องจากเป็นการพิจารณาของศาลทหารในเวลาไม่ปกติ ซึ่งมีการพิจารณาเพียงชั้นเดียว จำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์หรือฎีกา
 
ทั้งนี้ ในการสอบคำให้การและการอ่านคำพิพากษา ไม่มีผู้สังเกตการณ์ภายนอกแต่อย่างใดเนื่องจากศาลสั่งให้พิจารณาคดีนี้เป็นการลับโดยตลอด 
 
8 สิงหาคม 2559
 
ราชกิจจานุเบกษาตีพิมพ์พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2559 คฑาวุธอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการลดหย่อนโทษตามพระราชกฤษฎีกานี้ด้วย โดยคฑาวุธเข้าเกณฑ์ได้รับปล่อยตัวก่อนครบกำหนดโทษเดิม 
 
7 กันยายน 2559
 
มีรายงานว่าคฑาวุธได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำแล้ว รวมถูกจำคุกทั้งสิ้น 882 วัน
 

คำพิพากษา

ศาลทหารพิพากษาจำคุกคฑาวุธเป็นเวลาสิบปี แต่คฑาวุธรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุกห้าปี

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา