ผู้จัดการสุดสัปดาห์: คสช.สั่งเตือน

อัปเดตล่าสุด: 02/12/2559

ผู้ต้องหา

เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์

สถานะคดี

อื่นๆ

คดีเริ่มในปี

2557

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

สารบัญ

เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์ฉบับที่ 253 ตีพิมพ์เนื้อหาที่เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนประกาศคสช. เป็นเหตุให้คสช. ออกคำสั่งตักเตือน 

ภูมิหลังผู้ต้องหา

เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์ เป็นหนังสือพิมพ์ข่าวสุดสัปดาห์ของเครือเอเอสทีวี ผู้จัดการ ตีพิมพ์เผยแพร่ทุกสัปดาห์

ข้อหา / คำสั่ง

กฎอัยการศึก, อื่นๆ
ฝ่าฝืนประกาศคสช.ฉบับ 97/2557 และฝ่าฝืนประกาศคสช.ฉบับ 103 แก้ไขเพิ่มเติมจากฉบับที่ 97

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

คำสั่ง คสช. ฉบับที่ 108/2557 ระบุว่า เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์ฉบับที่ 253 วันที่ 26 กรกฎาคม-1 สิงหาคม 2557 ตีพิมพ์ข้อความเข้าข่ายเป็นการทำลายความน่าเชื่อของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 97/2557 และ 103/2557 โดยคสช.กล่าวหาสามประเด็น คือ 

1. บนหน้าปกหนังสือ และในหน้า 4 ซึ่งมีข้อความว่า “ธรรมนูญ “บิ๊กตู่” คสช.พ่อทุกสถาบัน” ซึ่งเป็นข้อความที่เสียดสี และอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ว่าหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติอยู่เหนือสถาบันเบื้องสูง

2. ในคอลัมน์ “สมการการเมือง” ซึ่งตีพิมพ์ในหน้าที่ 16 มีข้อความที่ว่า “ส่วนคนที่ได้รับอำนาจตรงในการเลือกสรรเครื่องสุขภัณฑ์นั้น ไม่ใช่ “บิ๊ก คสช.” อย่างที่เข้าใจกัน แต่เป็นทายาทของ “บิ๊ก คสช.” รายหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเล่นว่า “น้องตาล” ฟังผิวเผินชื่อ “ตาล” คล้ายกับชื่อ “ตู่” ที่มี ต.เต่า เหมือนกัน จนนึกไปว่า “น้องตาล” เป็นลูก “บิ๊กตู่” แต่หากลองคลิกเข้าไปใน “อาจารย์กูเกิล” แล้วคงจะถึงบางอ้อว่า “บิ๊กตู่” มีลูก 2 คน เป็นผู้หญิงทั้ง 2 คน และไม่ได้ชื่อใกล้เคียงกับ “ตาล” เลย แต่ “น้องตาล” กลับเป็นชื่อทายาทของ “บิ๊ก คสช.” ผู้ที่ยังมากบารมี แต่ขอลดบทบาท เพื่อแต่งตัวรอบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่า การให้ “ลูกตาล” ซึ่งถือเป็นคนรู้ใจมาเลือกสิ่งอำนวยความสะดวกใน “ทำเนียบรัฐบาล-ตึกไทยคู่ฟ้า” อาจจะส่งสัญญาณบางอย่างออกมาให้เห็น “บิ๊ก คสช.” ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี อาจจะไม่ใช่ “บิ๊กตู่” อย่างที่คาดเดากัน แต่มี “ตาอยู่” ที่ “บิ๊กตู่” วางใจให้มาสานงานต่อ ก็เป็นได้ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คนกันเองใน คสช.นั่นแล”

3. ใน “คอลัมน์ป้อมพระสุเมรุ” ที่ตีพิมพ์ในหน้าที่ 18-19 เขียนเอาไว้ว่า “การคัดสรรสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ว่ามีลักษณะเป็นการต่างตอบแทน เอาโควตามาแบ่งเค้ก”

 

พฤติการณ์การจับกุม

ไม่มีข้อมูล

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ไม่มีข้อมูล

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
18 กรกฎาคม 2557
คสช. ออกประกาศฉบับที่ 97/2557 เรื่อง การให้ความร่วมมือต่อการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ กำหนดให้ ผู้ประกอบกิจการและผู้ให้บริการด้านสื่อมวลชนทุกประเภท ทั้งที่เป็นของราชการและเอกชน มีหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามที่ได้รับแจ้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และให้งดเว้นจากการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จที่ส่อไปในทางหมิ่นประมาท หรือสร้างความเกลียดชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ องค์รัชทายาท และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ หรือ การวิพากษ์ วิจารณ์การปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
 
ประกาศฉบับนี้ทำให้หลายฝ่ายโดยเฉพาะสมาคมวิชาชีพสื่อออกมาแสดงความกังวล และ เรียกร้องให้คสช. ยกเลิกประกาศฉบับดังกล่าว
 
 
 
21 กรกฎาคม 2557
 
หลังถูกหลายฝ่ายโดยเฉพาะสมาคมวิชาชีพสื่อออกมาวิพากษ์วิจารณ์ คสช.จึงออกประกาศฉบับที่ 103/2557 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 97/2557 เพื่อลดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เนื้อหาที่ถูกแก้ไขได้แก่ ให้เพิ่มเติมความในส่วนที่ ห้ามการวิพากษ์วิจารณ์ การปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็น การวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยมีเจตนาไม่สุจริตเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของคณะรักษาความสงบแห่งชาติด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จแทน 
 
   
26 กรกฎาคม 2557
 
เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์ฉบับที่ 253 วางแผง
 
ต่อมา คสช. ออกคำสั่งฉบับที่ 108/2557 เรื่อง การตักเตือนสื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งฝ่าฝืนข้อห้ามตามประกาศคสช. เนื้อหาของคำสั่งระบุว่า หนังสือพิมพ์ผู้จัดการสุดสัปดาห์ เผยแพร่เนื้อหาที่เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนประกาศ คสช. ในเบื้องต้นเห็นควรให้ตักเตือนก่อน หากยังฝ่าฝืนคำสั่งก็ให้มีการดำเนินการตามกฎอัยการศึก
 
28 กรกฎาคม 2557 
 
คสช. โดยคณะทำงานด้านกฎหมาย ส่วนงานรักษาความสงบเรียบร้อย ส่งหนังสือร้องเรียนมายังสภาการหนังสือพิมพ์ ระบุถึงรายละเอียดจากประกาศ คสช. ฉบับที่ 108 พร้อมระบุว่า หนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์ฉบับดังกล่าวมีข้อความเสียดสี – ลงข้อมูลเท็จ – มีเจตนาสุจริตทำลายความน่าเชื่อถือ คสช.

 

ที่มาข่าว ผู้จัดการออนไลน์

 

29 กรกฎาคม 2557
 
คสช.ได้ส่งหนังสือไปยังสภาการหนังสือพิมพ์ตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 108/2557 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2557 ระบุว่าหนังสือพิมพ์เอเอสทีวี ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 251 ตีพิมพ์ข้อความหลายเรื่อง เช่น ข้อความที่หน้าปกที่ว่า “ธรรมนูญ “บิ๊กตู่” คสช.พ่อทุกสถาบัน”  ทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ว่าหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติอยู่เหนือสถาบันเบื้องสูง ส่วนข้อความในหน้า 16 เขียนพาดพิงชื่อบุคคลที่มีหน้าที่เลือกสรรเครื่องสุขภัณฑ์ในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นทายาทของหัวหน้า คสช.
 
และข้อความในหน้า 18 ที่เปรียบเทียบการสรรหา สนช. กับการแบ่งเค้ก โดยในหนังสือของ คสช. ระบุว่า ข้อความดังกล่าวเป็นความเท็จ ถือว่าการกระทำดังกล่าวของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการสุดสัปดาห์มีเจตนาไม่สุจริตเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ถือว่าเป็นการฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 97/2557 และ 103/2557
 
ทั้งนี้ในวันที่ 29 ก.ค. สภาการหนังสือพิมพ์มีการเรียกประชุมด่วนในช่วงเช้า และมีมติให้นายสิทธิโชค ศรีเมือง รองประธานสภาการหนังสือพิมพ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ นำเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการพิจารณาตรวจสอบตามธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ. 2540 และข้อบังคับสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติว่าด้วยวิธีพิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ. 2540 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2554 
 
 
 
 
1 สิงหาคม 2557 
 
กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์ได้ส่งคำชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เรื่องร้องเรียนจริยธรรม ซึ่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร้องเรียนหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 251 วันที่ 26 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 2557 แล้ว 
 
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ http://www.manager.co.th/politics/viewnews.aspx?NewsID=9570000087495
 
 

2 สิงหาคม 2557

เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์ตีพิมพ์ฉบับที่ 252 ประจำวันที่ 2-8 สิงหาคม ด้วยหน้าปกสีดำล้วน พร้อมตีพิมพ์บทบรรณาธิการ น้อมรับคำตักเตือนและคำท้วงติงของคณะรักษาความสงบแห่งชาติด้วยความยินดี พร้อมชี้แจงเหตุผลการนำเสนอข่าวทั้งสามประเด็น ชี้ว่าไม่ใช่การนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ และมิได้มีเจตนาไม่สุจริตเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
 
พร้อมชี้ว่าเนื้อหาที่ เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์นำเสนอไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดจริยธรรมสื่อ หากแต่เป็นเรื่องที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีทัศนคติต่อเอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์ซึ่งอยู่นอกเหนือกระบวนการตรวจสอบปกติ ดังนั้น เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์จึงตัดสินใจที่จะหยุดการพิมพ์เพื่อยุติปัญหาทั้งมวล ไม่ต้องการให้สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติต้องมาแบกรับแรงกดดันจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติในการทำหน้าที่ที่นอกเหนือจากกรอบการทำงานที่มีอยู่เดิม ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติในการคงไว้ซึ่งการเป็นองค์กรที่ต้องการความเป็นอิสระ
       
อย่างไรก็ดี ด้วยพันธะความรับผิดชอบต่อสังคม หลังจากหยุดตีพิมพ์เป็นเวลา 1 เดือน เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์จะกลับมาทำหน้าที่สื่อที่ตรวจสอบองค์กรผู้มีอำนาจทุกองค์กรเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพอีกครั้ง

อ่านฉบับเต็มที่ ผู้จัดการออนไลน์

 

"จิตตนารถ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสื่อในเครือ ASTV ผู้จัดการได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ASTV ไม่เคยมีอคติใดๆ กับคสช. และเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิด ทั้งนี้ก็ยังขอร้องไปถึงคสช.ว่า "อย่ารังแกกันมากเกินไป"
 
อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ ผู้จัดการออนไลน์ 

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา