แบนหนัง อาบัติ

อัปเดตล่าสุด: 02/12/2559

ผู้ต้องหา

ภาพยนตร์ อาบัติ

สถานะคดี

อื่นๆ

คดีเริ่มในปี

2558

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม

สารบัญ

ภาพยนตร์ อาบัติ ของค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ถูกคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ฯสั่งห้ามฉาย เพราะมีเนื้อหาที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ภายหลังผู้สร้างตัดต่อเนื้อหาใหม่และเปลี่ยนชื่อภาพยนตร์เป็น อาปัติ ทำให้ได้ฉายในเรต 18+

ภูมิหลังผู้ต้องหา

ภาพยนตร์ อาบัติ สร้างโดยสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชันแนลและบาแรมยู เขียนบทและกำกับโดย ขนิษฐา ขวัญอยู่ เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่นำเสนอเรื่องราวของซัน เด็กหนุ่มวัย 19 ปีซึ่งมีนิสัยเอาแต่ใจและใช้ชีวิตคึกคะนองอย่างสุดขั้วที่ต่อมาถูกพ่อแม่บังคับให้บวชเณรเพื่อดัดนิสัย 
 
แม้จะบวชเป็นเณรแล้ว เณรซันก็ยังใช้ชีวิตเหมือนสมัยยังไม่ได้บวช ยังคงติดต่อกับแฟนสาว ดื่มสุรา รวมทั้งคบหากับเด็กสาวที่บ้านอยู่แถววัด การกระทำที่ท้าทายการอาบัติเหล่านี้ทำให้เณรซันต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ลึกลับที่ถูกปกปิดไว้ภายในวัด
 

ข้อหา / คำสั่ง

มาตรา 29 พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวิดีทัศน์

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ออกคำสั่งไม่อนุญาตให้ฉายภาพยนตร์เรื่อง อาบัติ โดยให้เหตุผลว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อหาที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน นำความเสื่อมเสียมาสู่พุทธศาสนา โดยนำเสนอพฤติกรรมทางลบของพระสงฆ์ ทั้งในเรื่องชู้สาว การเสพของมึนเมา การฆาตกรรม และไม่เคารพต่อพระพุทธรูป 

พฤติการณ์การจับกุม

ไม่มีข้อมูล

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ไม่มีข้อมูล

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
23 กันยายน 2558
 
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานว่า นายเสถียร วิพรมหา นายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) พร้อมภาคีเครือข่ายชาวพุทธอีก 5 องค์กร ได้แก่ สมาคมทางสายกลาง (ทสก.) เปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (ปธส.) องค์กรเครือข่ายภาคประชาชนพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ (อพช.) เครือข่ายสตรีพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย (คสพท.) และศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย (ศพศ.) เข้ายื่นหนังสือต่อนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เพื่อขอให้ทบทวนการฉายภาพยนตร์เรื่อง อาบัติ เพราะเห็นว่าภาพยนตร์ดังกล่าวมีเนื้อหาดูหมิ่นพระพุทธศาสนา ทำให้สงสัยว่าผู้สร้างอาจมีเจตนาทำลายศรัทธาของประชาชนต่อพุทธศาสนา และหากเผยแพร่ออกไปอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมได้
 
12 ตุลาคม 2558 
 
มติชนออนไลน์ รายงานว่า เวลาประมาณ 13.00 น. คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 มาตรา 29 มีมติ "ห้ามเผยแพร่ในราชอาณาจักร" หรือไม่อนุญาตให้ฉายภาพยนตร์ อาบัติ โดยให้เหตุผลว่ามีเนื้อหาที่นำความเสื่อมเสียมาสู่ศาสนาพุทธ กระทบต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เนื่องจากมีการนำเสนอพฤติกรรมทางลบของพระสงฆ์ เช่น การมีความสัมพันธ์กับสีกา เสพของมึนเมา จับเศียรพระพุทธรูป เป็นต้น ทำให้กำหนดฉายเดิมคือวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2558 ต้องถูกเลื่อนไปจนกว่าจะผ่านการพิจารณาอีกครั้ง
 
13 ตุลาคม 2558
 
ผู้ใช้ยูสเซอร์ Worakasem Rungmekarat ตั้งแคมเปญรณรงค์ในเว็บไซต์ change.org เรียกร้องให้ฉายภาพยนตร์ อาบัติ โดยไม่เซ็นเซอร์เนื้อหาใดๆ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เห็นมุมแห่งความเสื่อมของพุทธศาสนาในประเทศไทย ซึ่งในความเป็นจริงอาจแย่กว่าที่นำเสนอในภาพยนตร์ และทำให้พุทธศาสนิกชนตื่นตัวในการที่จะปกป้องทำนุบำรุงพุทธศาสนา โดยล่ารายชื่อ 150,000 ชื่อ เตรียมเสนอต่อกระทรวงวัฒนธรรม และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2558 เวลา 23.12 น. มีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุน 103,571 คน 
 
14 ตุลาคม 2558 
 
วอยซ์ ทีวี รายงานว่า ปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้ดำเนินงานสร้างภาพยนตร์ อาบัติ ให้สัมภาษณ์ว่า ทีมงานเดินทางไปสำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เพื่อยื่นคําขอให้มีการพิจารณาภาพยนตร์ อาบัติ อีกครั้ง หลังปรับเนื้อหาบางส่วนและเพิ่มเติมความหมายเพื่อป้องกันผู้ชมเข้าใจผิดแล้ว
 
ทั้งนี้ ปรัชญาเปิดเผยถึงเหตุที่ทีมงานไม่ยื่นอุทธรณ์คำสั่งว่า จากประสบการณ์ที่ตนเคยเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ จึงเข้าใจกระบวนการทำงานภายในที่ไม่เอื้อต่อการพิจารณาหนังอย่างรอบด้าน ซึ่งจะทำให้หนังเข้าฉายช้ากว่ากำหนดด้วย
 
16 ตุลาคม 2558
 
ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า เวลาประมาณ 13.30 น. ที่อาคารสำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ชุดที่ 1 ประชุมเพื่อตรวจพิจารณาภาพยนตร์เรื่องอาปัติ หลังทางผู้สร้างตัดเนื้อหาบางส่วนออก พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อภาพยนตร์จาก "อาบัติ" เป็น "อาปัติ" ซึ่งเป็นภาษาบาลีแต่มีความหมายคงเดิม โดยผลการพิจารณาคณะกรรมการจำนวน 5 คน ได้มีมติเป็นเอกฉันท์อนุญาตให้ฉายภาพยนตร์ อาปัติ ในเรต 18+ และจะเริ่มฉายในโรงภาพยนตร์ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2558 เป็นต้นไป 
 
ด้านสมบัติ ภู่กาญจน์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ชุดที่ 1 ชี้แจงว่า การพิจารณาไม่พบฉากที่ล่อแหลมและไม่มีภาพที่น่าวิตกกังวล ขณะเดียวกันพระสงฆ์ที่ได้ร่วมพิจารณาภาพยนตร์เรื่องอาบัติครั้งที่แล้ว ได้เข้าร่วมชมและยืนยันว่า หลายฉากที่ไม่เหมาะสม ล่อแหลม และน่ากลัวได้ถูกตัดออกไปแล้ว ส่วนเนื้อหาที่ส่งมาใหม่เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระและผี โดยเป็นคนที่เข้าไปอยู่ในพระพุทธศาสนาบวชเป็นสามเณรด้วยความไม่เต็มใจ เกิดล่วงละเมิดพระธรรมวินัยและต้องรับผลกรรมที่ทำไว้ ผู้สร้างพยายามแสดงให้เห็นว่าหากวันหนึ่งมีผู้ที่ไม่ดีเข้าไปอยู่ในพระพุทธศาสนาแล้วจะเป็นเช่นไร ดังนั้น จึงมีมติอนุญาตให้ฉายความยาว 86 นาทีได้ 
 
ประธานคณะกรรมการกล่าวต่อไปว่า การพิจารณาครั้งนี้อนุญาตให้จัดฉายในชื่อ "อาปัติ" เท่านั้น หากผู้สร้างนำไปจัดฉายโดยใช้ชื่อเรื่อง "อาบัติ" ซึ่งถูกห้ามฉายในราชอาณาจักรไทย หรือสับเปลี่ยนนำเวอร์ชั่นเก่ามาฉาย จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายภาพยนตร์และวีดิทัศน์มาตรา 77 และ 78 หากผู้ใดนำไปจัดฉายจะมีโทษปรับ 2 แสนถึง 1 ล้านบาท ส่วนผู้จัดสร้างมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท 
 
นอกจากนี้ สมบัติให้ความเห็นว่า การพิจารณาภาพยนตร์จะกำหนดเป็นลายลักษณ์อักษรให้เป็นบรรทัดฐานเลยคงทำได้ยาก เพราะใน พ.ร.บ.ภาพยนตร์จะกำหนดภาพกว้างๆ ไว้เท่านั้น ซึ่งก็ให้คณะกรรมการใช้ดุลยพินิจพิจารณา เพราะภาพยนตร์ไม่มีสูตรสำเร็จ จึงต้องถกเถียงกันเพื่อให้ได้ความเหมาะสมที่สุด

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา