วัฒนา เมืองสุข: ฝ่าฝืนเงื่อนไขการปล่อยตัว

อัปเดตล่าสุด: 19/06/2560

ผู้ต้องหา

วัฒนา เมืองสุข

สถานะคดี

ชั้นอัยการ

คดีเริ่มในปี

2559

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

พ.อ.จรัญ สังข์ศิริ คณะทำงานด้านกฎหมาย รับมอบอำนาจจากหัวหน้าคณะทำงานด้านกฎหมายส่วนรักษาความสงบเรียบร้อย สำนักงานเลขาธิการ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นผู้กล่าวโทษให้ดำเนินคดี

สารบัญ

18 เมษายน 2559 วัฒนา เมืองสุข นักการเมืองพรรคเพื่อไทยถูก คสช. เรียกรายงานตัวเป็นครั้งที่ 4 ครั้งนี้ต้องนอนค่ายทหารเป็นเวลาสามคืน เนื่องจากการโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เกี่ยวกับเสรีภาพในการพูดเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ

เนื่องจากวัฒนาเคยลงนามในข้อตกลงการปล่อยตัวไว้ว่าจะไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 คสช. จึงตั้งข้อหาวัฒนาว่า ฝ่าฝืนเงื่อนไขการปล่อยตัว ซึ่งเป็นความผิดตามประกาศคสช.ฉบับที่ 39/2557 มีโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท

ภูมิหลังผู้ต้องหา

วัฒนา เมืองสุข  เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปราจีนบุรี

นอกจากคดีนี้ วัฒนายังถูกตั้งข้อหากระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ  จากกรณีที่วิจารณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งให้สัมภาษณ์กรณีที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีถูกเจ้าหน้าที่ทหารติดตามและถ่ายภาพว่า เป็นเพราะ ยิ่งลักษณ์เป็นคนสวย ซึ่งวัฒนาวิจารณ์ว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวมีลักษณะเหยียดเพศ 
 
วัฒนา ถูกคสช.เรียกให้ไปรายงานตัวหลายครั้ง การเรียกในคดีนี้เป็นการเรียกรายงานตัวครั้งที่ 4 โดยครั้งแรก วัฒนาถูกเรียกรายงานตัวเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 โดยคำสั่งคสช. ฉบับที่ 3/2557 ในยุครัฐบาลคสช. วัฒนาใช้เฟซบุ๊ก Watana Muangsook แสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง จนถูกเรียกรายงานตัวครั้งที่สองในวันที่ 17 กรกฎาคม 2558 และครั้งที่ 3 ในวันที่ 2 มีนาคม 2559

ข้อหา / คำสั่ง

อื่นๆ
ฝ่าฝืนประกาศคสช. ฉบับที่ 39/2557

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

วัฒนาเคยเข้ารายงานตัวกับคสช. ตามคำสั่งเรียกรายงานตัวที่ ฉบับที่ 3/2557 เมื่อได้รับการปล่อยตัววัฒนาลงนามในเอกสารที่มีเงื่อนไขว่า ให้อาศัยอยู่ใน จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นภูมิลำเนา ห้ามเดินทางออกนอกประเทศและห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น

เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2559 วัฒนาโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก หัวเรื่อง "ผมก็ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ"  เนื้อหาสรุปใจความได้ว่า ในการทำประชามติ ทุกฝ่ายมีสิทธิที่จะแสดงความเห็นทั้งสนับสนุนและคัดค้านต่อร่างรัฐธรรมนูญ การที่ คสช. ให้สัมภาษณ์ทำนองว่าจะนำผู้ฝ่าฝืนมาเข้าในหลักสูตรการฝึกอบรมผู้นำการสร้างชาติอย่างสร้างสรรค์ เป็นการข่มขู่เพื่อจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หลังจากนั้นจึงถูกทหารเรียกตัวไปเข้าค่ายทหารอีกครั้ง ก่อนถูกตั้งข้อหาว่า ผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวที่เคยลงนามเอาไว้ ซึ่งเป็นความผิดตาม ประกาศคสช. ฉบับที่ 39/2557 

พฤติการณ์การจับกุม

18 เมษายน 2559 ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วัฒนา พร้อมลูกสาว เดินทางไปที่กองพันทหารราบ มณฑลทหารราบที่ 11 (มทบ.11) ตามที่นัดหมายกับทหารและประกาศต่อสาธารณะไว้ ว่าจะไปรายงานตัว และเดินเข้าไปภายในร้านข้าวแกงข้างทางที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ มทบ.11 เพื่อนั่งพูดคุยกับทนายความ และ นายจาตุรนต์ ฉายแสง จากนั้นมีทหารเดินข้ามถนนมาควบคุมตัววัฒนาทันที 

ขณะกำลังถูกพาตัวเข้าไปในค่ายทหาร วัฒนา ตะโกนบอกสื่อมวลชนว่า หากไม่ได้ออกมาในเวลา 15.00 น. แสดงว่า คสช. กำลังใช้อำนาจโดยไม่ชอบกักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้ขาดอิสรภาพ โดยพูดไว้ว่า "ผมจะออกมาเวลา 15.00 น. หากผมไม่ออกมาตามเวลาดังกล่าว แสดงว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติผิดหลักสิทธิมนุษยชน" 

ดูคลิปเหตุการณ์คณะวัฒนาถูกพาเข้าไปในมทบ.11ได้ที่

 

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ศาลทหารกรุงเทพ

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
23 พฤษภาคม 2557
 
วัฒนาถูกเรียกรายงานตัวตาม คำสั่งคสช. ฉบับที่ 3/2557 และเมื่อไปรายงานตัว เขาถูกนำตัวไปควบคุมที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ก่อนที่วันที่ 25 พฤษภาคม 2557 คสช.จะพิจารณาปล่อยตัวนายวัฒนา โดยมีเงื่อนไข ได้แก่ ให้อาศัยอยู่ใน จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นภูมิลำเนา ห้ามเดินทางออกนอกประเทศและห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น โดยขณะนั้นวัฒนาก็เซ็นชื่อยอมรับเงื่อนไขดังกล่าว 
 
13 เมษายน 2559
 
วัฒนา โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กเพจ Watana Muangsook ว่า "ผมได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ทหารชุดที่เคยนำกำลังมาควบคุมตัวผมว่า ได้รับคำสั่งให้มาควบคุมตัวผมในวันนี้เวลา 17.00 น. เนื่องจากการโพสต์ข้อความของผมในเช้าวันนี้เรื่อง "ผมก็ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ" บังเอิญผมไม่อยู่บ้านทหารเลยขอมารับตัวผมที่บ้านในวันพรุ่งนี้ (14 เมษายน) เวลา 14.00 น. แต่เนื่องเป็นวันหยุดสงกรานต์ซึ่งเป็นวันครอบครัวและผมอยู่ต่างจังหวัด ผมเลยต่อรองขอใช้เวลาในวันหยุดอยู่กับครอบครัว ขอให้มารับตัวผมในวันจันทร์ที่ 18 เมษายน เวลา 11.00 น. ที่บ้านผมเลขที่ 318 หมู่บ้านสินเก้า ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร 10250 เบื้องต้นทหารแจ้งว่าไม่อนุญาต ยืนยันจะมารับตัวผมในวันพรุ่งนี้เวลา 14.00 น. ตามเดิม แต่ผมขออยู่กับครองครัวและจะไปให้ควบคุมตัวในวันจันทร์ที่ 18 เมษายน เวลา 11.00 น. ครับ ขณะนี้ผมรอฟังผลอยู่ครับ"
 
 
15 เมษายน 2559
 
วัฒนา โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กเพจ Watana Muangsook ว่า ทหารยกกำลังมาที่บ้านเพื่อจะควบคุมตัว โดยทีมโฆษก คสช. เปิดเผยสาเหตุการเชิญตัวว่าตนให้ความเห็นในเชิงไม่สร้างสรรค์ ผิดข้อตกลงที่ให้ไว้และมีเจตนาท้าทายอำนาจของ คสช. ขณะนี้กองกำลังยังปักหลักปิดหน้าบ้านจนลูกเมียเข้าบ้านไม่ได้ ต้องย้ายไปหาที่นอนใหม่ และบอกด้วยว่าวันจันทร์ที่ 18 เมษายน เวลา 11.00 น. เมื่อเสร็จธุระแล้วจะไปรายงานตัว 
 
17 เมษายน 2559
 
วัฒนา โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กเพจ Watana Muangsook อีกครั้งว่า ยืนยันจะไปตามนัดในวันรุ่งขึ้น แต่ไม่ได้ทำผิดกฎหมายและไม่เคยทำผิดข้อตกลง คสช. จึงไม่มีอำนาจมาควบคุมตัวผม อีกทั้งไม่ยินดีและไม่รับเชิญที่จะไปพูดคุยใดๆ กับ คสช. หากต้องไปก็ด้วยถูกกำลังบังคับอันเป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจ
 
18 เมษายน 2559
 
ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองพันทหารราบ มณฑลทหารราบที่ 11 วัฒนา เมืองสุข เดินทางมาตามหมายเรียกคำสั่ง คสช. ซึ่งเป็นการถูกเรียกเป็นครั้งที่ 4 แล้ว หลังเจ้าหน้าที่ทหารเคยตรึงกำลังบริเวณหน้าบ้านย่านถนนศรีนครินทร์ แต่ไม่พบตัว จนกระทั่ง นายวัฒนา ติดต่อว่าจะเดินทางมาในวันนี้
 
เมื่อวัฒนา เดินทางมาถึงพร้อมลูกสาว ได้เดินเข้าไปภายในร้านข้าวแกงข้างทางที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ มทบ.11 เพื่อนั่งพูดคุยกับทนายความ และจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จากนั้นมีทหารเดินข้ามถนนมาควบคุมตัวทันที โดยวัฒนา ตะโกนบอกสื่อมวลชนว่า หากไม่ได้ออกมาในเวลา 15.00 น. แสดงว่า คสช. กำลังใช้อำนาจโดยไม่ชอบกักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้ขาดอิสรภาพ โดยพูดไว้ว่า "ผมจะออกมาเวลา 15.00 น. หากผมไม่ออกมาตามเวลาดังกล่าว แสดงว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติผิดหลักสิทธิมนุษยชน" 
 
เวลา 18.30 น. ไทยรัฐออนไลน์รายงานอีกว่า แหล่งข่าวคสช. เปิดเผยถึงการควบคุมตัววัฒนา เมืองสุข ว่า การเชิญตัววัฒนาในวันนี้เนื่องจากวัฒนาได้ขัดคำสั่งและฝ่าฝืนคำสั่งของ คสช. โดยมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2557 หลังจากที่ให้นักการเมืองมารายงานตัวและมีการทำสัญญาว่าจะไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง แต่วัฒนายังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองมาโดยตลอดด้วยการแสดงความคิดเห็นในเชิงชี้นำผ่านโซเชียลมีเดีย วัฒนาไม่เคยทำตามข้อตกลงที่ลงนามไว้กับ คสช. โดยการโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ คสช. อย่างต่อเนื่อง ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ ได้ทำหนังสือบันทึกแจ้งการควบคุมตัวให้วัฒนาลงนามในหนังสือดังกล่าวโดยมีเนื้อหาระบุว่า "ข้าพเจ้า นายวัฒนา เมืองสุข ได้ถูกควบคุมตัวตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ในความผิดฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 39/2557 ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2559 จนถึง…." ในท้ายบันทึกยังเขียนอีกว่า ข้าพเจ้าได้รับการแจ้งการควบคุมตัวดังกล่าวเป็นที่เข้าใจแล้วจึงลงนามลายมือชื่อไว้เพื่อเป็นหลักฐานพร้อมกับมีลายเซ็นกำกับ
 
แหล่งข่าวคสช. ยังเปิดเผยอีกว่า สำหรับสถานที่ควบคุมตัววัฒนา ขณะนี้ได้เปลี่ยนมาใช้ค่ายทหารแห่งหนึ่งบริเวณปริมณฑลแทนที่เดิม คือ มณฑลทหาร บกที่ 11 (มทบ.11) แล้ว โดยขอไม่บอกว่าจะปล่อยตัวนายวัฒนาได้เมื่อใด 
 
19 เมษายน 2559
 
ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกลคสช. กล่าวว่า การเชิญวัฒนา เมืองสุข มาพูดคุยทำความเข้าใจเป็นเรื่องดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ ที่มองถึงพฤติกรรมสะสมของนายวัฒนาในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งไม่ใช่เจาะจงประเด็นการแสดงออกในครั้งใดเป็นพิเศษ และไม่ใช่ว่าที่เชิญมาเพื่อจะชี้นำให้เห็นคล้อยตามในเรื่องร่างรัฐธรรมนูญเพราะถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลของแต่ละคน 
 
แหล่งข่าวจากคสช. เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางทหารเชิญวีรดา เมืองสุข บุตรสาวของวัฒนา พร้อมครอบครัว เข้ามารับฟังการอธิบายถึงเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ต้องเชิญตัววัฒนาเข้ามาพูดคุยที่ มทบ.11 โดยได้อธิบายตั้งแต่ข้อกฎหมายที่นายวัฒนาได้ทำผิดเงื่อนไขพร้อมกับเปิดโอกาสให้บุตรสาวและครอบครัวได้สอบถามเจ้าหน้าที่ทุกข้อสงสัย
 
สำหรับสถานที่ควบคุมตัวนายวัฒนานั้นคือค่ายสุรสีห์ พล.ร. 9 จ.กาญจนบุรี โดยจัดพื้นที่อำนวยความสะดวกให้ในส่วนของอาคารแยกออกจากหน่วยทหาร เป็นห้องแอร์ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทหารจะดูแลอย่างดี ส่วนใหญ่วัฒนาจะอยู่ในห้องพักรับรอง ไม่ค่อยออกมาเดินภายนอก โดยทางเจ้าหน้าที่ทหารพยายามเจรจาให้วัฒนาร่วมมือ ไม่เช่นนั้นทางเจ้าหน้าที่ทหารจำเป็นต้องฟ้องร้องทางคดี ขณะนี้ยังไม่ทราบว่านายวัฒนาจะถูกคุมตัวกี่วัน เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับความร่วมมือของนายวัฒนา แต่คาดว่าไม่เกิน 7 วัน  
 
20 เมษายน 2559
 
ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า เวลาประมาณ 20.30 น. ฝ่ายกฎหมายของคสช. จะส่งตัวแทนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับวัฒนา ในข้อหาฝ่าฝืนเงื่อนไข คสช. ตามคำสั่งที่ 39/2557 ว่าด้วยเรื่องห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง เนื่องจากพยายามโพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้การบริหารงานของรัฐบาลหลายครั้ง สำหรับข้อหาดังกล่าวมีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยทหารผู้แจ้งจะนำหลักฐานเป็นข้อความที่โพสต์ในเฟซบุ๊กมาเป็นหลักฐานมอบให้กับพนักงานสอบสวนด้วย โดยขั้นตอนหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานก่อนเตรียมขอศาลทหารออกหมายจับภายในวันที่ 21 เมษายนนี้. 
 
21 เมษายน 2559
 
ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ที่มทบ.11 นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความของวัฒนา เมืองสุข เดินทางมาร่วมฟังการสอบสวนวัฒนา ในข้อหาฝ่าฝืนประกาศ คสช. ฉบับที่ 39/2557
 
นรินท์พงศ์ กล่าวว่า การสอบสวนในครั้งนี้จะเป็นเรื่องของการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 39/2557 เรื่องห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งนี้ ในตอนแรกทหารจะนำตัวนายวัฒนา ไปที่กองบังคับการปราบปราม แต่ติดเรื่องการเดินทางจึงนำตัวมาที่ มทบ.11 และนัดหมายกันในเวลา 09.00 น. เพื่อให้มาฟังการสอบสวนด้วย และเมื่อสอบสวนแล้วเสร็จต้องไปที่ศาลทหารต่อเพื่อประกันตัวหรือปล่อยตัวชั่วคราว โดยเตรียมวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท 
 
เวลา 15.19 น. ที่ศาลทหารกรุงเทพ ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ของคสช. นำตัววัฒนา มาศาลเพื่อยื่นคำร้องขออำนาจศาลทหารกรุงเทพ เพื่อฝากขังผัดที่ 1 โดยมีนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความ พร้อมด้วยกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี, จาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ, ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีต รมว.คลัง, 
วรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย, สุณิสา เลิศภควัต อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และมวลชนจำนวนหนึ่งได้เดินทางมาให้กำลังใจ โดยวัฒนามีสีหน้ายิ้มแย้ม ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารที่มีการนำแผงเหล็กมากั้นบริเวณทางเข้าออกศาลทหารกรุงเทพ
 
เวลา 16.30 น. คณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพ ได้ออกนั่งบังลังก์อ่านคำร้องที่เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนยื่นขอฝากขัง โดยพนักงานสอบสวนให้เหตุผลว่าต้องสอบสวนพยานอีกจำนวน 5 ปาก พร้อมกับตรวจสอบประวัติ
 
ทั้งนี้ ด้านวัฒนาได้คัดค้านการฝากขังโดยให้เหตุผลว่า การควบคุมตัวของทหาร ที่ดำเนินการกับตนนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะตนใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และที่ผ่านมาไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนี อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ทหารดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาภายหลังจากที่มีการควบคุมตัวแล้ว และมีการเปลี่ยนข้อหาไปเรื่อยๆ แบบไม่สุจริต คสช.ยังมีพฤติกรรมลุแก่อำนาจ จะแจ้งข้อหาขัดคำสั่ง คสช.เพิ่มหากตนไม่ยอมรับประทานอาหาร
 
คณะตุลาการศาลทหารพิจารณาเห็นว่าคำคัดค้านของนายวัฒนาเป็นข้อต่อสู้ทางคดี จึงอนุญาตฝากขังนายวัฒนาผัดที่ 1 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2559-2 พฤษภาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศาลทหารกรุงเทพอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวจำนวน 7 คนเข้ารับฟังคำร้องด้วย โดยห้ามบันทึกภาพและจดรายละเอียด
 
หลังจากนั้นทางทนายความ ได้ยื่นเงินสด จำนวน 80,000 บาท เพื่อขอประกันตัว และศาลทหารให้ประกันตัวในวงเงินดังกล่าว โดยมีเงื่อนไขว่า ห้ามกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ชักชวน ปลุกระดม ด้วยวิธีใดๆ เพื้อให้มีการชุมนุมอันจะก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองหรือก่อให้เกิดภยันตรายใดๆ อันกระทบต่อความเสียหายหรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีงามของประชาชนหรือกระทำการใดๆ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิด กฎหมายแผ่นดิน และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรก่อนได้รับอนุญาตจากทางศาล
 
2 พฤษภาคม 2559
 
ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า เวลา 09.30 น. ที่ศาลทหารกรุงเทพ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังวัฒนา เมืองสุข ต่อเป็นเวลา 12 วัน ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนยังสอบพยานหลักฐานต่างยังไม่แล้วเสร็จ ศาลมีคำสั่งอนุมัติให้ฝากขังต่อผัดที่ 2 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม – 14 พฤษภาคม 2559 โดยให้วัฒนา มารายงานตัวทุกครั้งเมื่อครบกำหนดฝากขัง
 
 
7 มิถุนายน 2559
 
ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า วัฒนา เมืองสุข พร้อมทนายความเดินทางมาศาลทหารกรุงเทพเพื่อรายงานตัวต่อศาลทหารในการฝากขังผัดที่ 4 โดยอัยการศาลทหารได้นัดนายวัฒนา มาสอบปากคำเพิ่มเติมในสำนวนคดีในวันที่ 8 สิงหาคม 2559
 

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา