- เว็บไซต์ไอลอว์
- ศูนย์ข้อมูลฯ
ฐานข้อมูลคดี
ชื่อคดี
ผู้ต้องหา
หฤษฏ์
สถานะคดี
คำอธิบายสถานะคดี ภาษาไทย
ชั้นศาลชั้นต้น
สถานะผู้ต้องหา
ได้รับการประกันตัว
ข้อหา / คำสั่ง
มาตรา 14 (1) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ , มาตรา 14 (2) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ , มาตรา 14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ , มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา
ผู้ต้องหา | สถานะผู้ต้องหา |
---|---|
ณัฏฐิกา | ได้รับการประกันตัว |
เนื้อหาคดีโดยย่อ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
ข้อกล่าวหา
หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาท
-
รูปแบบการจำกัดเสรีภาพ
การดำเนินคดี
-
ประเภทสื่อ
โซเชียลเน็ตเวิร์ค
-
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
-
ศาล
ศาลทหารกรุงเทพ
ทั้งสองถูกกล่าวหาว่า มีความผิดหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1),(2),(3) จากการพูดคุยส่วนตัวกันในกล่องข้อความ (แชต) ในเฟซบุ๊ก แต่มีข้อสังเกตว่าการได้หลักฐานของเจ้าหน้าที่อาจกระทำไปโดยมิชอบ และเกิดกระแสไม่ไว้วางใจบริการเฟซบุ๊กในโซเชียลเน็ตเวิร์ก จากนั้นตำรวจได้ออกมาชี้แจงว่าหาหลักฐานโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าได้มาโดยวิธีใด
1. หฤษฎ์ มหาทน จำเลยที่หนึ่ง
เนื่องจากพล.ต.วิจารณ์มีชื่อเป็นพยานโจทก์ปากที่หนึ่งอยู่แล้ว ทนายจำเลยจึงแถลงว่าจะตัดพยานปากนี้ออกแล้วไปถามค้านพยานปากนี้แทน
นอกจากนี้ทนายยังแถลงคัดค้านด้วยวาจาต่อศาลด้วยว่า
1. คัดค้านเอกสารของโจทก์สามฉบับที่อัยการทหารไม่ได้นำมาให้ทนายจำเลยตรวจสอบโดยหนึ่งในนั้นเป็นความเห็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่พิจารณาว่าคดีนี้มีมูลความผิด แต่อัยการทหารตอบว่า เอกสารฉบับดังกล่าวเป็นเอกสารลับมากจึงไม่สามารถเปิดเผยได้
2. คัดค้านพยานเอกสารซึ่งมีรายละเอียดภาพถ่ายของกลางจำนวนสี่ถึงห้าภาพ เช่น ซีพียู ฮาร์ดดิสก์ ฮาร์ดไดร์ฟ ซึ่งไม่ปรากฏว่าผู้ต้องหาเซ็นรับรองเอกสารดังกล่าวจึงความกังวลว่าอาจจะมีการนำวัตถุพยานของบุคคลอื่นมาปะปน อัยการทหารตอบว่า การพูดลักษณะเช่นนี้ถือเป็นการหมิ่นประมาทและขอให้ศาลบันทึกไว้ในกระบวนพิจารณา อย่างไรก็ตามศาลไม่ได้บันทึกแต่ตักเตือนทนายจำเลยแทนและสั่งห้ามทนายกล่าวพาดพิงถึงบุคคลที่สามอีก
3. ทนายจำเลยแถลงคัดค้านวัตถุพยานที่เป็นแผ่นซีดีและแถลงขอคัดลอกแผ่นซีดี ศาลอนุญาตให้ทนายจำเลยดำเนินการได้
4 กรกฎาคม 2560
นัดสืบพยานโจทก์
-
27 กุมภาพันธ์ 2561
นัดสืบพยานโจทก์
10.00 น. หฤษฎ์และทนายความเดินทางมาถึงศาล วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความแจ้งต่อตุลาการว่า ณัฏฐิกาไม่มาศาลเป็นครั้งที่สอง โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ศาลยังไม่ได้ออกหมายจับ เพียงแค่กำชับให้วิญญัติ ทนายความและนายประกันไปพยายามติดตามตัวณัฏฐิกามาศาลให้ได้ หากไม่มาศาลอีกครั้งในนัดหน้ารวมสามครั้ง ศาลจึงจะพิจารณาออกหมายจับ
5 มีนาคม 2561
ศาลทหารกรุงเทพนัดสืบพยานโจทก์คดียุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 ของแปดแอดมินเพจเฟซบุ๊ก "เรารักพลเอกประยุทธ์" โดยพยานที่นำสืบวันนี้คือ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษจำเลยทั้งแปดต่อพนักงานสอบสวน
ในวันนี้ ณัฏฐิกา จำเลยที่สอง และกัณสิทธ์ จำเลยที่เจ็ด ไม่มาศาลตามนัด วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายจำเลยและนายประกันแถลงต่อศาลว่า วันนี้ถือเป็นการผิดนัดครั้งที่สองของณัฏฐิกาและคิดว่า นัดครั้งต่อไปคงไม่สามารถตามตัวณัฏฐิกามาศาลได้อีก ขอศาลใช้ดุลพินิจในการออกหมายจับเพื่อไม่ให้คดีล่าช้าไปมากกว่านี้ ส่วนกัณสิทธ์ไม่สามารถมาศาลได้เนื่องจากจำวันนัดสืบพยานผิด
ศาลพิเคราะห์ว่า ณัฏฐิกาไม่มาศาลเป็นครั้งที่สองแล้ว เป็นเหตุสมควรพอที่จะออกหมายจับ จึงให้วิญญัติ ในฐานะนายประกันนำเงินประกันจำนวน 200,000 บาทมาชำระต่อศาลภายในวันที่ 26 มีนาคม 2561 และให้เลื่อนการสืบพยานในนัดนี้ออกไปก่อนเพราะจำเลยมาศาลไม่ครบ
23 กรกฎาคม 2562
นัดโอนคดีกลับศาลพลเรือน
9.00 น. หฤษฎ์จำเลยและบิดาพร้อมด้วยวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความจำเลย เดินทางมาพร้อมกันที่ศาลก่อนจะขึ้นไปที่ห้องพิจารณาคดีที่5 ต่อมาเวลา9.45 น. ศาลขึ้นนั่งบัลลังก์ อัยการโจทก์แถลงต่อศาลว่าวันนี้พลตรีวิจารณ์ จดแตง พยานโจทก์มาศาล จากนั้นศาลแจ้งว่า คดีนี้จะต้องโอนย้ายไปที่ศาลยุติธรรมและอ่านกระบวนพิจารณาคดีว่า
ศาลได้สอบถามถึงคดีมาตรา116 ของแปดแอดมินเพจ “เรารักพลเอกประยุทธ์” ซึ่งหฤษฎ์เป็นจำเลยร่วมด้วยอีกหนึ่งคดี ทนายจำเลยแจ้งว่า คดีดังกล่าวศาลทหารกรุงเทพได้นัดพิจารณาไว้ในวันที่ 25 กรกฎาคม2562 หรืออีกสองวันข้างหน้า ศาลจึงอธิบายว่า ศาลกำลังมีหนังสือขอให้เลื่อนนัดไปวันที่ 9 สิงหาคม 2562 แทน ทนายจำเลยกล่าวว่า ในนัดพิจารณาวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 เป็นนัดหมายเดิมที่ศาลนัดไว้ จึงอยากขอให้ศาลคงวันนัดและสั่งโอนคดีในวันดังกล่าวเลย