ทอม ดันดี: ปราศรัยเข้าข่ายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ คดีที่สาม จังหวัดราชบุรี

อัปเดตล่าสุด: 06/08/2562

ผู้ต้องหา

ธานัท

สถานะคดี

ตัดสินแล้ว / คดีถึงที่สุด

คดีเริ่มในปี

2555

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

ไม่มีข้อมูล

สารบัญ

20 พฤศจิกายน 2560 ธานัทซึ่งกำลังรับโทษจำคุกเป็นเวลาสิบปีสิบเดือนจากการถูกพิพากษาว่าทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมสองคดีอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ส่งตัวไปที่เรือนจำจังหวัดราชบุรีโดยไม่ทราบสาเหตุ

ธานัทถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดราชบุรีจนถึงเดือนมกราคม 2561 จึงได้ทราบว่าพนักงานอัยการจังหวัดราชบุรีมีความเห็นสั่งฟ้องเขาในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ เพิ่มอีกคดีหนึ่ง จากการปราศรัยในเวทีของคนเสื้อแดงที่จังหวัดราชบุรีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2553 นับเป็นคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 คดีที่สามของธานัทแล้ว 
 

ภูมิหลังผู้ต้องหา

"ทอม ดันดี" หรือ ธานัท ธนวัชรนนท์ เป็นชาว อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
 
สำหรับชื่อ "ทอม ดันดี" เป็นชื่อที่คนทั่วไปรู้จักในฐานะศิลปิน ก่อนถูกจับเขามีอาชีพเป็นชาวสวนปลูกไผ่ขาย
 
ช่วงที่การเมืองไทยทวีความขัดแย้งมากยิ่งขึ้น เขาออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ขึ้นเวทีปราศรัยทั้งของ นปช.และเวทีย่อยต่างๆ ที่จัดโดยคนเสื้อแดงกลุ่มอิสระมากมายหลายกลุ่ม
 
หลังการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ธานัทถูกควบคุมตัวสองครั้ง ครั้งแรกกรณีไม่รายงานตัวตามประกาศ คสช. เขาถูกจับกุมที่บ้านพักในจังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2557 ก่อนได้รับอนุญาตให้ประกันตัว
 
หนึ่งเดือนถัดมา ธานัทถูกเจ้าหน้าที่บุกควบคุมตัวอีกครั้งที่บ้านพัก เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2557 ในข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ
 
เดือนตุลาคม 2558 ขณะถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดี 112 คดีแรกโดยศาลทหารกรุงเทพ พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องธานัทในข้อหาเดิมต่อศาลอาญาเป็นคดีที่สอง

ในปี 2561 ธานัทจะถูกฟ้องคดีตามประมวลกฎมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพิ่มเติมอีกสองคดี เมื่อนับรวมทั้งหมดธานัทถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมทั้งหมดสี่คดีซึ่งถือว่ามากที่สุดที่ที่ไอลอว์เคยบันทึกได้ในยุคคสช. 

ข้อหา / คำสั่ง

มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2553 ระหว่างที่มีการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่สวนสาธารณะอนุสรณ์สถานเขาแก่นจันทร์ จังหวัดราชบุรี ธานัทกล่าวปราศรัยในลักษณะที่พนักงานสอบสวนเห็นว่าเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ โดยกล่าวคำปราศรัยถึงความยากจนของคนไทยและพูดถึงพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เก้าอย่างไม่เหมาะสม
 

พฤติการณ์การจับกุม

ในปี 2555 ธานัทเคยเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในกรณีแล้ว ครั้งนั้นเขาไม่ถูกควบคุมตัวและคดีก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จนกระทั่งพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดราชบุรีในวันที่ 25 มกราคม 2561 ระหว่างที่ธานัทอยู่ระหว่างรับโทษจำคุกสิบปีสิบเดือนในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 คดีที่หนึ่งและคดีที่สอง 

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

0207/2561

ศาล

ศาลจังหวัดราชบุรี

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
8 สิงหาคม 2553 
 
ธานัทกล่าวปราศรัยในการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่จังหวัดราชบุรี 
 
2 สิงหาคม 2555 
 
ธานัทเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาโดยที่พนักงานสอบสวนไม่ได้ควบคุมตัวธานัทในชั้นสอบสวน 
 
20 พฤศจิกายน 2560
 
ประชาไทรายงานว่าธานัทถูกย้ายตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพไปที่เรือนจำจังหวัดราชบุรีโดยที่ไม่ได้รับการแจ้งถึงสาเหตุการย้าย 

25 มกราคม 2561
 
ประชาไทรายงานว่า ธานัทถูกนำตัวไปที่ศาลจังหวัดราชบุรีเพื่อรับคำฟ้องโดยศาลกำหนดนัดสมานฉันท์ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 และนัดสอบคำให้การในวันที่ 23 เมษายน 2561 

ทั้งนี้การมาศาลของธานัทในวันนี้เป็นการมาแบบกระทันหันโดยที่ญาติ และทนายของธานัทไม่ทราบล่วงหน้า ทนายของเขาจึงไม่ได้มาศาลส่วนญาติต้องรีบเดินทางตามมาจากกรุงเทพ 
 
12 กุมภาพันธ์ 2561
 
ธานัทถูกควบคุมตัวกลับไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพโดยไม่มีการแจ้งเจ้าตัว ญาติ หรือทนายความล่วงหน้า
 
13 กุมภาพันธ์ 2561
 
ธานัทถูกฟ้องคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพิ่มเติมเป็นคดีที่สี่ที่ศาลอาญาและถูกควบคุมตัวเพื่อรอการพิจารณาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
 
21 กุมภาพันธ์ 2561
 
นัดสมานฉันท์
 
ภรรยาของธานัทพยายามประสามกับทางราชทัณฑ์ล่วงหน้าว่าธานัทจะถูกส่งตัวกลับไปที่เรือนจำจังหวัดราชบุรีหรือไม่ อย่างไรก็ตามในเช้าวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 เธอยังสามารถเยี่ยมธานัทที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพได้ตามปกติ จึงเข้าใจว่ามีการยกเลิกนัดสมานฉันท์ที่ศาลจังหวัดราชบุรีไป
 
มีนาคม 2561
 
ภรรยาของธานัทแจ้งว่า ธานัทจะถูกส่งตัวไปที่เรือนจำจังหวัดราชบุรีเพื่อดำเนินคดีต่อ หลังจากฟังคำพิพากษาคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ศาลอาญาในวันที่ 29 มีนาคม 2561 เสร็จเรียบร้อยแล้ว
 
20 เมษายน 2561
 
ธานัทถูกส่งตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพไปที่เรือนจำจังหวัดราชบุรีเพื่อเข้าสู่กระบวนพิจารณาคดีนี้หลังจากในวันที่ 29 มีนาคม 2561 ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้องธานัทในคดีที่เขาถูกกล่าวหาว่ากล่าวคำปราศรัยหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯที่จังหวัดลำพูน (คดีที่สี่)
 
23 เมษายน 2561
 
นัดคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ
 
ธานัทถูกควบคุมตัวมาที่ศาลจังหวัดราชบุรีตั้งแต่ช่วงเช้าแต่กระบวนพิจารณาคดีของเขาเริ่มในเวลาประมาณ 11.00 น. โดยก่อนที่ธานัทจะถูกนำตัวขึ้นมาที่ห้องพิจารณาคดี ภรรยาและเพื่อนของธานัทที่มารอฟังคำพิพากษาก็ลงไปเยี่ยมเขาที่ห้องขังใต้ถุนศาล

เมื่อเริ่มกระบวนพิจารณา ศาลถามธานัทว่ามีทนายแล้วหรือยัง ธานัทตอบว่ามีแล้ว จากนั้นศาลอ่านบรรยายฟ้องให้ธานัทฟังและถามว่าเข้าใจฟ้องโจทก์หรือไม่ ธานัทตอบว่าเข้าใจ หลังจากนั้นศาลแจ้งกับภรรยาและเพื่อนๆของธานัทที่อยู่ในห้องพิจารณาคดีว่าจะขอดำเนินกระบวนพิจารณาเป็นการลับ ขอให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากห้อง ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาคดีเป็นการลับจนถึง 12.00 น.จึงสั่งพักการพิจารณาและนัดหมายพิจารณาคดีต่อในเวลา 13.30 น.
 
การพิจารณาคดีในช่วงบ่ายศาลไม่ได้มีคำสั่งพิจารณาลับ ภรรยาและเพื่อนๆของธานัทจึงสามารถนั่งฟังกระบวนพิจารณาได้ ศาลถามธานัทว่าตามที่ให้การรับสารภาพในกระบวนการคุ้มครองสิทธิในช่วงเช้าจะยังยืนยันให้การรับสารภาพอยู่หรือไม่ ธานัทแถลงว่ารับและแถลงขอให้ศาลส่งตัวไปคุมขังระหว่างรอการพิจารณาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

อย่างไรก็ตามศาลชี้แจงว่าการส่งตัวกลับไปกลับมาอาจทำให้การพิจารณาคดีล่าช้า เพราะหากถึงวันนัดแล้วทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพไม่ส่งตัวธานัทกลับมาก็อาจจะต้องเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาออกไปอีก แต่ศาลก็แจ้งกับธานัทว่าจะเลื่อนกำหนดวันพิพากษาให้เร็วขึ้นจากเดิมที่จะนัดในเดือนมิถุนายน 2561 เป็นวันที่ 24 พฤษภาคม 2561 โดยในระหว่างนี้ธานัทจะถูกคุมขังที่เรือนจำจังหวัดราชบุรีเพื่อรอฟังคำพิพากษา
 
24 พฤษภาคม 2561
 
นัดฟังคำพิพากษา
 
4ภรรยาและเพื่อนๆของธานัทประมาณเกือบ 20 คน ทยอยเดินทางมาถึงศาลจังหวัดราชบุรีตั้งแต่ก่อนเวลา 9.00 น. เมื่อมาถึงภรรยาของธานัทไปที่ห้องควบคุมตัวของศาลจังหวัดราชบุรีเพื่อซื้อข้าวและพูดคุยกับสามีของเธอ แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่า ธานัทไม่ถูกนำตัวมาที่ศาล จึงคาดกันว่าการอ่านคำพิพากษาอาจจะถูกเลื่อนออกไป ในเวลาประมาณ 9.40 น. ภรรยาของธานัทและทนายของเขาเข้าไปที่ห้องพิจารณาคดี 10 ของศาลราชบุรี ซึ่งเป็นห้องที่มีการติดตั้งระบบเทเลคอนเฟอร์เรนซ์ไปที่เรือนจำจังหวัดราชบุรี 
 
ศาลแจ้งกับธานัทผ่านระบบวิดีโอว่า ยังไม่ได้รับร่างคำพิพากษาที่ส่งไปให้สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 ตรวจกลับคืนมา จึงต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาคดีของธานัทออกไปก่อนเป็นวันที่ 29 มิถุนายน 2561 เมื่อธานัทถามศาลว่า เขาจะได้กลับไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพหรือไม่ ศาลแจ้งว่า ระหว่างนี้ธานัทจะยังต้องอยู่ที่เรือนจำจังหวัดราชบุรีไปก่อน แต่เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้วก็จะถูกส่งตัวกลับไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ หลังเสร็จสิ้นกระบวนการภรรยาและเพื่อนๆของธานัทอีกเกือบๆ 20 ร่วมกันถ่ายภาพที่หน้าศาลจังหวัดราชบุรีก่อนจะเดินทางกลับ
 
29 มิถุนายน 2561
 
นัดฟังคำพิพากษา

ภรรยา ญาติๆและเพื่อนของธานัทเดินทางมาที่ศาลตั้งแต่ก่อนเวลา 9.00 น. และได้ไปพูดคุยกับธานัทซึ่งอยู่ในห้องควบคุมตัวของศาลผ่านทางโทรศัพท์ หลังจากนั้นในเวลาประมาณ 9.20 น. ผู้มาสังเกตการณ์ก็ทยอยขึ้นไปที่ห้องพิจารณาคดี 12 เนื่องจากในวันนี้มีคนมาให้กำลังใจธานัทมาก คนที่มาบางส่วนจึงตัดสินใจนั่งรอฟังผลอยู่นอกห้องพิจารณาคดีเพราะเห็นว่าที่นั่งในห้องพิจารณาคดีเต็มแล้ว
 
เวลาประมาณ 9.40 น. ศาลขึ้นบัลลังก์และชี้แจงเบื้องต้นว่า เดิมศาลนัดหมายฟังคำพิพากษาคดีนี้ในช่วงบ่าย แต่เนื่องจากศาลติดภารกิจต้องสืบพยานในคดีอื่นด้วย จึงเลื่อนนัดคดีนี้มาช่วงเช้าแทน หลังจากนั้นศาลขอให้ผู้ที่มาสังเกตการณ์คดีนี้ทั้งหมดยืนขึ้นก่อนจะถามคนที่ยืนบางส่วนว่าเกี่ยวข้องกับจำเลยอย่างไร เมื่อทราบว่ามีผู้สื่อข่าวอิสระและผู้สังเกตการณ์ของไอลอว์อยู่ในห้องพิจารณาคดีด้วย ศาลบอกว่าหากจะรายงานข่าวต้องทำอย่างระมัดระวัง หากรายงานข้อมูลคลาดเคลื่อนอาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดอำนาจศาล
 
หลังจากนั้นศาสอ่านคำพิพากษาโดยสรุปว่า คดีนี้โจทก์ว่าจำเลยกล่าวปราศรัยในลักษณะเข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เก้า คำปราศรัยของจำเลยปรากฎตามฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพ คู่ความแถลงไม่ติดใจสืบพยาน ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ การกระทำตามบรรยายฟ้องโจทก์ยังไม่แจ้งชัดพอที่จะรับฟังได้ว่า การปราศรัยของจำเลยเข้าข่ายความผิด แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพก็ต้องพิพากษายกฟ้องตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 185 วรรคหนึ่ง
 
หลังศาลมีคำพิพากษาเพื่อนๆของธานัทที่รออยู่นอกห้องพิจารณาได้เข้าไปแสดงความยินดีกับเขาในห้องพิจารณา หลังศาลมีคำพิพากษายกฟ้องคดีนี้ธานัทจะถูกส่งกลับมารับโทษจำคุกสิบปีสิบเดือนตามคำพิพากษาคดี 112 คดีที่หนึ่งและคดีที่สองต่อที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ  
 
9 สิงหาคม 2561 
 
ภรรยาของธานัทโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่าอัยการเจ้าของสำนวนยื่นขอขยายเวลาอุทธรณ์คดีออกไปถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2561 โดยขณะนี้ธานัทยังถูกคุมขังที่เรือนจำราชบุรียังไม่ได้ย้ายกลับมากรุงเทพ
 
ในเวลาต่อมามีรายงานว่าอัยการไม่อุทธรณ์คดีและธานัทก็ถูกย้ายตัวจากเรือนจำที่ราชบุรีมาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
 
17 กรกฎาคม 2562
 
ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า ธานัทได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพแล้ว ธานัทถูกศาลพิพากษาว่าทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมสองคดีและถูกพิพากษาจำคุกเป็นเวลาสิบปีสิบเดือน 
 
เนื่องจากธานัทเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม เมื่อการพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไปในเดือนพฤษภาคม 2562 เขาจึงได้รับการลดโทษลงกึ่งหนึ่งจากจำคุกสิบปีสิบเดือน เหลือจำคุกห้าปีห้าเดือน 
 
เนื่องจากธานัทรับโทษมาแล้วห้าปีแปดวัน เขาจึงเหลือเวลารับโทษอีกไม่เกินหนึ่งปี จึงเข้าเกณฑ์ที่จะได้รับการปล่อยตัว

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา