- คดีมาตรา112, ฐานข้อมูลคดี
เชฏฐสิทธิ์ ย.
อัปเดตล่าสุด: 02/12/2559
ผู้ต้องหา
เชฏฐสิทธิ์ ย.
สถานะคดี
ตัดสินแล้ว / คดีถึงที่สุด
คดีเริ่มในปี
2552
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
ไม่มีข้อมูล
สารบัญ
เชฏฐสิทธิ์ ย. ถูกกล่าวหาว่า ใช้ปากกาเมจิกเขียนข้อความที่เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จำนวน 2 ข้อความ ลงบนแผ่นป้ายโฟม จำนวน 3 แผ่น และผูกติดไว้ที่รถเข็น แล้วเข็นรถเข็นที่มีแผ่นป้ายดังกล่าวไปตามถนนกลันตัน ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ไม่มีข้อมูล
ข้อหา / คำสั่ง
มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
ข้อมูลจากศาลอาญา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2552 เวลากลางวัน จำเลยได้บังอาจใช้ปากกาเมจิกเขียนข้อความที่เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จำนวน 2 ข้อความ ลงบนแผ่นป้ายโฟม จำนวน 3 แผ่น และผูกติดไว้ที่รถเข็น แล้วเข็นรถเข็นที่มีแผ่นป้ายดังกล่าวไปตามถนนกลันตัน ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ซึ่งเป็นที่เคารพของประชาชน ผู้ใดจะละเมิดมิได้ เหตุเกิดที่แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์การจับกุม
ไม่มีข้อมูล
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
ไม่มีข้อมูล
หมายเลขคดีดำ
ด.3113/2552
ศาล
ไม่มีข้อมูล
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข้อมูล
แหล่งอ้างอิง
ไม่มีข้อมูล
ข้อมูลจากศาลอาญา ระบุว่า
4 สิงหาคม 2554 ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา กรณีมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจซึ่งคู่ความมิได้โต้แย้งคัดค้านกันว่า จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ประกอบก่อนเกิดเหตุจนถึงขณะเกิดเหตุจำเลยมีอาการป่วยทางจิตตั้งแต่เป็นโรควิตกกังวลจนถึงเป็นโรคจิตเภท ชนิดหวาดระแวง ต้องเข้ารับการรักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์มาโดยตลอด และจนถึงขณะที่มีการพิจารณาคดีนี้จำเลยก็เข้ารับการรักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์แบบผู้ป่วยใน โดยแพทย์ผู้รักษามีความเห็นว่าเป็นอาการป่วยที่รุนแรงและเรื้อรังมาเป็นระยะเวลานานต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง การส่งตัวจำเลยไปรับโทษจำคุกในคดีนี้ย่อมไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด จึงเห็นควรให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด ๓ ปี โดยกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติ โดยให้จำเลยไปรับการบำบัดรักษาความบกพร่องทางจิตแบบผู้ป่วยใน ณ สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ภายในระยะเวลาดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (4) โดยให้แพทย์ผู้รักษารายงานผลของการรักษาให้ศาลทราบทุก 6 เดือน ริบของกลาง
4 สิงหาคม 2554 ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา กรณีมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจซึ่งคู่ความมิได้โต้แย้งคัดค้านกันว่า จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ประกอบก่อนเกิดเหตุจนถึงขณะเกิดเหตุจำเลยมีอาการป่วยทางจิตตั้งแต่เป็นโรควิตกกังวลจนถึงเป็นโรคจิตเภท ชนิดหวาดระแวง ต้องเข้ารับการรักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์มาโดยตลอด และจนถึงขณะที่มีการพิจารณาคดีนี้จำเลยก็เข้ารับการรักษาที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์แบบผู้ป่วยใน โดยแพทย์ผู้รักษามีความเห็นว่าเป็นอาการป่วยที่รุนแรงและเรื้อรังมาเป็นระยะเวลานานต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง การส่งตัวจำเลยไปรับโทษจำคุกในคดีนี้ย่อมไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด จึงเห็นควรให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด ๓ ปี โดยกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติ โดยให้จำเลยไปรับการบำบัดรักษาความบกพร่องทางจิตแบบผู้ป่วยใน ณ สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ภายในระยะเวลาดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (4) โดยให้แพทย์ผู้รักษารายงานผลของการรักษาให้ศาลทราบทุก 6 เดือน ริบของกลาง
คำพิพากษา
ไม่มีข้อมูล