การชุมนุม #อุดรสิบ่ทน

24 กรกฎาคม 2563

 

การชุมนุม อุดรสิบ่ทน ผ่านไปด้วยดีไม่มีเหตุวุ่นวายใดๆ

 

27 สิงหาคม 2563 

 

ปรเมษฐ์โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุว่าเขาได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาให้ไปรายงานตัวในวันที่ 28 สิงหาคม 2563 ข้อกล่าวหาที่ระบุตามหมายเรียกได้แก่ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ด้วยการจัดให้มีการชุมนุมที่มีความแออัดเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ และข้อหาตามพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฯ

 

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ปรเมษฐ์เข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนตามนัด พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนการสอบสวนโดยมีความเห็นสั่งฟ้อง พนักงานสอบสวนนำตัวปรเมษฐ์ส่งต่อให้อัยการคดีศาลแขวงอุดรธานี ในวันเดียวกัน

ปรเมษฐ์ยื่นหนังสือขอเป็นธรรมต่ออัยการ ขอให้มีคำสั่งไม่ฟ้องคดี โดยหนังสือขอเป็นธรรมของปรเมษฐ์สรุปได้ว่า

คดีนี้ผู้ต้องหาไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะพนักงานสอบสวนปรับใช้ข้อกฎหมายไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง 

 

เจตนารมณ์ของการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นไปเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 แต่ในวันเกิดเหตุมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศมีจำนวนเป็นศูนย์ ส่วนสถิติผู้ติดเชื้อที่ปรากฏเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากนอกราชอาณาจักรเท่านั้น ไม่ได้มีการระบาดในหมู่ประชาชนทั่วไป

อีกทั้งเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้ห้ามการชุมนุม การดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาในคดีนี้จึงไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน เพราะหลังจากการชุมนุมในวันที่ 24 กรกฎาคม 2563  ก็ไม่ปรากฏมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 หรือมีการแพร่ระบาดต่อประชาชนทั่วไปในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีแต่อย่างใด

ทั้งการชุมนุม ”อุดรสิบ่ทน” ก็เป็นไปโดยสงบ สันติ และชอบด้วยกฎหมาย ผู้ต้องหาเป็นเพียงผู้ไปชุมนุมและเผยแพร่ภาพโดยการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กเท่านั้น ไม่ได้เป็นผู้จัดการการชุมนุมแต่อย่างใด  จึงไม่มีเหตุที่จะต้องดำเนินคดีต่อผู้ต้องหา

 

อัยการนัดปรเมษฐ์เข้าพบฟังคำสั่งคดีในวันที่ 25 กันยายน 2563