เงินตราและจิรัชยา : แห่โลงศพจำลอง ดูหมิ่นศาลอาญากรุงเทพใต้

อัปเดตล่าสุด: 20/09/2565

ผู้ต้องหา

เงินตรา หรือ มานี

สถานะคดี

ชั้นสืบสวนสอบสวน

คดีเริ่มในปี

2565

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

สันติ ชูกิจทรัพย์ไพศาล รองอธิบดีศาลอาญากรุงเทพใต้ มอบอำนาจให้ เนติพันธ์ สมจิตต์ นิติกรศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าแจ้งความ

สารบัญ

15 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 15.00 น. เงินตรา หรือ มานี และ จิรัชยา หรือ จินนี่ สองนักกิจกรรมทางการเมืองร่วมทำกิจกรรมเดินขบวนแห่โลงศพจำลองและปราศรัยเรียกร้องให้ศาลคืนสิทธิประกันตัวแก่ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 รวมถึง “บุ้ง-เนติพร” และ “ใบปอ-ณัฐนิช”  บริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุงและถนนจันทน์ ต่อมา สันติ ชูกิจทรัพย์ไพศาล รองอธิบดีศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้มอบอำนาจให้ เนติพันธ์ สมจิตต์ นิติกรศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวาให้ดำเนินคดีแก่ทั้งสองในข้อหาร่วมกันดูหมิ่นศาล, หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
 
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบเข้าจับกุมทั้งสองคนในวันที่ 25 สิงหาคม 2565 และถูกขอศาลฝากขังที่เรือนจำทัณฑสถานหญิงกลางตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2565 ก่อนศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งให้ประกันตัวเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 รวมเป็นเวลาที่ถูกขัง 9 วัน 
 

ภูมิหลังผู้ต้องหา

เงินตรา หรือ มานี ชาวยโสธรวัย 43 ปีที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่กรุงเทพฯ ได้ราวประมาณ 20 ปี มานีเป็นหนึ่งในอดีตสมาชิกกลุ่มคนเสื้อแดงแต่หยุดการเคลื่อนไหวทางการเมืองไปตั้งแต่ปี 2553 ภายหลังเข้าร่วมการเคลื่อนไหวของกลุ่มราษฎรในฐานะมวลชนอิสระ
 
จิรัชยา หรือ จินนี่ เจ้าของห้องเช่าวัย 54 ปี เข้าร่วมการเคลื่อนไหวของทุกกลุ่มการเมืองที่มีแนวคิดต่ออยู่ฝั่งประชาธิปไตยและต่อต้านรัฐประหาร ในฐานะมวลชนอิสระ
 
 

ข้อหา / คำสั่ง

มาตรา 326 / 328 ประมวลกฎหมายอาญา
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 198

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

ตามบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาของ สน.ยานนาวา สรุปได้ว่า วันที่ 15 กรกฎาคม 2565 เวลาหลังเที่ยง มานีและจินนี่ได้ใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ยืนกล่าวปราศรัยที่บริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยใช้ไมโครโฟนคนละตัว สนทนาโต้ตอบกัน กล่าวโจมตีกระบวนการทำงานของผู้พิพากษาหรือศาลอาญากรุงเทพใต้ที่พิจารณาพิพากษาคดีของ “บุ้ง-เนติพร” และ “ใบปอ-ณัฐนิช” ให้ผู้ชุมนุมบริเวณดังกล่าวฟัง รวมทั้งมีการไลฟ์สดผ่านทางช่อง Youtube ThaiTVNews ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะให้คนทั่วไปรับชมได้อีกช่องทางหนึ่ง โดยคำปราศรัยของมานีและจินนี่มีลักษณะเป็นการใส่ร้ายดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษา ทำให้ศาลหรือผู้พิพากษาได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง และเป็นการหมิ่นประมาทด้วยการใช้เครื่องขยายเสียงฯ

 

 

พฤติการณ์การจับกุม

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ช่วงค่ำวันที่ 25 สิงหาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมผู้ชุมนุมทางการเมือง 2 ราย โดยผู้ถูกจับกุมรายแรก คือ มานี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมจากหอพักในเวลาประมาณ 19.20 น. โดยชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบทั้งชายและหญิงเข้าไปล้อมรถที่ลานจอดรถ ก่อนแสดงตัวเป็นตำรวจพร้อมแสดงหมายจับ และนำตัวขึ้นรถตำรวจเดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ภายในสโมสรตำรวจ โดยอนุญาตให้ญาติติดตามขึ้นรถไปด้วย
 
รายที่สองได้แก่ จินนี่ ถูกตำรวจเข้าจับกุมในเวลาประมาณ 21.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 7 นาย ได้มาแสดงหมายจับที่หน้าบ้านพัก ก่อนนำตัวขึ้นรถไปยัง บช.ปส. เช่นเดียวกัน
 
ทั้งนี้หมายจับดังกล่าวออกโดยศาลอาญากรุงเทพใต้เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 โดยมี สน.ยานนาวา เป็นสถานีตำรวจเจ้าของคดี ทั้งสองคนระบุว่าไม่เคยได้รับหมายเรียกมาก่อนหน้านี้
 
ต่อมาพนักงานสอบสวนขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขัง ศาลอนุญาตให้ฝากขัง ก่อนทนายจะยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัว และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ประกันตัวเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 โดยวางหลักทรัพย์จำนวน 70,000 บาท เป็นเงินจากกองทุนราษฎรประสงค์และกำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นในลักษณะเดียวกัน
 
 

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ศาลอาญากรุงเทพใต้

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล

 

15 กรกฎาคม 2565
 
เวลาประมาณ 15.09 น. ThaiTVNews ไลฟ์สดผ่าน Youtube การชุมนุม #ม็อบ15กรกฎา65 ที่บริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ ผู้ชุมนุมร่วมทำกิจกรรมเดินขบวนแห่โลงศพจำลองเรียกร้องให้คืนสิทธิประกันตัวให้แก่นักกิจกรรมทางการเมือง ที่โลงศพจำลองมีป้ายติดอยู่ข้างโลงเขียนว่า “นายโกงจักร โพธิ์พร้อมเหี้ย ชาตะ วันชิงหมาเกิด มรณะ นานแล้ว” พร้อมธูปและรูปชายที่มีหัวเป็นตัวเงินตัวทอง
 
ขบวนเริ่มเดินตั้งแต่บริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ มุ่งหน้าแยกถนนจันทน์ ผ่านถนนเจริญกรุงขาออก ถนนจันทน์ขาเข้า เข้าซอยจันทน์ 42 อ้อมศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ย้อนกลับมาถึงหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ ภายในขบวนมีป้ายและภาพไวนิลแสดงข้อความยกเลิกมาตรา 112 และวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรม โดยตลอดการเดินขบวน มานีและจินนี่ได้ใช้เครื่องขยายเสียงปราศรัยเรียกร้องให้ศาลอนุญาตให้ “บุ้ง-เนติพร” และ “ใบปอ-ณัฐนิช” ประกันตัว
 
25 สิงหาคม 2565
 
19.24 น. มานีโลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบทั้งชายและหญิงมาล้อมจับกุมตนเองที่ลานจอดรถของหอพัก พร้อมแจ้งหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ และถูกควบคุมตัวไปยัง บช.ปส. ภายสโมสรตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่อนุญาตให้ญาติติดตามขึ้นรถไปด้วยได้ 
 
เวลา 20.09 น. จินนี่ไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องทั้งชายและหญิงแบบมาจับกุมตนเองที่บ้านพัก พร้อมแจ้งหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ และถูกควบคุมตัวไปยัง บช.ปส. เช่นเดียวกับมานี
 
เวลา 21.20 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ทนายได้เดินทางไปถึง บช.ปส. แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่อนุญาตให้เข้าพบผู้ถูกจับกุม ให้รอพนักงานสอบสวนจาก สน.ยานนาวาก่อน จนสามารถติดตามเข้าไปได้ในเวลาประมาณ 22.00 น. ต่อมาพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้งสอง ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและปฏิเสธที่จะลงลายมือชื่อในบันทึกจับกุม พรุ่งนี้
 
 
26 สิงหาคม 2565
 
พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวาพามานีและจินนี่ไปขอฝากขังกับศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยฝ่ายตำรวจอ้างว่าการสืบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ทั้งยังต้องรอประวัติอาชญกรรมจากการพิมพ์ลายนิ้วมือ ศาลอนุญาตให้ฝากขัง ทนายผู้ต้องหายื่นคำขอประกันตัว พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เกรงว่าผู้ต้องหาจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและอาจออกไปกระทำความผิดซ้ำได้
 
เวลา 16.23 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว ระบุเหตุผล พฤติการณ์ทั้งสองคนถือเป็นภยันตรายอย่างร้ายแรงต่อศาลในการปฏิบัติหน้าที่และกระบวนการยุติธรรม
 
1 กันยายน 2565
 
ทนายผู้ต้องหาได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาต่อศาลอุทธรณ์
 
3 กันยายน 2565
 
สำนักข่าวราษฎร รายงานว่า ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ประกันตัวเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 โดยวางหลักทรัพย์จำนวน 70,000 บาท เป็นเงินจากกองทุนราษฎรประสงค์และกำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นในลักษณะเดียวกัน 
 
 

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา