1695 1793 1595 1547 1934 1740 1865 1406 1629 1118 1466 1042 1289 1176 1189 1564 1162 1576 1027 1527 1173 1879 1981 1155 1971 1287 1458 1428 1037 1023 1936 1111 1944 1857 1809 1933 1649 1021 1097 1239 1450 1504 1858 1655 1537 1121 1266 1571 1920 1180 1811 1710 1925 1089 1908 1089 1856 1265 1526 1608 1598 1536 1963 1073 1534 1610 1366 1804 1051 1313 1221 1316 1997 1790 1501 1586 1127 1963 1229 1972 1288 1108 1901 1947 1805 1911 1662 1103 1808 1180 1291 1406 1889 1509 1403 1882 1061 1347 1902 เสาร์: เราจะคิดถึงวันสวยงาม...เมื่อวันเวลาผันผ่าน | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

เสาร์: เราจะคิดถึงวันสวยงาม...เมื่อวันเวลาผันผ่าน

“ทิ้งไปแล้วโว้ยยยยยย”
เสียงชายผู้น้องแผดขึ้นพร้อมดวงตาระรื่นปนระอา เมื่อครั้งที่ “เสาร์” ทวงถามถึงสัญญา เขาเคยจดเบอร์อดีต
นักการเมืองคนสำคัญของประเทศให้กับน้องชาย ฝากฝังให้โทรไปถามเรื่องการจัดตั้งพรรคการเมือง และเสนอ
นโยบายของพรรค ชายผู้น้องได้แต่สั่นหัวยิกๆ รำพึงรำพันปนขำว่า นี่ต้องเสียค่าโทรทางไกลเท่าไหร่กัน กว่าจะ
ติดต่อถึงดูไบ โฟนอินเอาง่ายกว่าไหม 
เสาร์ ได้ยินดังนั้น เดาว่าแม้คงจะผิดหวังไปบ้าง แต่ตอบสนองกลับมาเพียงใบหน้าเรียบเฉย เขายิ้มน้อยๆ เศร้าๆ
พองาม  ไม่ได้เอ่ยถามอะไรต่อ..
 
“เสาร์” ชายร่างเล็ก อายุราว 50 ปี เชื้อชาติไทยลื้อ เขาเล่าว่าเกิดที่เชียงรุ้ง เข้ามาประเทศไทยเมื่อปี
พ.ศ. 2517 ด้วยการเดินเท้า เสาร์เกิดแก่เจ็บตายอยู่ในวัฏจักรอาชีพที่หลากหลาย ในวัยเด็ก เขาไม่เคยเข้า
โรงเรียน อ่านออกเขียนได้จากการครูพักลักจำ ทั้งเรียนรู้เองและกับครูอาสา เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่ม เขา
กลายเป็นทหารรับจ้างในหน่วยกระทิงแดง ร่วบสมรภูมิรบกว่า 10 เดือน สะสมบาดแผลกายใจมาไม่น้อย จาก
นั้นผันตัวเองจากพื้นราบลงสู่ผืนทะเล มาเป็นลูกเรือตังเกที่จังหวัดตราดนานนับ 10 ปี
จากนั้นล่องไหลตามสายธารแห่งชีวิตจนฟันหน้าหายไป 1ซี่ จากการใช้ชีวิตอันระหกระเหิน
กระทั่งมาเริ่มพัวพันกับคดียาเสพติดจนต้องโทษ เสาร์เริ่มมีอาการเหม่อลอย พูดคนเดียวในเรื่องที่คนอื่นไม่
เข้าใจ และสื่อสารกับบุคคลสำคัญผ่านโทรทัศน์
ปัจจุบัน เสาร์ คือผู้ต้องหาคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (112)  พ่วงตำแหน่งผู้ป่วยทางจิตเวชร่วมด้วย เสาร์มีอาการหลงผิด และพูดไม่รู้เรื่อง
อยู่บ่อยครั้ง ค่อนข้างหมกมุ่นและสนใจเรื่องการเมืองเป็นพิเศษ หากแต่โดยรวมถือว่าเป็นคนสุขภาพจิตดี ไม่
เคยมีประวัติเรื่องการทำร้ายร่างกาย และไม่น่าเป็นภัยต่อสังคม
และนี้คือเรื่องเล่าบางฉากและชีวิตของ เสาร์
 
521 ภาพวาดเสาร์
 
ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยแขวนอล่างฉ่างอยู่กลางห้อง
กลิ่นอับชื้นกำจายในทั่วอากาศ ความมืดสลัวภายในกำลังสู้รบกับแดดบ่ายอ้อยอิ่ง แสงสว่างในห้องดูไม่
แยแสกับการมีอยู่ของเขานัก ทว่ากลับขับเน้นใบหน้าของเสาร์อย่างชัดเจน ภายในห้องไม่เล็กไม่ใหญ่ ปราศจาก
เครื่องเรือน มีเพียงเสื่อผืนหมอนใบ ไม่มีทั้งโทรศัพท์และเครื่องปรับอากาศ ไม่มีแม้แต่โต๊ะ เก้าอี้ ข้าวของน้อยชิ้นราวกับพระธุดงค์
เสาร์มาอยู่ห้องพักนี้ในฐานะพนักงานรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านปทุมธานี ความเป็นอยู่ดี
ตามอัตภาพ เนื่องจากเสาร์เองมีความต้องการน้อย เขาไม่เคยมีความอยากได้อยากมีอะไรมากนัก (นอกจาก
การจัดตั้งพรรคการเมือง และโทรหานายกรัฐมนตรี ที่กล่าวไว้เมื่อตอนต้น)
บ้านเช่าที่เสาร์อยู่ถูกแบ่งออกเป็นห้องย่อยๆ เรียงกันเป็นแนวยาว ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน หน้าบ้านพักมีบ่อน้ำขนาด
ใหญ่ และร้านอาหารเรือนไทย เสาร์เล่าว่าเถ้าแก่เป็นคนจัดหาให้ เดินทางสะดวก ราคาถูก หากแต่ต้องแชร์ร่วมผู้อื่น
 
ห่านผู้-เมียสองตัวในบ่อน้ำหน้าบ้านพักกำลังหยอกเย้า
เสียงดุดันดังสดใส ริ้วน้ำสาดกระเซ็นเป็นระยะ
ผมนั่งมองพวกมันไปพลาง ระหว่างรอเสาร์เลือกเมนูอาหาร
มันถูกเจ้าของนำมาปล่อยไว้ในบ่อน้ำของร้านอาหาร แม้พวกมันจะสวยงามเพียงใด แต่ก็ถูกเลี้ยงไว้เพียงเพื่อ
ความงาม ความดุร้ายและความต้องการอิสรภาพของมัน ทำให้ผู้จองจำต้องกั้นตาข่ายจำกัดบริเวณเอาไว้ มันมี
สิทธิเพียงแค่ที่เจ้าของชีวิตกำหนดไว้ให้เพียงเท่านั้น แต่มันไม่มีสิทธิ์เลือก
แต่กลับมนุษย์บางคน คนธรรมดาสามัญ คนที่ไม่มีใครจดจำ และไม่เคยดุร้ายต่อใคร ก็อาจมีสิทธิ์เลือกแค่เพียง
เมนูอาหารเหมือนกับเสาร์
“เอานี่แหละ หมูกระเทียม”
เสาร์ร้องขึ้นมาน้ำเสียงไร้เดียงสาราวเด็กน้อย
บางทีผมก็รู้สึกเหมือนเขาเป็นเด็ก เด็กน้อยผู้ไม่ประสาโลก คนแบบนี้หรือจะไปมีพิษมีภัยกับมวลมนุษยชาติได้
หลังเลือกเมนูอาหารเสร็จ เราคุยกันเรื่องสัพเพเหระ แต่วันนี้ดูจะพิเศษกว่าทุกวัน
“ให้เพื่อขอบคุณที่อุตสาห์อยู่เป็นเพื่อนกัน”
เสาร์เปล่งประโยคนี้ออกมา พร้อมมอบสร้อยหลวงพ่อเงินแก่ผม อลังการด้วยการร้อยมากับสายสร้อยลูกประคำ
ดินเผาความยาวประมาณสองรอบคอ
(ไม่รู้พี่แกไปหามาจากไหน ไหนบอกว่าไม่ค่อยได้ไปไหนไง)
ผมรับองค์พระมาอย่างสุภาพแนบไว้กลางอก หัวใจสั่นไหว แววตาของเขาขัดเขินทว่าเปล่งประกาย
ผมกล่าวขอบคุณ พลางนึกในใจ -แหม่ทำซึ้งเป็นกับเขาด้วย
 
ก่อนจากลา เสาร์เดินมาส่งผมที่ทางออก ผมถามเขาว่า อยากได้อะไร หรืออยากไปไหนหรือไม่ ?  เช่น เดินจับจ่าย
ซื้อของ หรือดูหนังฟังเพลง
เขาชายตามองผมแน่นิ่ง
“อยากไปเดินเล่นสวนสาธารณะ อยากไปเดินสูดอากาศ นั่งมองผู้คน แต่จะไปได้ยังไงกันหละ..”
เขาตอบเพียงเท่านี้
รอยยิ้มบางเบาผุดที่ใบหน้า ทว่าแววตาสิ้นหวัง
ผมรู้สึกจุกอยู่ในคอกับความต้องการอันแสนสามัญ
หัวใจและร่างกายที่ถูกจองจำหวังเพียงเท่านี้เองจริงๆหรือ..
 

 

Article type: