พรุ่งนี้จะพิพากษาแล้ว!! ชวนเปิดแฟ้มคดี ต้มจืด โพสต์ข้อความวิจารณ์สถาบันฯ-ประชดกลุ่มรักเจ้า ในกลุ่มเยาวชนปลดแอก
(1) “พี่เชื่อไหม ถ้าผมไม่โดนคดี ป่านนี้ผมคงเลิกสนใจการเมืองไปแล้ว เพราะผมไม่ใช่คนอินการเมืองอะไรขนาดนั้น” คือคำบอกเล่าของสุทธิเทพ หรือต้มจืด ชาวอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี วัย 24 ปี ผู้ต้องหามาตรา 112 ที่กำลังจะมีคำพิพากษาในเช้าวันลอยกระทง 8 พฤศจิกายน 2565 เวลา 9.00 น. ที่ศาลอาญา รัชดา
(2) ย้อนกลับไปเมื่อ 9 เมษายน 2564 ต้มจืดถูกตำรวจชุดจับกุมราว 5 คน เข้าล้อม พร้อมแสดงหมายจับมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ที่ห้างสรรพสินค้าย่านรามอินทรา เขาเล่าว่าถูกใส่กุญแจมือระหว่างควบคุมตัวไปลงบันทึกประจำวันที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) จากนั้น ตำรวจก็พาไปฝากขังที่ สน.ทุ่งสองห้อง และยึดโทรศัพท์มือถือ-ซิมการ์ดเป็นของกลาง
(3) ตามคำฟ้องระบุว่า เมื่อ 14 ตุลาคม 2563 ต้มจืดได้ทำการโพสต์ข้อความลงกลุ่มเฟซบุ๊ก “เยาวชนปลดแอก – Free people” ข้อความว่า “ถ้าวิจารณ์เจ้าแล้วตกนรก กูยอมตกนรก…” โดยคืนก่อนที่โพสต์ข้อความ ได้มีเหตุสลายการชุมนุมและล้อมจับผู้ชุมนุมคณะราษฎรอีสานจำนวนอย่างน้อย 21 คน ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
(4) ผ่านไป 1 คืน ตำรวจพาตัวต้มจืดไปฝากขังต่อที่ศาลอาญาเป็นเวลา 12 วัน แต่ศาลให้ประกันด้วยวงเงิน 90,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ดูหมิ่นผู้ใด
(5) “ผมไม่รู้ว่าห้องขังที่นั่นโดนไม่กวาดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ รู้แค่ว่ามีผมผู้หญิงอยู่บนพื้นเยอะมากแล้วยุงก็เยอะ” ต้มจืดเล่าถึงสภาพห้องขังที่ สน.ทุ่งสองห้องพร้อมหัวเราะเจื่อนๆ
(6) ภายหลังได้ประกันตัว ต้มจืดเล่าว่า ที่ทำงานเรียกตัวเขาไปคุยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีตำรวจมาจับ ต้มจืดตัดสินใจเล่าความจริงให้ฟัง หลังจากนั้นไม่ถึงสองสัปดาห์เขาก็ต้องตกงาน
(7) “เขาไม่ได้อ้างว่าเป็นเพราะมาตรา 112 แต่บอกว่าเราทำงานไม่ดี ไม่กระตือรือร้น เลยไม่ผ่านโปรฯ แต่ผมก็พอจะรู้ว่าสาเหตุทีีผมต้องตกงานจริงๆแล้วน่าจะมาจากอะไร” ต้มจืดเล่าต่อพร้อมกล่าวว่า การโดนจับไม่ทำให้เครียดมากเท่ากับการหางาน
(8) ปัจจุบัน ต้มจืดเป็นสมาชิกของกลุ่มคนรุ่นใหม่นนทบุรี เขาเล่าว่าหลังจากเขาเริ่มทำงานเป็นคนส่งยาให้ผู้ติดเชื้อโควิดตามบ้านในช่วงเดือนสิงหาคมปี 2564 เขามีโอกาสไปร่วมชุมนุมบ่อย ทำให้รู้จักผู้คนมากขึ้น เมื่อหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการส่งยาถูกยุบไปในเดือนพฤษภาคม 2565 ก็มีคนแนะนำให้เขารู้จักกับเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรีทำให้เขาได้มาช่วยงานของเครือข่าย รวมถึงการตั้งบูทระดมรายชื่อประชาชนเพื่อ #ยกเลิกมาตรา112
(9) 2 กรกฎาคม 2564 อัยการได้ยื่นฟ้องคดีมาตรา 112 ของต้มจืด เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.1537/2564
(10) แม้ที่ผ่านมาเขาจะให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา แต่ในนัดสืบพยานเมื่อ 7 กันยายน 2565 หนุ่มลพบุรีก็เปลี่ยนคำให้การเป็น “รับสารภาพ” เขากล่าวว่าพร้อมเผชิญหน้า เนื่องจากอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีครอบครัว ไม่รอดก็แค่เข้าคุก ไม่ใช่เรื่องใหญ่
ทั้งนี้ สิ่งเดียวที่เขาห่วงที่สุดหากไม่ได้ประกันตัวคือ “ผู้กอง” แมวจรจัดสีส้มตัวจ้ำม่ำที่เขาเลี้ยงดูมาอย่างดีภายในห้องเช่าหลังคาเดียวกัน
“อย่างอื่นเราก็ไม่ห่วง เราไม่มีภาระอะไรอยู่แล้ว” ต้มจืดกล่าว
รับชมวิดีโอสัมภาษณ์ของต้มจืด