ประมวลกิจกรรมอาลัยสุรชัย แซ่ด่านและสหาย



2 กุมภาพันธ์ 2562 ที่สี่แยกราชประสงค์ เวลา 17.00 น. อานนท์ นำภา ทนายความและนักกิจกรรมนัดทำกิจกรรม “แสดงความอาลัยอาจารย์สุรชัย แซ่ด่านและสหาย” กรณีที่สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือ สุรชัย แซ่ด่าน, สหายภูชนะ และสหายกาสะลองหายตัวไปอย่างลึกลับจากประเทศลาวในเดือนธันวาคม 2562 ก่อนจะพบศพสามศพบริเวณริมแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม สภาพถูกคว้านท้องยัดด้วยแท่งปูนถ่วงน้ำ ภายหลังการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอพบว่า ดีเอ็นเอของสองในสามศพตรงกับสหายสองคนที่หายตัวไป ทำให้เชื่อว่า อีกศพหนึ่งคือ ศพของสุรชัย** จึงนำมาสู่กิจกรรมการไว้อาลัยในวันนี้

 

 

ตำรวจสั่งย้ายสถานที่ อ้างจะเลือกตั้งแล้วอาจสร้างความวุ่นวายได้

ก่อนหน้านี้ในวันที่ 31 มกราคม 2562 อานนท์ ได้แจ้งการชุมนุมสาธารณะตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯไว้ที่สน.ลุมพินี แต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 พ.ต.อ.อัครวุฒิ ธานีรัตน์ ผู้กำกับการสน.ลุมพินี ส่งหนังสือตอบกลับให้แก่อานนท์สองฉบับคือ
 
หนึ่ง หนังสือสรุปการชุมนุมสาธารณะระบุว่า “คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศวันเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 และการแสดงออกดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ที่มีความเชื่อมโยงทางการเมืองอันอาจนำไปสู่ความขัดแย้งของกลุ่มที่เห็นต่างและก่อให้เกิดความวุ่นวายและความไม่ปลอดภัยได้ ดังนั้นเพื่อรักษาบรรยากาศทางการเมืองของประเทศไทยซึ่งกำลังนำไปสู่การเลือกตั้ง จึงขอให้งดการชุมนุม”

สอง ประกาศเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ สน.ลุมพินี ที่ 2/2562 เรื่อง ให้แก้ไขการชุมนุมสาธารณะ ขอให้แก้ไขสถานที่ชุมนุมไปยังศาสนสถานตามความเชื่อ ภายในเวลา 12.00 น. ของวันนี้

แต่อานนท์ได้ตอบกลับต่อสน.ลุมพินีว่า คำสั่งแก้ไขการชุมนุมของ ผู้กำกับการสน.ลุมพินี เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ ให้อำนาจตำรวจในการสั่งแก้ไขการชุมนุมได้ตามข้อกำหนดในมาตรา 7 และ 8 ของพ.ร.บ.ชุมนุมฯ แต่คำสั่งให้แก้ไขสถานที่การชุมนุมของผู้กำกับการสน.ลุมพินี นั้น กลับไม่ได้อ้างถึงข้อกำหนดดังกล่าว จึงยืนยันว่า จะจัดการชุมนุมในวัน เวลาและสถานที่ดังกล่าวตามเดิม

นอกจากการให้เปลี่ยนสถานที่ชุมนุมแล้วยังมีการย้ายป้ายราชประสงค์ ด้านที่หันเข้าหาห้างเกษรพลาซ่าออกไปและนำกระถางต้นไม้จาก กทม. มาวางไว้บริเวณที่เคยทำกิจกรรมเดิม


เปลี่ยนใจให้ทำกิจกรรมได้ แต่ให้อยู่ในกรอบเวลา

เวลา 14.00 น. อานนท์ นำภาแจ้งว่า ตำรวจ สน.ลุมพินีโทรศัพท์มาแจ้งให้ทำกิจกรรมได้ แต่ขอให้เริ่มและเลิกทำกิจกรรมตรงกำหนดเวลาที่แจ้งไว้ โดยตั้งแต่เวลา 16.00 น. ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบได้กระจายตัวสังเกตการณ์อยู่โดยรอบราว 50 นาย และมีการวางรั้วเหล็กกั้นไว้บริเวณป้ายแยกราชประสงค์

 


เวลา 16.30 น. ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบราว 20 นายวางกำลังอยู่รอบบริเวณห้างเกษรพลาซ่าและสกายวอล์คราชประสงค์ โดยตำรวจมีการนำป้ายคาดสีเหลืองมากั้นบริเวณรั้วสกายวอล์ค ฝั่งห้างเกษร พลาซ่าที่สามารถมองลงไปเห็นพื้นที่กิจกรรมด้วยและห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปบริเวณดังกล่าว ขณะที่ป้าย “ราชประสงค์” ยังไม่กลับมา และมีกระถางต้นไม้ของกทม. วางไว้บริเวณพื้นที่จัดกิจกรรม ต่อมาเวลา 17.30 น. อานนท์ และผู้ชุมนุมเริ่มทยอยเดินทางมาถึง และนำป้ายไวนิลเขียนว่า “ราชประสงค์” ติดแทนที่ป้ายที่หายไป

โชคชัย ไพบูลย์รัชตะ นักกิจกรรมทางการเมืองกล่าวว่า วันนี้ปราณีหรือป้าน้อย ภรรยาของสุรชัยต้องการศพของสุรชัยคืนเพื่อไปบำเพ็ญกุศลเท่านั้น โดยสงสัยว่า เหตุใดเมื่อพบศพแล้วถึงไม่คืนศพให้แก่ครอบครัว

สมยศ พฤกษาเกษมสุข นักกิจกรรมทางการเมือง กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยกล่าวว่า วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 10.00 น.จะเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อทวงคืนศพสุรชัย และขอเรียกร้องให้รัฐบาลคสช. รับผิดชอบทั้งสามคนนี้ด้วยการเปิดเผยและตรวจสอบข้อเท็จจริง

 


จากนั้นจึงวางดอกไม้หน้าภาพของสุรชัย, สหายภูชนะและสหายกาละสอง ก่อนที่เวลา 18.40 น. จะจุดเทียนและร้องเพลงร่วมกัน และแยกย้ายกันในเวลา 19.30 น.
 

ข้อมูลเพิ่มเติม**

 


สุรชัย แซ่ด่าน เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง เคยร่วมเคลื่อนไหวกับพรรคคอมมิวนิสต์ในช่วงปี 2516 ก่อนจะเข้าสู่เวทีการเมืองสังกัดพรรคความหวังใหม่และพรรคไทยรักไทยตามลำดับ ปี 2554 สุรชัย ถูกกล่าวหาในคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์รวมห้าคดี ทุกคดีรับสารภาพซึ่งศาลลงโทษคดีละสองปี หกเดือน รวมทั้งสิ้นสุรชัยต้องโทษฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ 12 ปี หกเดือน ก่อนได้รับพระราชทานอภัยโทษในปี 2556

หลังคสช. ทำการรัฐประหารในปี 2557 สุรชัย, สหายภูชนะและสหายกาสะลอง รวมถึงนักกิจกรรมทางการเมืองจำนวนหลักร้อยต้องลี้ภัยทางการเมืองไปต่างประเทศ ขณะที่สุรชัยและสหายคนสนิทเลือกหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศลาว ต่อมาวันที่ 12 ธันวาคม 2561 ก่อนหน้าการเยือนลาวของรัฐบาลคสช.เพียงหนึ่งวัน มีรายงานว่า สุรชัย, สหายภูชนะและสหายกาละสลองหายตัวไป ต่อมาวันที่ 27 ธันวาคม 2561 พบศพบริเวณตลิ่งตลาดนัดไทย-ลาว อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ต่อมาวันที่ 28 ธันวาคม 2561 พบศพที่สอง ที่ตำบลท่าจำปา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม และวันที่ 29 ธันวาคม 2561 พบศพที่สามที่ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นำไปสู่การตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ภายหลังการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอพบว่า ดีเอ็นเอของสองในสามศพตรงกับสหายคนสนิทของสุรชัยสองคน

อย่างไรก็ตามยังคงมีข้อถกเถียงว่า ศพที่ลอยมาติดริมน้ำโขงมีสองหรือสามศพกันแน่ โดยทางตำรวจระบุว่า ระหว่างรอตรวจสอบศพที่สอง ศพได้หลุดตามน้ำไปจึงทำให้เชื่อว่า ศพที่พบบริเวณตำบลท่าจำปา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม และศพที่พบบริเวณตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เป็นศพเดียวกัน ทำให้ตำรวจเชื่อว่า มีเพียงสองศพเท่านั้น ขณะที่ปราณี ภรรยาของสุรชัยเชื่อว่า มีสามศพและศพของสุรชัยถูกทำลายไปแล้ว

ที่ผ่านมามีผู้สูญหายและเสียชีวิตระหว่างลี้ภัยทางเมืองในลาวห้าคนคือ ดีเจซุนโฮ ในปี 2559, โกตี๋ ในปี 2560 และสุรชัย, สหายภูชนะและสหายกาละสลอง ในปี 2561