ผู้ลี้ภัยชาวไทยสูญหายเพิ่มอย่างน้อย 3 คน ยังไม่ทราบชะตากรรม

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2562  ‘เพียงดิน รักไทย’ หนึ่งในผู้ลี้ภัยทางการเมืองได้ออกมาเปิดผ่านช่องทางยูทูปว่า ชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือ “ลุงสนามหลวง” , สยาม ธีรวุฒิ หรือ “สหายข้าวเหนียวมะม่วง” และกฤษณะ ทัพไทย หรือ “สหายยังบลัด” ผู้ลี้ภัยการเมืองในลาว ซึ่งถูกจับกุมที่เวียดนามเมื่อเดือนมกราคม 2562 ถูกส่งตัวกลับไทยแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า

ทั้งนี้ คาดว่า การจับกุมสืบเนื่องมาจากทั้งสามคนใช้พาสปอร์ตอินโดนีเซียปลอมเดินทางเข้าเวียดนาม ส่วนที่เหตุที่ต้องข้ามจากลาวไปเวียดนามอาจเป็นเพราะการที่มีเจ้าหน้าที่ไม่ทราบฝ่ายพยายามที่จะติดตามและกวาดล้างกลุ่มผู้ลี้ภัยทางการเมืองในลาว

จากบุคคลที่คสช. ต้องการตัวสู่การสูญหายไม่ทราบชะตากรรม

ก่อนหน้าที่ผู้ลี้ภัยชาวไทยทั้งสามคนจะหายตัวไป พวกเขาได้ลี้ภัยไปประเทศลาว ภายหลังการรัฐประหาร 2557 เพราะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายรื้อฟื้นทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายมาตรา 112

ชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือ ลุงสนามหลวง หนึ่งในผู้ลี้ภัยที่สูญหายเคยถูก คสช. ออกคำคำสั่งเรียกให้ไปรายงานตัวหลังการรัฐประหาร แต่ได้ลี้ภัยไปประเทศเพื่อนบ้าน และยังเคลื่อนไหวทางการเมืองบนโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

แผ่นป้ายทวงถามชะตากรรมของสยามถูกวางบนพื้นหน้าทางเข้าสถานทูตเวียดนามระหว่างที่แม่ของสยามเดินทางมายื่นหนังสือทวงถามถึงชาตากรรมของลูกชายที่สถานเอกอัคราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย 13 พฤษภาคม 2562

ต่อมา ลุงสนามหลวง ถูกเชื่อมโยงกับกลุ่มสหพันธรัฐไท ในฐานะแกนนำ และมีการกวาดจับกลุ่มคนที่คาดว่าเกี่ยวข้องในไทย โดยมีหลักฐานเป็นเสื้อยืดสีดำ มีป้ายสี่เหลี่ยมสีขาวสลับแดงที่หน้าอก พร้อมตั้งข้อหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร อีกทั้งยังมีการควบคุมตัวภรรยาและลูกของลุงสนามหลวงในค่ายทหารช่วงเดือนธันวาคม 2561

นอกจากนี้ข้อมูลจาก Lumendatabase ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลการปิดกั้นบนโลกออนไลน์ระบุว่า ทางการไทยยังมีความพยายามในการบล็อคเว็บไซต์ของลุงสนามหลวง (sanamluang2008.blogspot.com) ด้วยเหตุผลว่า เนื้อหาบนเว็บไซต์ขัดต่อกฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์และสนับสนุนการก่อการร้าย

ส่วน สยาม ธีรวุฒิ เป็นหนึ่งในนักกิจกรรมกลุ่ม ‘ประกายไฟ’ เคลื่อนไหวประเด็นประเด็นการต่อต้านมหาวิทยาลัยนอกระบบ การต่อต้านสงครามอิรัก ฯลฯ จากนั้นหลังการรัฐประหารปี 2549 หนุ่มสาวเหล่านี้ได้ร่วมต่อต้านการรัฐประหาร และทำกิจกรรมกับกลุ่มแรงงาน

สยามตกเป็นเป้าของทางการเมื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับละครเวที ‘เจ้าสาวหมาป่า’ ละครการเมืองที่ถูกคนแจ้งความดำเนินคดีตาม ‘มาตรา 112’ ไว้ในปี 2556 และมีผู้เกี่ยวข้องกับการจัดทำละครอย่าง ภรณ์ทิพย์ มั่นคง และ ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม วัย 25 ปีถูกจับกุมตัวและต้องโทษจำคุก 2 ปีเต็ม

กฤษณะ ทัพไทย ยังไม่ปรากฎข้อมูลส่วนตัวของเขาต่อสาธารณะมากนัก แต่ทางการไทยเชื่อมโยงเขากับการก่อเหตุรุนแรงในช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. และปรากฎชื่ออยู่ในลิสต์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธสงคราม เมื่อปี 2557 ที่มี ‘จักรภพ เพ็ญแข’ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทย

ในรอบสี่ปี มีผู้ลี้ภัยไทยสูญหายอย่างน้อย 8 คน ก่อนพบศพอย่างน้อย 2 คน

ที่ผ่านมามีผู้สูญหายและเสียชีวิตระหว่างลี้ภัยทางเมืองในลาวอย่างน้อย 5 คน คือ ดีเจซุนโฮ ในปี 2559, โกตี๋ ในปี 2560 และสุรชัย, สหายภูชนะและสหายกาละสลอง ในปี 2561 และเมื่อรวมกับสามผู้ลี้ภัยชาวไทยที่ยังสูญหายอีก 3 คน รวมแล้วมีผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยสูญหายอย่างน้อย 8 คน

• อิทธิพล สุขแป้นหรือดีเจซุนโฮ

ปี 2559 อิทธิพล สุขแป้น หรือดีเจซุนโฮ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองในลาวหายตัวไป ดีเจซุนโฮเป็นผู้นำกลุ่มเชียงใหม่ 51 คนเสื้อแดงในเชียงใหม่และเป็นนักจัดรายการวิทยุชุมชน หลังรัฐประหารดีเจซุนโฮถูกเรียกรายงานตัว แต่เขาลี้ภัยไปลาว ระหว่างนั้นเขายังวิพากษ์วิจารณ์ทหารผ่านยูทูปและเฟซบุ๊ก

วันที่ 19 กรกฎาคม 2559 เป็นวันสุดท้ายที่ดีเจซุนโฮติดต่อกับบุคคลใกล้ตัว ต่อมา วันที่ 22 มิถุนายน 2559 มีรายงานว่า เขาถูกพบเห็นขณะที่รับประทานอาหารที่ร้านอาหารและขึ้นมอเตอร์ไซด์กลับบ้านของเขาในช่วงเที่ยงคืน ในช่วงค่ำมีชายคนหนึ่งได้ยินเสียงร้องในพื้นที่นั้น ก่อนจะพบรถมอเตอร์ไซค์และรองเท้ากีฬาข้างหนึ่งของเขาถูกพบห่างจากร้านอาหารไปหนึ่งกิโลเมตร

บุคคลที่เกี่ยวข้องกับดีเจซุนโฮได้รับข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ไทยจับตัวเขาไปไว้ที่ค่ายทหารในจังหวัดเพชรบูรณ์ แต่เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่กลับปฏิเสธการจับกุม อย่างไรก็ตามคสช.ยอมรับว่า มีการติดตามการเคลื่อนไหวของดีเจซุนโฮจริงแต่ไม่ได้มีการจับกุมหรือคุมขัง มาจนถึงปัจจุบันยังไม่ทราบชะตากรรมของดีเจซุนโฮ

หมายเหตุ ข้อมูลจากจดหมายของผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

• วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋

วันที่ 30 กรกฎาคม 2560 จอม เพชรประดับ นักข่าวและผู้ลี้ภัยทางการเมืองได้แจ้งผ่านเฟซบุ๊กว่า วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ ถูกกลุ่มชายชุดดำประมาณ 10 คน คลุมหน้าด้วยหมวกไหมพรมพร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าจับตัวไป เมื่อเวลา 9.45 น. ตามเวลาท้องถิ่นในประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2560

• สุรชัย แซ่ด่านและพวก

วันที่ 12 ธันวาคม 2561 ก่อนหน้าการเยือนลาวของรัฐบาลคสช.เพียงหนึ่งวัน มีรายงานว่า สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือสุรชัย แซ่ด่าน, ชัชชาญ บุปผาวัลย์ หรือ สหายภูชนะและไกรเดช ลือเลิศ  หรือ สหายกาสะลองหายตัวไป ต่อมาวันที่ 27 ธันวาคม 2561 พบศพบริเวณตลิ่งตลาดนัดไทย-ลาว อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ต่อมาวันที่ 28 ธันวาคม 2561 พบศพที่สอง ที่ตำบลท่าจำปา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม และวันที่ 29 ธันวาคม 2561 พบศพที่สามที่ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นำไปสู่การตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ภายหลังการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอพบว่า ดีเอ็นเอของสองในสามศพตรงกับสหายคนสนิทของสุรชัยสองคน

อย่างไรก็ตามยังคงมีข้อถกเถียงว่า ศพที่ลอยมาติดริมน้ำโขงมีสองหรือสามศพกันแน่ โดยทางตำรวจระบุว่า ระหว่างรอตรวจสอบศพที่สอง ศพได้หลุดตามน้ำไปจึงทำให้เชื่อว่า ศพที่พบบริเวณตำบลท่าจำปา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม และศพที่พบบริเวณตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เป็นศพเดียวกัน ทำให้ตำรวจเชื่อว่า มีเพียงสองศพเท่านั้น ขณะที่ปราณี ภรรยาของสุรชัยเชื่อว่า มีสามศพและศพของสุรชัยถูกทำลายไปแล้ว จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าว่า สุรชัยอยู่ที่ใด

ทนายและครอบครัวเร่งตามหา-องค์กรต่างชาติเรียกร้องเปิดที่อยู่

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 ภาวิณี ชุมศรี ทนายความศูนย์ทนายสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ทนายได้ติดตามความคืบหน้ากับกองบังคับการปราบปราม(กองปราบฯ)เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ออกหมายจับทั้งสามคนไว้ในคดีสหพันธรัฐไท เมื่อสอบถามไปที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไม่ได้รับทราบข้อมูลว่า มีการจับกุมตัวทั้งสามคน มาจนถึงวันนี้ยังไม่ทราบความเคลื่อนไหวไปมากกว่านี้

นอกจากนี้ กัญญา ธีรวุฒิ แม่ของสยามยังยื่นหนังสือขอทราบผลการจับกุมตัวสยามถึงผู้บังคับการการกองปราบปราม ให้ช่วยติดตามกรณีที่มีข่าวทั้งสาม โดยต้องการทราบว่าตอนนี้มีการจับกุมควบคุมตัวแล้วจริงหรือไม่ ถ้าจริงสยามจะถูกควบคุมตัวอยู่ที่หน่วยงานใด เพราะตอนนี้ครอบครัวเป็นห่วงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของสยามมาก

ด้าน ฮิวแมนไรท์ วอทช์ องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยเปิดเผยที่อยู่ของลุงสนามหลวงและพวกรวมสามคน และให้อนุญาตให้ครอบครัวและทนายความเข้าพบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ไทยไม่ได้ยอมรับถึงการจับกุมและการควบคุมตัว สร้างความกังวลใจอย่างมากว่า พวกเขาจะกลายเป็นเหยื่อของการบังคับสูญหาย ในแถลงการณ์ระบุด้วยว่า หลังรัฐประหารเจ้าหน้าที่ไทยทำการติดตามลุงสนามหลวงและนักกิจกรรมที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์ที่เคลื่อนไหวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่รัฐบาลไทยเรียกร้องให้ลาว, กัมพูชาและเวียดนามส่งตัวผู้ลี้ภัยการเมืองให้แก่ทางการไทยอยู่หลายครั้ง

You May Also Like
อ่าน

กสม.ชี้หน่วยงานรัฐไทยเอี่ยวใช้สปายแวร์เพกาซัส ชงครม.สั่งสอบ-เรียกเอกสารลับ

กสม. เชื่อว่า มีการใช้สปายแวร์ เพกาซัสละเมิดสิทธิจริง โดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของการตรวจสอบทางเทคนิคคอมพิวเตอร์ และบริบทแวดล้อมในต่างประเทศ นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า หน่วยงานรัฐไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้สปายแวร์
อ่าน

ขนุน สิรภพ “คงแค่ยิ้มสู้” ระหว่างศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัวในคดีมาตรา 112

ขนุน สิรภพ “คงแค่ยิ้มสู้” ระหว่างศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัวในคดีมาตรา 112 . สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ หรือขนุน นิสิตรัฐศาสตร์จากมศว จำเลยในคดีมาตรา 112 จากการกล่าวปราศรัยระหว่างการชุมนุม #ม็อบ18พฤศจิกา . 25 มีนาคม ที่ผ่านมาศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษา จำคุก 3 ปี แต่เนื่องจากการนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง ศาลจึงลดโทษหนึ่งในสามคงจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา . จนถึงวันนี้(4 เมษายน 2567) เป็นเวลา 10 วันแล้วที่ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัว