ติดตาม เยี่ยมบ้าน สมัชชาคนจนทั่วประเทศก่อนวันชุมนุมจันทร์นี้

7 ตุลาคม 2562 เวลา 09.00 น.สมัชชาคนจนจัดชุมนุมและนัดหมายเจรจาแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจนกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีรายงานจากสมัชชาคนจนว่า ระหว่างวันที่ 22 กันยายน 2562-3 ตุลาคม 2562 มีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจเดินทางไปที่บ้านหรือโทรศัพท์สอบถามสมาชิกสมัชชาคนจนเก้าคน ในแปดจังหวัดทั่วประเทศได้แก่ นครสวรรค์, สระแก้ว, สกลนคร, ศรีสะเกษ, กาฬสินธุ์, ชุมพร, ประจวบคีรีขันธ์และตรัง เนื้อหาในการพูดคุยหลักคือ การสอบถามรายละเอียดของการเดินทางไปชุมนุมในนามสมัชชาคนจนที่กรุงเทพฯ, การสร้างความวิตกกังวลและข่มขู่ถึงผลของการไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ และทราบความต้องการหรือข้อเสนอของชาวบ้าน รวมทั้งการขอติดตามชาวบ้านไปชุมนุมที่กรุงเทพฯด้วย

 

 

รายงานการคุกคามสมาชิกสมัชชาคนจนก่อนการชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 7 ตุลาคม 2562
 

นครสวรรค์

2 ตุลาคม 2562 

 

เวลา 10.00 น. มีชายสองคนสวมเครื่องแบบทหาร ทราบชื่อหนึ่งคน คือ พ.ต.สมหมาย ไม่ทราบนามสกุล) อ้างว่าเป็นทหารมาจากค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์มาที่องค์การบริหารส่วนตำบลกลางแดด (อบต.กลางแดด) และถามหากาญจนาณัฐ อู่ทรัพย์ สมาชิกสมัชชาคนจนจังหวัดนครสวรรค์ว่า มีใครรู้จักกาญจนาณัฐบ้าง และให้พาไปที่บ้านของกาญจนาณัฐ โดยมีคนใน อบต.กลางแดด ได้ตอบไปว่า รู้จัก แต่กาญจนาณัฐ ไม่ได้อยู่ตำบลกลางแดด แต่อยู่ที่ตำบลอื่น และบอกให้ไปหาที่อยู่ของกาญจนาณัฐเอง ทหารทั้งสองคนจึงได้เดินทางกลับไป เวลา 14.00 น. พ.ต. สมหมายเดินทางมาพบนายกองค์การบริหารส่วนตำบลยางตาล ที่องค์การบริหารส่วนตำบลยางตาล เพื่อบอกให้นายก อบต.ฯ ตามหากาญจนาณัฐ เพื่อที่จะห้ามไม่ให้ไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ

 

 

3 ตุลาคม 2562
 

เวลา 15.30 น. กาญจนาณัฐได้รับโทรศัพท์หมายเลข 0621841567 อ้างว่า เป็นสันติบาล ถามว่า จะไปชุมนุมที่กรุงเทพฯใช่หรือไม่ เดินทางไปอย่างไร ไปที่สำนักนายกรัฐมนตรีถูกหรือไม่มีใครเป็นผู้สนับสนุนและอยู่เบื้องหลัง ตอนท้ายกล่าวว่า ที่โทรศัพท์มาถามเนื่องจากเป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัยและต้องการอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ชาวบ้าน ต่อมาเวลา 16.15 น. กาญจนาณัฐได้รับโทรศัพท์หมายเลข 0621841567 อ้างว่า โทรมาจากศูนย์ดำรงธรรม กล่าวทำนองว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดให้โทรมาสอบถามเรื่องการชุมนุมที่กรุงเทพในวันที่ 7 ตุลาคม 2562 โดยได้สอบถามว่าจะเดินทางกันวันไหน เดินทางด้วยรถอะไร และจะเดินทางกันไปจำนวนเท่าไหร่

 

สำหรับปัญหาของพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์สืบเนื่องจากการประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินอำเภอปากน้ำโพ, พยุหะคีรีและโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ ในปีพ.ศ. 2479 ซึ่งทับที่ดินทำกินของราษฎร
 

 

สระแก้ว
22 กันยายน 2562 

 

เวลาประมาณ 16.30 น. ชายชื่ออำนาจ ไม่ทราบนามสกุล มาที่บ้านของอุทัย สิมมา สมาชิกสมัชชาคนจนจังหวัดสระแก้ว โดยอ้างว่าเป็น กอ.รมน. จังหวัดสระแก้ว อำนาจสอบถามถึงเรื่องการชุมนุมกับสมัชชาคนจนที่กรุงเทพฯ ว่า ชาวบ้านจะเดินทางไปกี่คน เดินทางวัยเวลาใด มีการยกกฎหมายมาพูดเพื่อสร้างความวิตกกังวลเช่น มาตรา 44 ยกเลิกแล้ว แต่ยังมีกฎหมายบางตัวที่เกี่ยวกับการชุมนุมที่ยังไม่ได้ยกเลิก ดังนั้นต้องไปศึกษากฎหมายฉบับนี้ด้วย และพูดจาข่มขู่ว่า อุทัยเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลจะพาชาวบ้านไปชุมนุมไม่กลัวหรือ โดยกล่าวด้วยว่า จะมีการสกัดไม่ให้ชาวบ้านเดินทางเข้ากรุงเทพฯได้ พร้อมเสริมว่า หากไปได้จะติดตามไปด้วย
 

 

ก่อนหน้าเกิดเหตุตัวแทนสมัชชาคนจนจังหวัดสระแก้วเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านกำนันตำบลทัพราช และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทัพราช ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลทัพราช อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว โดยขอให้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน และขอนัดหมายเจรจาแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจนกับ นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 7 ตุลาคม 2562
 

 

3 ตุลาคม 2562
 

เวลา 13.00 น. อุทัย สอาดชอบ สมาชิกสมัชชาคนจนจังหวัดสระแก้ว ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจ สภ.ตาพระยา ว่าได้รับคำสั่งจากนายให้โทรมาสอบถามว่าชาวบ้านที่จะไปชุมนุมที่กรุงเทพ จะเดินทางกันในวันและเวลาอะไร อย่างไร และไปชุมนุมทั้งหมดกี่คน สำหรับปัญหาของพื้นที่อำเภอตาพระยาสืบเนื่องจากตำรวจตระเวณชายแดนขอใช้พื้นที่ทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน
 

 

สกลนคร
2 ตุลาคม 2562

 

เวลา 11.40 น. เฉลิมชัย กาสีคุณ สมาชิกสมัชชาคนจนจังหวัดสกลนคร ได้รับโทรศัพท์จากหมายเลข 0903389974 ปลายสายอ้างตัวว่าเป็นสันติบาล จังหวัดสกลนคร แต่ไม่ได้แนะนำตัวว่า ชื่อนามสกุลใด เนื้อหาการพูดคุยคือ ชายคนดังกล่าวอ้างว่า ได้รับแจ้งว่า ชาวบ้านจะไปชุมนุมที่กรุงเทพฯร่วมกับสมัชชาคนจนจึงอยากคุยด้วย ตอนแรกจะไปหาที่บ้าน แต่ไม่มีเวลาจึงไปถามหาเบอร์โทรศัพท์จากปลัดที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวาริชภูมิ และถามว่า เฉลิมชัยเป็นแกนนำหรือไม่ ชาวบ้านจะไปร่วมชุมนุมกันกี่คน พร้อมทั้งถามปิดท้ายด้วยว่าจะไปชุมนุมจริงหรือไม่
 

 

3 ตุลาคม 2562
 

เวลา 17.00 น. ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวาริชภูมิโทรศัพท์มาแจ้งเฉลิมชัยให้ไปพบนายอำเภอวาริชภูมิ ณ ที่ทำการอำเภอวาริชภูมิในวันพรุ่งนี้ โดยไม่ได้บอกถึงเหตุผลในการให้ไปพบ ซึ่งเบื้องต้นเฉลิมชัยได้ตอบปฏิเสธเนื่องจากติดธุระ สำหรับปัญหาของจังหวัดสกลนครเป็นกรณีปัญหาการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็กทับที่ดินทำกินของราษฎร  อำเภอวาริชภูมินิคมน้ำอูนและกุดบาก  จังหวัดสกลนคร

 

ศรีสะเกษ
3 ตุลาคม 2562

 

วันที่ 3 ตุลาคม 2562 เวลา 9.30 น. ประดิษฐ์ โกศล สมาชิกสมัชชาคนจนจังหวัดศรีษะเกษได้รับโทรศัพท์จากสันติบาล ซึ่งโทรศัพท์มาสอบถามถึงเรื่องการเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ ว่าเดินทางอย่างไร เดินทางเมื่อไหร่ มีคนเดินทางไปชุมนุมกี่คน พร้อมทั้งสอบถามว่ามีอะไรให้ช่วยเหลือหรือไม่ ประดิษฐ์จึงตอบว่า อยากให้มาช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางจนไปถึงกรุงเทพฯ ทางสันติบาลที่โทรศัพท์มาก็ได้รับปากว่า จะช่วยดูแลการเดินทางของชาวบ้าน

 

กาฬสินธุ์
3 ตุลาคม 2562

 

เวลา 12.24 น. วิไลลักษณ์ การสอน สมาชิกสมัชชาคนจนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับโทรศัพท์จากหมายเลข 092639573 อ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่สันติบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่ไม่ได้บอกชื่อนามสกุล ถามว่า “จะไปชุมนุมกันกี่คน เดินทางอย่างไร มีปัญหาอะไรที่ต้องไปชุมนุม มั่นใจไหมว่าไปกรุงเทพฯแล้วปัญหาจะได้รับการแก้ไขเพราะปัญหาอยู่ที่ อบต. ไม่ใช่หรอ” สำหรับปัญหาของจังหวัดกาฬสินธุ์เกี่ยวเนื่องกับที่สาธารณประโยชน์โคกหนองกุง  ตำบลศรีสมเด็จ  อำเภอสมเด็จ  จังหวัดกาฬสินธุ์
 

 

ชุมพร
2 ตุลาคม 2562

 

เวลา 12.00 น. มีชายจำนวนหกคนสวมเครื่องแบบตำรวจ และอ้างว่าเป็นตำรวจ ไม่ทราบชื่อ นามสกุลและสังกัด มาหากลุ่มชาวบ้านไร้สัญชาติ สมาชิกสมัชชาคนจนจังหวัดชุมพร ที่บ้านหนองหอยขม ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร  โดยแจ้งกับชาวบ้านว่า ได้รับแจ้งมาจากส่วนกลางว่าชาวบ้านจะไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ จึงเดินทางมาสอบถามถึงปัญหาที่จะไปชุมนุมว่าไปชุมนุมเรื่องเขื่อนท่าแซะใช่หรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องเขื่อนไม่อยากให้ไปชุมนุม แต่ถ้าชาวบ้านไปชุมนุมเรื่องบัตรของคนไร้สัญชาตินั้นทางตำรวจยินดีให้ไปร่วมชุมนุม
 

 

3 ตุลาคม 2562
 

เวลา 17.00 น. ตำรวจโทรศัพท์ถึงวัชรี จันทร์ช่วง สมาชิกสมัชชาคนจนจังหวัดชุมพร ระบุว่า ได้รับคำสั่งจากทางจังหวัดให้มาสอบถามเรื่องวิธีการเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ ว่าจะเดินทางกันวันไหน อย่างไรและมีจำนวนผู้เดินทางไปชุมนุมกี่คน สำหรับปัญหาของอำเภอท่าแซะเป็นกรณีการสร้างเขื่อนท่าแซะ จังหวัดชุมพร ชาวบ้านคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนท่าแซะด้วยเห็นว่า ไม่ใช่ทางออกแก้ปัญหาเรื่องน้ำเพราะปัจจุบันจังหวัดชุมพรมีโครงการแก้มลิงหนองใหญ่ที่ช่วยบริหารจัดการน้ำไม่ให้น้ำท่วมพื้นที่ ประกอบกับอำเภอท่าแซะมีเขื่อนคุริงอยู่แล้วจึงเห็นว่าให้พัฒนาสิ่งที่อยู่เดิมน่าจะเป็นแนวทางที่ยั่งยืนมากกว่าการสร้างเขื่อน อีกทั้งยังไม่ทำลายระบบนิเวศ

 

 

ก่อนหน้านี้ในปี 2560  ทหารมทบ.44 พร้อมอาวุธจำนวน 20 นายเคยพยายามควบคุมตัวชาวบ้านที่คัดค้านการก่อสร้างเขื่อนท่าแซะไปยังค่ายเขตอุดมศักดิ์ โดยอ้างว่า อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 แต่ไม่มีเอกสารคำสั่งใด การควบคุมตัวดังกล่าวเป็นการสกัดไม่ให้ชาวบ้านเดินเข้ายื่นหนังสือคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนท่าแซะที่ทำเนียบรัฐบาลแลคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
 

 

ประจวบคีรีขันธ์
2 ตุลาคม 2562

 

เวลา 12.00 น. มีตำรวจจาก สภ.บางสะพานหนึ่งนายไปที่บ้านของทองศรี โรจน์เสถียร สมาชิกสมัชชาคนจนจังหวัดประจวบคิรีขันธ์ บอกต่อทองศรีว่า ได้รับรายชื่อมาจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ทองศรี เป็นหนึ่งในสี่คนจากจังหวัดประจวบคิรีขันธ์ ที่เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของสมัชชาคนจน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา จึงมาสอบถามว่าจะไปกรุงเทพครั้งต่อไปเมื่อใดและจำนวนกี่คน แต่เมื่อทองศรีตอบว่า ยังไม่ทราบ ตำรวจตอบกลับมาว่า ให้ไปถามข้อมูลมาและให้ไปแจ้งข้อมูลที่ สภ.บางสะพาน หรือให้โทรศัพท์มาแจ้งกับเขาก็ได้
 

 

ทองศรีจึงได้ปรึกษากับสมาชิกในกลุ่ม ต่อมาทางสมัชชาคนจังหวัดประจวบคิรีขันธ์จึงได้โทรศัพท์ไปนัดหมายกับผู้กำกับการ สภ.บางสะพานว่า วันที่ 3 ตุลาคม 2562 เวลา 11.00 น. ทางกลุ่มจะเข้าไปชี้แจงที่ สภ.บางสะพาน ให้ทาง สภ.บางสะพาน เชิญเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาพูดคุยร่วมกัน สำหรับปัญหาของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นกรณีโครงการอุตสาหกรรมบางสะพาน
 

3 ตุลาคม 2562
 

เวลา 11.00 น. ทองศรี โรจน์เสถียร, จินตนา แก้วนาง, พงษ์ศักดิ์ บุตรรักษ์และพรชัย เขียวขำ พร้อมกับชาวบ้านจำนวน 25 คนในนามสมัชชาคนจนจังหวัดประจวบคิรีขันธ์ ได้เดินทางไปที่ สภ.บางสะพาน เพื่อไปชี้แจ้งข้อมูลเรื่องการไปชุมนุมที่กรุงเทพ และสาเหตุของปัญหาที่ชาวบ้านทำให้ชาวบ้านต้องเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ ซึ่งคือกรณีปัญหาโครงการอุตสาหกรรมบางสะพานและกรณีปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำของเครือข่ายชาวสวนมะพร้าว
ตรัง

 

 

2 ตุลาคม 2562
 

ช่วงเย็น  มีเจ้าหน้าที่ไม่ทราบสังกัดโทรศัพท์ถึงอานนท์ สีเพ็ญ ตัวแทนเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด จังหวัดตรัง สอบถามถึงเครือข่ายว่า มีปัญหาความเดือนร้อนอย่างไร แต่อานนท์นัดหมายให้เข้ามาพูดคุยกันในวันที่ 3 ตุลาคม 2562 ที่เครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด และหลังจากนั้นอีกสักพักได้มีโทรศัพท์เข้ามาอีกหนึ่งสาย โทรศัพท์มาสอบถามว่า “ผมขอเข้าร่วมเดินทางไปชุมนุมด้วยได้ไหมครับผมเป็น หลานของหมวดประหยัด ทองสม เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.”  ซึ่งเบื้องต้น อานนท์ ได้ปฎิเสธไป
 

 

3 ตุลาคม 2562
 

เวลา  13.37  น. เจ้าหน้าที่กอ.รมน.และสันติบาลทั้งหมด รวมทั้งหมดสี่คน ประกอบด้วย พ.ต.ท. ปริญญา เหมชูเกียรติ์กุล  จ.ส.ต. พอเจษฎ เพชรหนู และอีกสองคน ที่ไม่ทราบชื่อนามสกุล เดินทางมาที่เครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด จังหวัดตรัง เพื่อมาพูดคุยกับอานนท์ พร้อมทั้งชาวบ้านจำนวนหนึ่งมานั่งฟังด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้ามามาสอบถามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องที่จะไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ เพราะได้รับรายงานมาจากส่วนกลาง จึงอยากมาพูดคุยเพื่อรับทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ในการพูดคุยไม่มีการขอร้องไม่ให้เดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพ เพียงต้องการทราบความเป็นมาของเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัดและรับฟังสภาพปัญหาพร้อมทั้งข้อเสนอ  ก่อนเดินทางกลับไปในเวลา  14.24 น.