1547 1091 1160 1214 1555 1891 1055 1924 1217 1031 1322 1874 1328 1521 1704 1121 1799 1203 1981 1647 1650 1803 1666 1574 1906 1847 1690 1497 1445 1108 1385 1400 1443 1142 1020 1960 1326 1375 1490 1876 1553 1624 1443 1261 1137 1037 1600 1705 1041 1466 1637 1731 1188 1956 1055 1074 1553 1852 1818 1884 1483 1477 1360 1125 1029 1462 1017 1630 1300 1885 1416 1964 1657 1965 1928 1430 1770 1493 1089 1531 1209 1785 1186 1432 1000 1841 1275 1384 1619 1407 1196 1958 1744 1095 1068 1952 1619 1503 1152 "หนักแผ่นดิน" จากวาทกรรมสู่การตอบโต้ของประชาชนที่ลงท้ายด้วยการดำเนินคดี | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

"หนักแผ่นดิน" จากวาทกรรมสู่การตอบโต้ของประชาชนที่ลงท้ายด้วยการดำเนินคดี

วันนี้ (11 ตุลาคม 2562) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกบรรยายพิเศษในหัวข้อ “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” ที่กองบัญชาการกองทัพบก โดยในการบรรยายผบ.ทบ.มีการแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่น่าสนใจ เช่น พูดถึงกรณีที่มีนักการเมืองไทยถ่ายภาพกับโจชัวร์ หว่อง นักเคลื่อนไหวชาวฮ่องกง
 
พล.อ.อภิรัชต์ ผบ.ทบ. ตั้งคำถามถึงการที่ โจชัวร์ หว่องเคยมาพบกับบุคคลประเภทไหนในประเทศไทย มีวาระซ่อนเร้นหรือวางแผนคบคิดทำอะไรกันหรือไม่ พร้อมตั้งข้อสังเกตด้วยว่าในขณะที่มีการชุมนุมในฮ่องกงก็มีนักการเมืองไทยไปถ่ายภาพด้วยคล้ายไปให้กำลังใจหรือให้การสนับสนุน
 
นอกจากนี้ ผบ.ทบ. ยังพูดถึงบทบาทของทหารกับการรักษาความมั่นคงของประเทศด้วยว่า ไม่ว่าบุคคลใดมาเป็นหัวหน้ารัฐบาล ทหารก็ทำงานให้ตามกรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ แต่กลับมีกลุ่มคนที่พยายามสร้างวาทกรรมต่างๆมาโจมตีว่าทหารเป็นอุปสรรคต่อระบอบประชาธิปไตย 
 
1216
 
"เพราะทหารคือหลักไงครับ คือหลักแห่งความมั่นคง ที่จะต้องปกป้องอธิปไตย จึงมีวาทกรรมต่างๆเกิดขึ้น ทุกครั้ง เอามาหวังผลทางการเมือง เอาใจเด็กๆน้องๆวัยรุ่น ไม่ต้องเกณฑ์ทหารบ้างหล่ะ ลดงบประมาณกองทัพบก ลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม จัดซื้ออาวุธทำไม หนักแผ่นดิน" 
 
ที่น่าสนใจคือ ผบ.ทบ. พูดคำว่า "หนักแผ่นดิน" หลังพูดเรื่องการใช้วาทกรรมโจมตีทหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการซื้ออาวุธและการปรับลดงบประมาณของกองทัพหรือกระทรวงกลาโหม ซึ่งการพูดเรื่อง "หนักแผ่นดิน" เคยถูกหยิบมาใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ช่วงที่พรรคการเมืองต่างๆอยู่ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง ผบ.ทบ.ก็เคยพูดลักษณะนี้มาก่อนแล้ว
 
ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 พรรคเพื่อไทยจัดปราศรัยหาเสียงที่ลานคนเมือง โดยช่วงหนึ่งของการปราศรัยมีการพูดถึงนโยบายการลดงบประมาณกองทัพ ซึ่งในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 เมื่อผู้สื่อข่าวไปสัมภาษณ์ผบ.ทบ.ถึงการหาเสียงในประเด็นดังกล่าว ผบ.ทบ.ก็ตอบว่า
 
 “เพลงอะไรที่กำลังฮิตตอนนี้ ก็เพลงหนักแผ่นดินไง”
 
หลังจากนั้นก็มีกระแสข่าวว่าผบ.ทบ.จะให้วิทยุในเครือกองทัพบกนำเพลงหนักแผ่นดินและเพลงปลุกใจอื่นๆไปเปิดระหว่างวัน แต่ต่อมาก็มีการยกเลิกแนวคิดดังกล่าว เหลือเพียงให้เปิดเพลงในค่ายทหารแทน
 
การให้สัมภาษณ์ของผบ.ทบ.ในครั้งนั้นทำให้มีประชาชนอย่างน้อยสี่คนที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านเนื่องจากเห็นว่าเพลงหนักแผ่นดิน เป็นเพลงที่เคยใช้ปลุกระดมและสร้างความเกลียดชังช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์สังหารผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 
 
กรณีแรกคือกรณีของนักกิจกรรมนักศึกษา พริษฐ์หรือ "เพนกวิ้น" และธนวัฒน์ หรือ "บอล" ที่ไปอ่านจดหมายเปิดผนึกคัดค้านแนวคิดของผบ.ทบ.ในการนำเพลงหนักแผ่นดินมาเปิดทั้งในกรณีการเปิดทางวิทยุและกรณีการเปิดในค่ายทหาร โดยทั้งสองมาทำกิจกรรมที่บริเวณเกาะกลางถนนตรงข้ามกองทัพบก
 
1215

ภาพพริษฐ์และธนวัฒน์ทำกิจกรรมอ่านจดหมายเปิดผนึกถึงผบ.ทบ. ภาพโดย  Wassana Nanuam
 
พริษฐ์หรือ "เพนกวิ้น" ระบุตอนหนึ่งว่า 
 
“เนื้อหาเพลงหนักแผ่นดินมีเนื้อหาโจมตีผู้เห็นต่างทางการเมืองว่าเป็นผู้บ่อนทำลายสังคม ดูถูกเพื่อนร่วมชาติว่ารับใช้อิทธิพลจากต่างประเทศ ทั้งที่ความเป็นจริงการที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันถือเป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร เนื้อหาของเพลงก่อให้เกิดแห่งความเกลียดชัง มีเป้าประสงค์เพื่อชี้ชวนให้มองว่าผู้เห็นต่างเป็นพวกหนักแผ่นดิน บั่นทอนความเป็นมนุษย์ของเพื่อนร่วมชาติ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความรุนแรงได้ และที่ผ่านมาเพลงดังกล่าวก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างบรรยากาศให้เกิดความเกลียดชังและความรุนแรงในหลายเหตุการณ์ ผมขอให้ผบ.ทบ.ยกเลิกการเปิดเพลงดังกล่าว”
 
ระหว่างที่พริษฐ์กับเพื่อนๆไปทำกิจกรรมเขากับเพื่อนได้นำป้ายเขียนข้อความ 
 
“หนักแผ่นดินไม่อินดี้ ฟังประเทศกูมี ดีกว่ามั้งลุง” ไปถือด้วย
 
ในเวลาไล่เลี่ยกันก็มีนักกิจกรรมอีกสองคนได้แก่เอกชัยและโชคชัย นำตุ๊กตาหมีพร้อมลำโพงไปที่บริเวณเกาะกลางถนนตรงข้ามกองทัพบกเพื่อทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เปิดเพลง "ประเทศกูมีให้" ผบ.ทบ.ฟัง 
 
พร้อมทั้งจำลองเหตุการณ์คนใช้เก้าอี้ตีศพเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งเป็นทั้งมิวสิควิดีโอของเพลงประเทศกูมี และเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเพลง หนักแผ่นดิน ด้วยการนำตุ๊กตาหมีไปแขวนและใช้เก้าอี้ตี อย่างไรก็ตามระหว่างที่เอกชัยและโชคชัยกำลังทำกิจกรรมเจ้าหน้าที่ก็ยึดตุ๊กตาหมีไป ทำให้เอกชัยต้องใช้เก้าอี้ทำท่าตีโชคชัยเพื่อจำลองเหตุการณ์แทน 
 
ในวันเดียวกันนักกิจกรรมทั้งสี่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวจากสถานที่ทำกิจกรรมไปตั้งข้อกล่าวหา ไม่แจ้งการชุมนุมตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ โดยแยกการแจ้งข้อกล่าวหาเป็นสองคดี
 
1217
 
เอกชัยและโชคชัยทำกิจกรรมเปิดเพลงประเทศกูมีและจำลองเหตุการณ์ 6 ตุลา ภาพจาก Banrasdr Photo
 
คดีของเอกชัยและโชคชัย ศาลแขวงดุสิตพิพากษาปรับทั้งสองเป็นเงินคนละ 2000 บาท เพราะเห็นว่าสถานที่ทำกิจกรรมเป็นสถานที่สาธารณะ และบุคคลทั้งสองมีการโพสต์ข้อความต่อสาธารณะแจ้งวัน เวลา สถานที่จัดกิจกรรมรวมทั้งระบุวัตถุประสงค์ของกิจกรรมว่าจะมาแสดงออกเพื่อคัดค้านหรือสนับสนุนเรื่องใดเรื่องหนึ่ง การกระทำของทั้งสองจึงเข้าข่ายเป็นการชุมนุมและทั้งสองเข้าข่ายเป็นผู้จัดการชุมนุม เมื่อทั้งสองไม่แจ้งการชุมนุมล่วงหน้าตามกฎหมายจึงมีความผิด   
 
สำหรับคดีของพริษฐ์และธนวัฒน์ ศาลแขวงดุสิตสืบพยานแล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2562 และนัดจำเลยทั้งสองฟังคำพิพากษาวันที่ 28 ตุลาคม 2562 พล.อ. อภิรัชต์  คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก บรรยายพิเศษ “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” 11 ตุลาคม 2562
 
หมายเหตุ ข้อความบนภาพของผบ.ทบ. ถอดความมาจักคำบรรยายนานทีที่ 28.38 - 29.16 ของคลิปวิดีโอ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. บรรยายพิเศษ “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” ของมติชนทีวี