22 กรกฎาคม 2563 เวลาประมาณ 15.30 น. ที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ชายฉกรรจ์หัวเกรียนห้าคน ขับรถยนต์เข้ามาที่บ้านของมารียำ นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมเทพา สุขเกษม ลูกชายของมารียำเล่าว่า บ้านของเขามีสองทางเข้าคือ ทางเข้าร้านขายของชำ ทางเข้าตัวบ้าน เวลาประมาณ 15.30 น. ขณะที่แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวมีชายสองคนอยู่ประตูทางเข้าบ้าน อีกสามคนยืนอยู่ประตูทางร้านชำ พร้อมถามมารียำว่า วันนี้จะมีการจัดประชุมอะไร แม่ของเขาจึงตอบด้วยเสียงดังตามประสาว่า ทางคุณก็รู้เรื่องแล้วนี่ พร้อมปฏิเสธว่า ไม่มี ชายคนหนึ่งก็ตอบว่า ทำไมพูดเสียงดังอะไรแบบนี้
ขณะที่ชายอีกคนหนึ่งพูดต่อว่า ถ้าไม่มีประชุมไม่เป็นอะไร แต่จะขอค้นบ้าน แม่ของเขาจึงบอกว่า มีหมายค้นหรือไม่ ชายฉกรรจ์คนดังกล่าวกลับทำท่าชูบัตรห้อยคอที่มีลักษณะคล้ายกับบัตรประจำตัว แต่ไม่ให้ดูรายละเอียดและพยายามจะเข้ามาในบ้าน โดยเวลาดังกล่าวชายเหล่านั้นเข้ามาที่ชานบ้านแล้ว แม่ของเขาจึงพยายามต่อรองว่า รอก่อน รอให้สามีที่กำลังตัดยางกลับมาก่อน และคว้าโทรศัพท์โทรหาตนและบอกกับตำรวจว่า ลูกชายของเธอก็เป็นตำรวจเช่นกัน
จากนั้นตนจึงบอกกับแม่ว่า ขอคุยกับตำรวจและให้เธอไปเปิดกล้องวงจรปิด เนื่องจากไม่ได้เปิดไว้ตลอดเวลา จากการพูดคุยชายคนดังกล่าวอ้างว่า เขาได้รับแจ้งมาว่า ที่บ้านหลังนี้มีการปล่อยเงินกู้นอกระบบ ผู้กำกับการ สภ.เทพาจึงสั่งการให้มาตรวจสอบ สุขเกษมสอบถามยศ ชื่อ นามสกุล แต่ชายคนดังกล่าวบ่ายเบี่ยงบอกเพียงว่า เป็นชุดสืบสวนของ สภ.เทพา เขาจึงถามย้ำอีกครั้งว่า ขอชื่อและยศด้วยจะได้รู้ว่าตำรวจจริงหรือตำรวจปลอม ชายคนดังกล่าวไม่ตอบและถามกลับว่า อยู่ที่ไหนและให้ไปเจอที่ห้องสืบสวนของ สภ.เทพา แต่เนื่องจากเขาติดราชการจึงยังไม่ได้พบ
สุขเกษมเล่าด้วยว่า แม่ของเขาอายุมากแล้วและมักจะมีอาการสั่นเมื่อเกิดความหวาดกลัว ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวถามแม่ของเขาว่า ทำไมสั่น แม่ของเขาตอบว่า กลัวเพราะอยู่คนเดียว ไม่รู้ว่าตำรวจจริงหรือตำรวจปลอม และหากช็อคเป็นอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไร หนึ่งในนั้นตอบกลับมาว่า ตายๆ ก็ดีก็ให้ตายๆ ไปเลย
สำหรับมารียำ เป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม มีจุดยืนคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินและมักจะแสดงออกร่วมกับเครือข่ายอื่นๆ เช่น เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ก่อนหน้านี้วันที่ 11 กรกฎาคม 2563 ในการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นนิคมอุตสาหกรรมจะนะมารียำก็เข้าร่วมแสดงออกด้วย
วันเดียวกันยังมีรายงานว่า ตำรวจสองนายเข้าไปในพื้นที่บ้านสวนกง อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา และถามถึงไครียะห์ ระหมันยะ เยาวชนที่เคยไปยื่นหนังสือต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ว่าไปไหน เมื่อได้คำตอบว่าไปโรงเรียน จึงถามอีกว่า วันนั้นจะยื่นหนังสือร้องเรียนที่ไหน สองเหตุการณ์เกิดขึ้นคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน รัฐสภานัดหมายประชุมรับฟังข้อมูลจากตัวแทนกลุ่มคัดค้านโครงการนิคมอุตสากรรมจะนะและศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้