ประมวลภาพการสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน

วันที่ 16 ตุลาคม 2563 ประชาชนรวมตัวกันทำกิจกรรม #16ตุลาไปแยกปทุมวัน โดยเบื้องต้นผู้จัดจะทำกิจกรรมที่แยกราชประสงค์ เพื่อชุมนุมต่อเนื่องจากวันที่ 15 ตุลาคม 2563 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ายึดพื้นที่แยกราชประสงค์ก่อนเวลานัดหมาย ผู้จัดจึงเปลี่ยนพื้นที่การชุมนุมไปที่แยกปทุมวัน และเริ่มกิจกรรมเวลา 17.00 น. จุดประสงค์ของการชุมนุมคือ เพื่อเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ต้องลาออก, เปิดวิสามัญรับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจากประชาชน, ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปล่อยแกนนำที่จับไปตั้งแต่วันที่ 13-15 ตุลาคม 2563

อย่างไรก็ตาม เวลา 18.40 น. แนวตำรวจควบคุมฝูงชนหลายร้อยนายเคลื่อนกำลังเข้าใต้บีทีเอสสยามพร้อมโล่และกระบอง พร้อมรถฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าสลายการชุมนุมและยึดพื้นที่บริเวณแยกปทุมวันและถนนเส้นพญาไทมุ่งไปแยกราชเทวี (สะพานหัวช้าง) ใช้เวลาไปทั้งสิ้นเกือบ 3 ชั่วโมง

ลำดับเหตุการณ์

16.31 น.  มีตำรวจควบคุมฝูงชนเดินไปฝั่งโรงแรมเอราวัณประมาณ 50 นาย

16.33 น. ตำรวจควบคุมฝูงชนเคลื่อนกำลังจากหลังสยามดิสคัฟเวอรี่มาที่แยกปทุมวัน

16.35 น. แยกราชเทวี แยกปทุมวันมุ่งหน้าสามย่าน เลี้ยวขวาสนามกีฬายังเคลื่อนตัวได้

16.38 น.  ห้างอัมรินทร์ ประกาศปิดให้ผู้ที่อยู่ด้านในออกภายใน 17.00 น.  ประตูด้านบนปิดห้ามเข้า เเต่ด้านล่างยังเข้าออกได้

16.38 น. แยกปทุมวัน เจ้าหน้าที่ EOD เตรียมตั้งครื่องแสกนอาวุธบนสกายวอล์คแยกเฉลิมเผ่า ตั้งตรงประตูขึ้นจากฝั่ง สตช.

16.41 น. แยกปทุมวัน ตำรวจได้ใช้เครื่องขยายเสียงว่าให้ตำรวจบางส่วนไปพักเตรียมเสื้อกันฝน และให้เหลือเเนวล้อมยืนแค่แถวเดียวและทางตำรวจยศสูงจากสี่กองร้อยได้มีการเรียกประชุมกันตรงกลางวงล้อม

16.44 น. แยกปทุมวัน เกาะแยกปทุมวัน ฝั่งมุ่งหน้าสามย่านตำรวจยืนอยู่ร่วมกับผู้ชุมนุม ส่วนใหญ่เป็นนักเรียน ยังไม่มีเหตุขัดแย้ง

16.44 น. แยกปทุมวัน ห้างมาบุญครองนำแผงกั้นมาวางด้านหน้าห้างและยังไม่มีกำหนดแจ้งปิดห้างแต่อย่างใด

16.48 น. ตำรวจที่ออกมาพักยังทยอยเดินเข้าโรงแรมเอราวัณแต่มาเข้าด้านข้างโรงเเรมไม่ได้เข้าด้านหน้าโรงเเรมเหมือนครั้งก่อน บางส่วนที่ออกมาพักยืนหลบฝนอยู่หน้าโรงแรมเอราวัณ

16.57 น. แยกปทุมวัน จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ คณะประชาชนปลดแอกแจ้งกับผู้ชุมนุมบนสกายวอล์คปทุมวันว่าให้ลงไปปิดถนนที่แยกปทุมวัน

16.57 น. มีรถฉีดน้ำแรงดันสูงจำนวน 2 คัน ขับออกจากพื้นที่ไปทางถนนพระราม 1

17.32 น. ประชาชนยังทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง โดยเดินเท้ามาจากแยกสามย่าน ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนที่เพิ่งจะเลิกเรียน


17.32

17.33

17.44


17.56 น. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาสามคนที่เดินเข้ามาทางแยกสามย่านให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ที่มาร่วมกิจกรรมเพราะต้องการแสดงออกให้รู้ว่า ทุกคนสามารถเป็นแกนนำได้ คุณต้องจับคนให้หมดทั้งประเทศ แกนนำถึงจะหมด เราทำใจไว้แล้วครับว่า เราจะถูกจับหรือทำร้ายอย่างไรเรายินดีเพราะเราต้องการให้ทุกคนกล้าที่จะแสดงออก ไม่จำเป็นต้องเป็นแกนนำมาก่อน แต่เราต้องกล้าที่จะออกมา

18.00 น. แยกปทุมวัน ถนนหน้าสยามดิสคัฟเวอรี่มีแผงกั้นรั้วไม่ให้รถผ่าน และไม่ให้คนเข้า โดยจราจรที่เฝ้าอยู่จะโบกให้รถไปทางถนนฝั่งลิโด้อย่างเดียว บริเวณแยกเจริญ โลตัสพระราม 1 ที่จะมุ่งหน้าไปแยกปทุมวัน ยังไม่มีการปิดถนน รถยังวิ่งเข้าออกได้


18.00


18.02 น. แยกปทุมวัน ตำรวจออกมาจากโรงแรมเอราวัณ 1 กองร้อยและตั้งแถวหันหน้าไปทาง ถ.พระราม1 ไม่มีอาวุธ พบรถกระบะขนแผงเหล็กและแบริเออร์สีส้มออกมาจาก ถ.พระราม 1 มุ่งหน้าไปประตูน้ำ ด้านหลังหอศิลป์กรุงเทพฯ มีรถตู้ตำรวจ 2 คัน ตำรวจในเครื่องแบบประมาณ 10 นาย

18.04 น. แยกปทุมวัน แนวเจ้าหน้าที่ฝั่งพญาไทมุ่งหน้าราชเทวีมีตำรวจควบคุมฝูงชนผ้าพันคอสีฟ้ามาเสริมหลังแนวผ้าพันคอเขียว

18.05 น. แยกปทุมวัน ตำรวจตั้งจุดสกัดรถยนต์ (รถมอเตอร์ไซค์กับคนยังสามารถผ่านได้) หน้าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน

18.10 น. แยกปทุมวัน ถนนฝั่งเพลินจิตมีรถตู้เจ้าหน้าที่จอดกั้นทางจราจร และแผงเหล็กกั้นด้านหน้าห้างเกษร พลาซ่า

18.14 น. ตำรวจในเครื่องแบบใส่หมวกกันน็อค เสื้อเกราะกันกระสุน ถือโล่และกระบองออกเดินไปทางถ.พระราม 1 อย่างน้อยอีก 200 นาย  

18.15 น. แยกปทุมวัน หน้าห้างสยามดิสคัฟเวอรี่ พ่อค้า แม่ค้าพยายามยกรถเข็นข้ามรั้วกั้นถนนเพื่อนำของไปขายในพื้นที่ชุมนุมที่แยกปทุมวัน โดยไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในบริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด

18.17 น. แยกปทุมวัน รถฉีดน้ำแรงดันสูงขับมาจอดบริเวณแยกเฉลิมเผ่าพร้อมกำลังตำรวจ ตชด.กว่า 100 นาย

18.19 น. แยกปทุมวัน เจ้าหน้าที่ 20 นาย เดินเท้าไปยังถนนพระราม 1

18.18 น. แยกปทุมวัน ประชาชนกว่า 100 คนกำลังหาทางขึ้นบีทีเอสเพราะประตูปิด มีเหตุชุลมุนเรียกให้ประตูบีทีเอสเปิด

18.22 น. แยกปทุมวัน บีทีเอสสยามเปิดประตูเพียง 1 ช่องทางเล็กหลังจากประชาชนร่วม 100 พยายามดันประตูเพื่อใช้บริการโดยสารบีทีเอส รปภ. หลังจากสอบถาม รปภ. บอกว่าไปได้ทุกที่ยกเว้นสนามกีฬาฯ

18.24 น. แยกปทุมวัน ตำรวจเดินเท้าไปทาง ถ.พระราม 1 3 กองร้อย และมีรถคุมขังคันใหญ่ที่มีตำรวจอยู่ในรถอีกเต็มคัน และมีรถคุมขังคันเล็กอีกคัน ตำรวจนอกเครื่องแบบอย่างน้อย 40 นายเดินตามหลังไป

18.27 น. แยกเฉลิมเผ่ามีการเคลื่อนกำลังพล เเละประกาศย้ำเรื่องข้อกำหนดใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขณะที่บีทีเอสสยามเคลียร์คนออกจากสถานีจนหมดแล้ว

18.32 น. แยกปทุมวัน ตำรวจนครบาลประมาณ 1 กองร้อย เข้ามาแทนที่บริเวณประตูบีทีเอส สยามที่ปิดเมื่อสักครู่ พร้อมอาวุธครบมือ มีหน้ากากกันแก๊สด้วย ด้านล่างตำรวจไม่น้อยกว่า 500 นายเคลื่อนกำลังพลมาจากแยกเฉลิมเผ่าและเคลื่อนรถกระบะติดเครื่องขยายเสียงเข้ามาที่ด้านหน้าสยามพารากอน

18.37 น. แนวกั้นตำรวจด้านหน้าสยามพารากอน มีผู้ชุมนุมเดินแยกตัวจากแยกปทุมวันมาที่แนวกั้น

18.40 น. ฝนเริ่มตกลงมาอย่างหนัก ประชาชนวิ่งกันอย่างแตกตื่นจากแยกปทุมวันมาทางแยกสามย่าน มีการพูดต่อๆ กันว่า ให้เข้าไปหลบที่จุฬาฯ สอบถามว่า วิ่งหนีอะไรมา หลายคนตอบว่า ไม่ทราบ

18.40 น. ตำรวจเริ่มฉีดน้ำจากหน้าสยามพารากอน มีประชาชนยังยืนอยู่ที่หน้าสยามดิสคัฟเวอรี่ สยามสแควร์และริมฟุตบาทด้านข้าง ตำรวจประกาศความจำเป็นในการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง แต่ประชาชนบางส่วนยังอยู่ด้านหน้ารถฉีดน้ำแรงดันสูง มีการนำรั้วมากั้นเป็นแนวด้านรถ 

18.43 น. บีทีเอสสนามกีฬาฯ ไฟทางบริเวณใต้บีทีเอสสนามกีฬาฯปิดหมด

18.44 น. ผู้ชุมนุมเริ่มหยุดวิ่งและจับมือกันเดินกลับไปที่แยกปทุมวันอีกครั้ง จากนั้นมีการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงขนาดเล็กว่า ให้ผู้ชุมนุมกลับไปที่แยกปทุมวัน ขณะที่ด้านหน้าแนวกั้นตำรวจเริ่มฉีดน้ำสีฟ้าใส่ผู้ชุมนุมและสลับกลับเป็นน้ำสีปกติ

18.44 น. แนวกั้นตำรวจด้านหน้าสยามพารากอน มีรถฉีดน้ำแรงดันสูงหนึ่งคัน ด้านหลังมีตำรวจหลายร้อยนาย บางส่วนใส่อุปกรณ์ป้องกัน ตำรวจประกาศให้ผู้ชุมนุมมากกว่า 200 คนที่มายืนด้านหน้าแนวกั้นถอยออกไปจากแนวกั้นหากไม่ถอยจะใช้น้ำฉีด


18.44


18.46 น. ผู้ชุมนุมเริ่มวิ่งย้อนกลับมาทางแยกสามย่านอีกครั้ง ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนตะโกนสุดเสียงว่า กลับมา ไม่มีอะไร ประชาชนหยุดวิ่งอีกครั้งและร่วมกันตะโกนใส่ตำรวจว่า ให้ออกไป ผู้ชุมนุมอยู่ทั้งบนถนนและบนสกายวอล์ค

18.49 น. มีประชาชนยังคงเดินอยู่บนถนนและฟุตบาทฝั่งหน้าลิโด้ มีรถสามล้อเร่งเครื่องเข้าไปที่แนวกั้นของตำรวจด้านหน้าสยามพารากอนเป็นการแสดงความไม่ยินยอมที่ตำรวจจะสลายการชุมนุม

18.50 น. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กอร.ฉ. แถลงสถานการณ์ หลัง ตร.เข้ากระชับพื้นที่แยกปทุมวันเนื่องด้วยยังมีการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามประกาศและกมที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่สถานการณ์ปกติ จึงขอให้ยุติการชุมนุมบริเวณปทุมวันและพื้นที่อื่นๆ หากมีการฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในทุกมิติ


18.52


18.53 น. ผู้สังเกตการณ์เดินไปที่ฟุตบาทด้านหน้าสยามสแควร์วัน เชิงสะพานทางขึ้นบีทีเอสสยาม ตรงข้ามสยามพารากอน บริเวณดังกล่าวมีรถฉีดน้ำแรงดันสูงสองคัน ด้านข้างรถมีตำรวจควบคุมฝูงชนตั้งแถวล้อมรถไว้ สวมหมวกกันน็อค เสื้อเกราะกันกระสุน ใส่แมสก์ทางการแพทย์ทั่วไปและถือกระบองและโล่หันมาทางฟุตบาท ด้านหลังมีตำรวจอีกชุดหนึ่งตั้งแถวลักษณะเดียวกันแต่ไม่สวมหมวกกันน็อคหรือโล่

18.54 น. ตำรวจสั่งให้ฉีดน้ำอีกครั้ง เป็นการเปิดเส้นทางและขยับเดินหน้าไปประมาณห้าเมตร ด้านหลังรถฉีดน้ำมีรถบรรทุกน้ำสีนำเงิน (ต่อไปเรียกว่า รถน้ำ) อีกสองคัน

18.56 น. ตำรวจฉีดน้ำเปิดเส้นทางขยับไปได้ถึงสยามเซ็นเตอร์แล้ว ตำรวจไม่ทราบชื่อชั้นยศ ประกาศว่า หากผู้ชุมนุมไม่ให้ความร่วมมือให้ดำเนินการควบคุมตัวได้ทันที ขอให้แยกย้ายกัน ด้านหลังมีรถผู้ต้องขังของตำรวจสองคัน มีตำรวจควบคุมฝูงชนสวมหมวกกันน็อค เสื้อเกราะกันกระสุนถือโล่วางแนวขวางฟุตบาทด้านหน้าสยามสแควร์วัน ประชาชนยังสามารถเดินสัญจรที่ริมฟุตบาทได้อยู่

18.56 น. มีเสียงตำรวจสั่งแถว ตำรวจฉีดน้ำใส่ประชาชนอีกครั้ง ประมาณ 12 วินาทีและหยุด (ไม่ทราบว่า เริ่มฉีดต่อหลังหยุดหรือไม่) จากนั้นมีการควบคุมตัวอนุรักษ์ เจนตวณิชย์ หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง มาจากด้านหน้าแนวกั้น ตำรวจควบคุมฝูงชนอีกชุดหนึ่งเดินมาสมทบด้านหลัง เวลาเดียวกันตำรวจประกาศให้ตำรวจควบคุมฝูงชนไล่คนที่อยู่บนสะพานบีทีเอสลงมาด้านล่างทั้งหมด แต่ตำรวจควบคุมฝูงชนนิ่งเฉย

18.58 น. รถฉีดน้ำแรงดันสูงเข้ามาเสริมจากทางด้านหลังอีกหนึ่งคัน ตำรวจประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า “เราขอขอวิงวอนนะครับ เราขอวิงวอน เราประชาสัมพันธ์ตั้งแต่ช่วงเย็นแล้วนะครับหลายชั่วโมงแล้วนะครับ ขอความร่วมมือด้วยนะครับ”

18.59 น. ตำรวจควบคุมฝูงชนยังไม่มีการขึ้นมาไล่ประชาชนลงจากทางขึ้นบีทีเอส ตำรวจประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงอีกครั้งว่า ขอความกรุณาให้กลับบ้าน

19.00 น. ตำรวจประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงอีกครั้งว่า ขอความกรุณาพี่น้องประชาชน รวมถึงน้องๆ ทุกท่านนะครับว่า…(หยุดพูด 10 วินาที)…ขอความกรุณาพี่น้องประชาชนนะครับ กลับบ้านเถอะครับ” ขณะที่อนุรักษ์ถูกควบคุมตัวขึ้นรถผู้ต้องขังไปแล้ว รถเคลื่อนตัวถอยหลังไปที่ประตูทางออกสยามพารากอน แยกเฉลิมเผ่า

19.01 น. ตำรวจประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงอีกครั้งว่า “กลับบ้านเถอะครับ ขอความกรุณา” ด้านหน้ารถฉีดน้ำคันริมซ้ายสุดฝั่งลิโด้เริ่มฉีดน้ำอีกครั้ง รถด้านหลังเริ่มเติมน้ำเข้ารถฉีดน้ำแรงดันสูง ตำรวจพูดอีกว่า

“สวัสดีน้องๆ ที่รักทุกคนนะครับ ที่ยืนอยู่ ณ ตรงนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศไปแล้ว นี่คือเสียงประชาสัมพันธ์จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ขั้นตอนต่างๆ ในการควบคุมเราได้ประชาสัมพันธ์และได้ใช้น้ำแรงต่ำอยู่นะ และน้ำจะแรงขึ้นเรื่อยๆ ขอบอกน้องๆ นะครับ ไม่มีประโยชน์เลย เพราะฉะนั้นขอให้เคลื่อนย้ายออกตามถนนพระรามหนึ่งและกลับบ้านกันไป…”

ตำรวจไล่สื่อมวลชนลงไปจากบันไดเลื่อนบีทีเอสสยาม ฝั่งสยามเซ็นเตอร์

19.02 น. ตำรวจควบคุมฝูงชนที่ตั้งแถวอยู่ข้างรถน้ำฝั่งหน้าลิโด้ วิ่งย้อนกลับเข้ามาที่แนวตำรวจด้านใน บางส่วนหยีตาและถอดหมวกกันน็อคออก มีเพื่อนใช้น้ำเปล่าที่พกใส่กระเป๋ากางเกงมาล้างหน้าให้ ตำรวจยังคงพูดผ่านเครื่องขยายเสียงว่า

“เรายังมีอนาคตนะครับน้องๆ ขอให้แยกย้ายกัน อนาคตเราไม่ได้อยู่แค่นี้น้องๆ อนาคตยังยาวไกล วันข้างหน้าเราอาจจะมาช่วยกันช่วยเหลือประเทศชาติก็ได้”

ขณะเดียวกันรถน้ำสองคันถอยหลังมาบริเวณหน้าสยามพารากอน ทางเข้าที่จอดรถ แนวตำรวจด้านหน้าล่าถอยลงมาพร้อมกัน

19.03 น. ตำรวจใช้เครื่องขยายเสียงประกาศว่า

“เอากำลังไปเสริมด้านหน้า พี่น้องลูกๆ หลานๆ…นำกำลังไปเสริมหน้ารถสองกองร้อยครับ คฝ.ครับ คฝ.นำกำลังไปเสริมหน้ารถสองกองร้อยครับ สับเปลี่ยน…พี่น้องลูกๆ หลานๆ นะครับ ขอให้คฝ.สองกองร้อยรับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เดินไปที่แนวหน้า”

19.06-19.07 น. ประชาชนที่อยู่หน้ารถฉีดน้ำเริ่มบางตา รถน้ำสองคันเดินหน้าเข้าไปหารถฉีดน้ำแรงดันสูงอีกครั้ง มีการเปิดท้ายรถฉีดน้ำแรงดันสูงคันที่สองที่อยู่ตรงกลางและลากสายยางเติมน้ำเข้าไปในรถฉีดน้ำคันที่สอง ด้านข้างรถน้ำมีตำรวจตั้งแถวอยู่ประมาณ 100 นาย

19.09 น. แยกเฉลิมเผ่า กั้นแนวไม่ให้คนเดินเข้าไปทางเซ็นทรัลเวิลด์ ส่วนทางถนนอังรีดูนังต์มีการกั้นแนวแต่ยังเดินเข้าออกได้

19.10 น. ตำรวจใช้เครื่องขยายเสียงประกาศอีกครั้งว่า “ครับ แจ้งกำลังสองกองร้อยนะครับ แจ้งกำลังคฝ.สองกองร้อยที่มีโล่กำบังนะครับ ให้ไปพบ…เรายืนยันนะครับเรามีมาตรการเท่าที่ทำได้ ขออนุญาตให้ทุกคนเชื่อฟังด้วย” จากนั้นตำรวจด้านล่างตะโกนให้ตำรวจควบคุมฝูงชนที่ล่าถอยออกมาเมื่อสักครู่กลับไปยืนหน้าแนว

19.11 น. เริ่มต้นฉีดน้ำอีกครั้ง ประมาณ 12 วินาที พร้อมทั้งรถฉีดน้ำที่ขยับตามขึ้นไปประมาณ 5 เมตร เว้นวรรคประมาณ 22 วินาทีจึงเริ่มฉีดน้ำอีกครั้งรอบนี้เป็นการฉีดสลับไม่ค้างจากรถคันซ้ายสุดนับจากฝั่งลิโด้และรถคันขวาสุดนับจากฝั่งสยามพารากอน

19.12 น. ตำรวจควบคุมฝูงชนเข้ามาเพิ่มที่ด้านหลังรถฉีดน้ำ รถน้ำยังคงเติมน้ำเข้ารถฉีดน้ำคันที่สอง ตำรวจควบคุมฝูงชนขึ้นไปอยู่บนบีทีเอสด้านหน้าเซนเตอร์พอยท์


19.12

19.12


19.13 น. สายยางที่ใช้เติมน้ำจากรถน้ำเข้ารถฉีดน้ำแรงดันสูงหลุดออกจากขั้วด้านข้างรถ ทำให้น้ำทะลักไปฉีดใส่ตำรวจที่อยู่ด้านข้างและประชาชนที่อยู่ริมฟุตบาท มีควันฟุ้งกระจายคล้ายแก๊ซขึ้นมาบริเวณที่น้ำทะลัก เวลาเดียวกันตำรวจใช้เครื่องขยายเสียงประกาศว่า

“น้องที่อยู่บันไดด้านซ้ายมือให้ลงมานะครับ เพื่อความปลอดภัยนะครับๆ ขออนุญาตนะครับ” ผู้ที่ยืนอยู่บอกว่า คือมันไม่ปลอดภัยอย่างไร (อยู่บนสะพานมันไม่ปลอดภัยอย่างไร) ตำรวจประกาศต่อว่า ถ้าหากท่านไม่ดำเนินการเราจะดำเนินการตามกฎหมาย

ระหว่างนั้นตำรวจที่ตั้งแถวอยู่บริเวณรถน้ำที่ทะลักด้านข้างยังตั้งยืนอยู่ มีประชาชนที่อยู่ด้านล่างฟุตบาทวิ่งขึ้นมาที่บันไดบีทีเอส สอบถามระบุว่า รู้สึกแสบหน้าและแสบหน้าอก แต่จังหวะที่น้ำกระจายนั้น เธออยู่ค่อนข้างห่างและนำแมสก์ปิดหน้าได้ทัน

19.14 น. มีรถฉีดน้ำแรงดันสูงและรถน้ำวิ่งเข้ามาที่หน้าสยามพารากอนอีกอย่างละหนึ่งคัน เวลาดังกล่าวตำรวจที่ตั้งแถวด้านหน้าเริ่มล่าถอยมาทางด้านหลัง ได้ยินเสียงตำรวจประกาศว่า “อย่าล้างหน้า…อย่าใช้น้ำล้างหน้า”

19.17-19.18 น. ตำรวจใช้เครื่องขยายเสียงประกาศว่า “ขณะนี้ผู้ชุมนุมยังไม่ปฏิบัติตาม ขอให้ตำรวจควบคุม ดำเนินการควบคุมด้วยนะครับ เรามีความจำเป็น จากนั้นตำรวจตะโกนว่า “รถพยาบาล เปิดช่องรถพยาบาลด่วน รถพยาบาล” ตำรวจประกาศอีกว่า “อย่าใช้น้ำล้างเด็ดขาด…ใช้ผ้าxxxเช็ด ยิ่งล้างหน้ายิ่งจะแสบ”


19.16

19.17

19.18

19.19


19.20-19.23 น. ชายสวมใส่เสื้อยืดสีดำสองคนใช้แกลลอนสีดำที่เขียนว่า POLICE สองแกลลอนเทลงไปในถังน้ำด้านบนรถฉีดน้ำคันที่สี่ ตำรวจประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า

“ชุดจับกุมเตรียมพร้อม ชุดจับกุมเตรียมพร้อม เราประกาศตามขั้นตอนนะครับ น้องๆ นักศึกษา นักเรียนที่รักทุกท่านนะครับ ชุดจับกุมเตรียมพร้อมนะครับ หากท่านไม่ต้องการให้ตำรวจจับกุมให้เคลื่อนย้ายออกตามแนวถนนและแยกย้ายกันกลับบ้าน นี่คือเสียงจากหน่วยประชาสัมพันธ์จากกองบัญชาตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีความหวังดี มีความประสงค์ดีที่จะบอกกับน้องๆ นักเรียน นักศึกษาและประชาชนที่รักทุกท่านนะครับ ที่มาร่วมกันชุมนุม ณ ถนนพระรามหนึ่งแห่งนี้นะครับ เนื่องจากตำรวจได้ประกาศตามขั้นตอนทุกขั้นตอนแล้วนะครับ ชุดจับกุมเตรียมพร้อมนะครับให้ไปรายงานตัวกับท่านรองสหรัถหลังรถน้ำ กำลังพลที่พักขอให้พักเป็นแถวเป็นแนว พักให้ฟื้นตัวและรอสนับสนุนกำลังต่อนะครับ”

19.23 น. ตำรวจควบคุมฝูงชนที่มีอุปกรณ์พร้อมเข้ามาเสริมกำลังเพิ่มเติม ยังคงมีประชาชนอยู่ที่ริมฟุตบาททั้งสองฝั่ง บางส่วนยืนต่อว่า ตำรวจที่มาตั้งแถวอยู่บนถนน รอบบริเวณมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบวางกำลังอยู่

19.26 น. รถฉีดน้ำคันที่สี่เคลื่อนตัวไปทางด้านหน้า แนวตำรวจมาถึงด้านหน้าสยามเซ็นเตอร์แล้ว

19.27 น. ยังคงมีประชาชนจำนวนมากอยู่ที่หน้าลิโด้ นักศึกษาพยายามวิ่งมาบอกให้ผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณแนวรถฉีดน้ำแรงดันสูงของตำรวจกลับไปรวมตัวกันที่จุฬาฯ เรายังมีแผนสอง (หมายเหตุ ตำรวจแจ้งต่อสื่อในภายหลังว่า ไม่มีการยิงแก๊สน้ำตา แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นน้ำผสมสารเคมีชนิดหนึ่ง”)

19.31 น. ที่บริเวณสะพานหัวช้าง ก่อนทางเข้าทางจอดรถสยามดิสคัฟเวอรี่มีชายหัวเกรียนสวมเสื้อเหลืองวางกำลังประมาณ 200 นาย

19.43 น. ตำรวจเริ่มฉีดน้ำอีกครั้งยังคงมีประชาชนอยู่ที่ด้านหน้าแนวกั้นของตำรวจบริเวณลิโด้และสยามดิสคัฟเวอรี่


19.43

19.51

19.56

20.00

20.00


19.56 น. ณัฐนนท์ ดวงสูงเนิน หรือเติ้ล ผู้ร่วมก่อตั้ง Spaceth.co นำโบว์ขาวไปวางให้ตำรวจ

20.00 น. ตำรวจในเครื่องแบบปกติและตำรวจควบคุมฝูงชนจับกุมณัฐนนท์

20.04 น. แยกสามย่าน แกนนำประกาศให้ทุกคนกลับบ้าน

20.07 น. มวลชนวิ่งแตกฮือมาจากแยกปทุมวัน บางคนพูดว่า ตำรวจขยับแนวกั้นเลี้ยวซ้ายมาแล้ว แต่ตำรวจยังไม่ได้ขยับแนวกั้น

20.12 น. แยกปทุมวัน ตำรวจควบคุมตัวบุคคลที่ขึ้นสกายวอล์ค 


20.29


20.37 น. โดยประมาณ ตำรวจจับกุมกิตติ พันธภาค ผู้สื่อข่าวประชาไท

20.37 น. ยังมีผู้ชุมนุมอยู่หน้าหอศิลปกรุงเทพฯ ยังไม่ยอมกลับตามประกาศ

20.40 น. ถ.พระราม 1 สถานการณ์เริ่มสงบ เจ้าหน้าที่เข้าคุมพื้นที่, ถ.พญาไท ฝั่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ชุมนุมได้ทยอยออกจากพื้นที่, ถ.พญาไท ฝั่งราชเทวี ตำรวจตรึงกำลังอยู่บนสะพานหัวช้าง ผู้ชุมนุมถอยร่นไปถึงแยกราชเทวี ต่อมาเมื่อเวลา 20.53 น. ผู้ชุมนุมได้ตกลงที่จะแยกย้ายกันกลับและบริเวณด้านหน้าหอศิลปกรุงเทพฯ ตำรวจยังคงฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่โห่ร้องและตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะเริ่มแยกย้ายเมื่อเวลา 20.50 น

21.10 น. แยกปทุมวัน เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำสลายมวลชนที่รวมตัวกันบริเวณฝั่งมาบุญครองอีกครั้ง แม้ว่าจะเข้ายึดพื้นที่แยกปทุมวัน ทำให้มวลชนต้องวิ่งหลบออกมาล้างหน้าล้างตา

21.11 น. ถนนพญาไท มุ่งไปราชเทวี เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแนวบนสะพานหัวช้าง ไม่ให้รถและประชาชนผ่าน ยกเว้นประชาชนที่พำนักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ส่วนผู้ชุมนุมแยกย้ายออกจากพื้นที่เกือบหมดแล้ว

21.15 น. แยกปทุมวัน ส.ส.พรรคก้าวไกลกลุ่มหนึ่งประกอบด้วย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร และชัยธวัช ตุลาธน เดินทางมาที่แยกปทุมวันเพื่อขอเจรจากับนายตำรวจผู้บัญชาการปฏิบัติการสลายการชุมนุม ขอให้เปิดทางให้ผู้ชุมนุม จำนวนหนึ่งที่ติดค้าง ออกจากพื้นที่

ต่อมาพิธาเปิดเผยหลังเจรจากับ พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ว่า ตำรวจระบุว่ามีผู้ชุมนุมถูกจับกุมไปแล้วกว่า 100 คน และเมื่อปฏิบัติการกระชับพื้นที่แล้ว ตำรวจก็จำเป็นต้องจับกุมผู้ชุมนุม

21.17 น. ถนนพญาไท มุ่งไปพระราม 4 หน้าสามย่านมิตรทาวน์ ผู้ชุมนุมประกาศให้ทุกคนแยกย้ายกลับบ้าน

22.00 น. ถนนพญาไท มุ่งไปราชเทวี สถานการณ์ที่บริเวณสะพานหัวช้างกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมกลับมารวมตัวกัน พร้อมนำแบร์ริเออร์มาตั้งขวางถนนและตะโกนเรียกร้องให้ปล่อยผู้ชุมนุมที่ถูกจับไป เจ้าหน้าที่จึงนำรถควบคุมฝูงชนมาเพิ่มจาก 1 คัน เป็น 3 คัน

22.30-23.00 น. ถนนพญาไท มุ่งไปราชเทวี บริเวณสี่แยกราชเทวี ตำรวจเคลียร์พื้นที่จุดสุดท้าย บริเวณสะพานหัวช้าง ได้สำเร็จโดยมีการฉีดน้ำสามครั้ง ซึ่งน้ำมีการผสมสารสีฟ้า เข้าใส่ผู้ชุมนุม ต่อมาแนวตำรวจเข้าควมคุมพื้นที่จนถึงแยกราชเทวี”

22.33 น. ถนนพญาไท มุ่งไปราชเทวี แนวตำรวจพร้อมโล่ ตะบองเริ่มดันกำลังอย่างรวดเร็ว ผู้ชุมนุมถอยร่นไปที่แยกราชเทวี

22.33 น. ถนนพญาไท มุ่งไปราชเทวี รถฉีดน้ำฉีดน้ำเข้าบริเวณผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณสะพานหัวช้าง

22.35 น. ถนนพญาไท มุ่งไปราชเทวี เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศผ่านเครื่องกระจายเสียงว่าให้ชุดจับกุมเข้าจับกุม แนวเจ้าหน้าที่ตำรวจดันกำลังมุ่งไปที่แยกราชเทวีด้วยความรวดเร็ว และมีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมวิ่งตามผู้ชุมนุมเข้าไปที่ซอยพญานาค

22.38 น. ถนนพญาไท มุ่งไปราชเทวี “เจ้าหน้าที่ถึงบริเวณแยกราชเทวี และปิดการจราจรแยกราชเทวีที่มุ่งไปถนนเส้นพญาไท เจ้าหน้าที่ควมคุมฝูงชนตั้งแนวมุ่งหน้าไปแยกพญาไท” การุณ โหสกุล และ สุรชาติ เทียนทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทยมาช่วยเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ไม่สำเร็จ

22.45 น. ถนนพญาไท มุ่งไปราชเทวี แนวเจ้าหน้าที่ค่อยๆ กลับไปแนวถนนราชเทวี  

22.50 น. ถนนพญาไท มุ่งไปราชเทวี ไม่มีผู้ชุมนุมอยู่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ถอยกำลังไปที่บีทีเอสราชเทวี เจ้าหน้าที่เริ่มเปิดพื้นที่การจราจร