- เว็บไซต์ไอลอว์
- ศูนย์ข้อมูลฯ
มิถุนายน 2558 1 ปี 1 เดือน รัฐประหาร: กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ "อารยะขัดขืน" เข้าคุก 14 คน ขณะที่ทหารเข้มขึ้นหลายพื้นที่
ช่วงเวลา | ยอดรวมตั้งแต่รัฐประหาร - 30 มิถุนายน 2558 | ยอดรวมเฉพาะเดือนมิถุนายน 2558 |
---|---|---|
คนถูกเรียกรายงานตัว |
772 | 33 |
คนถูกจับกุมคุมขัง | 475 | 21 |
คนถูกจับกุมคุมขังจากการชุมนุมโดยสงบ | 209 | 14 |
คนถูกดำเนินคดีที่ศาลทหาร | 143 | 18 |
คนถูกดำเนินคดีที่ศาลพลเรือน | 46 | - |
คนถูกดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ (ม.112) | 51 | 2 |
ความเคลื่อนไหวคดีชุมนุมภายใต้การทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
4 มิถุนายน อัยการศาลทหารกรุงเทพสั่งฟ้องคดีเลือกตั้งที่ (รัก) ลัก ซึ่งมีจำเลยคือ อานนท์ พันธ์ศักดิ์ สิรวิชญ์ และวรรณเกียรติ ในความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศ คสช. ฉบับที่ 7/2557 แต่ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวทั้ง 4 คน โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 10,000 บาท
19 มิถุนายน อัยการศาลทหารกรุงเทพสั่งฟ้องคดีพลเมืองรุกเดิน ซึ่งมีจำเลยคือ พันธ์ศักดิ์ ในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 7/2557 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 หรือความผิดฐานปลุกปั่นยั่วยุ และมาตรา 14 ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 70,000 บาท
เมื่อทางการตามจับกลุ่มนักศึกษา-นักกิจกรรม หลังการชุมนุมครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร
8 มิถุนายน พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน นัดกลุ่มนักศึกษาที่ชุมนุมหน้าหอศิลป์ฯ กรุงเทพ 9 ราย ที่ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 เข้ารายงานตัว เช่นเดียวกับที่ขอนแก่น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น นัด 7 นักศึกษากลุ่มดาวดินที่ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 เข้ารายงานตัว
นักศึกษาทั้ง 2 ไม่ไปรายงานตัว เนื่องจากเห็นว่าการถูกจับกุมและดำเนินคดีดังกล่าวเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขณะที่กลุ่มดาวดินจัดกิจกรรมรวมตัวที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่นอีกครั้ง ร่วมกับกลุ่มชาวบ้านในภาคอีสานหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายพัฒนาภายใต้รัฐบาลชุดนี้ และประกาศเคลื่อนไหวในนาม “กลุ่มประชาธิปไตยใหม่”
19 มิถุนายน เป็นวันสุดท้ายของการผ่อนผันให้นักศึกษาทั้งที่กรุงเทพและขอนแก่นเข้ารายงานตัวที่สถานีตำรวจตามท้องที่ที่เกิดเหตุ ซึ่งหากไม่มารายงานตัว ทางตำรวจมีอำนาจขอศาลออกหมายจับได้ทันที อย่างไรก็ดี นักศึกษาทั้ง 2 กลุ่มยืนยันไม่เข้ารายงานตัวกับทางตำรวจ
22 มิถุนายน ธัชพงศ์ หรือชาติชาย หนึ่งในกลุ่มนักศึกษาที่ถูกควบคุมตัวหน้าหอศิลป์ฯ กรุงเทพ เข้ารายงานตัวที่สน.ปทุมวัน จากนั้นพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่งตัวฝากขังต่อศาลทหารในเวลา 13.30น. ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในวงเงินประกัน 10,000 บาท โดยมีเงื่อนไขห้ามชุมนุมทางการเมืองและห้ามแสดงความคิดเห็นทางการเมือง
ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ควบคุมตัวนัชชชา ขณะพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวิภาวดีมาที่ศาลทหารกรุงเทพ ในเวลาประมาณ 13.00 น. เพื่อขอฝากขัง ทั้งนี้ นัชชชาได้ยื่นเรื่องคัดค้าน โดยให้เหตุผลว่าตนกำลังไม่สบาย อยู่ระหว่างการศึกษา และเป็น transgender แต่ศาลให้เหตุผลว่า จำเลยเลยมีท่าทีปลุกปั่นยุยงให้เกิดความไม่สงบ และมีมวลชน จึงอนุญาตให้ฝากขัง อย่างไรก็ดี ศาลอนุญาตให้ประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 10,000 บาท นัชชชาถูกส่งไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพ (เรือนจำชาย) และถูกปล่อยตัวในช่วงค่ำ
การจับกุมตามอำเภอใจ การใช้ศาลทหารยามวิกาล และการดำเนินคดีนักศึกษาข้อหาชุมนุมและปลุกปั่นยั่วยุ
26 มิถุนายน เวลาประมาณ 17.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร กว่า 50 คน ทั้งในและนอกเครื่องแบบ เดินทางไปยังสวนเงินมีมา พร้อมหมายจับศาลทหารกรุงเทพ ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2558 เพื่อเข้าจับกุมกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ทั้ง 14 ราย ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 หรือความผิดฐานปลุกปั่นยั่วยุ โดยทั้งหมดยอมให้ถูกจับโดยไม่มีการต่อสู้ขัดขืนและถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พระราชวัง
เวลา 21.35 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพานักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ทั้ง 14 คน ไปศาลทหารเตรียมฝากขัง โดยศาลทหารเริ่มไต่สวนการฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 14 คน ในเวลา 22.52 น. ทั้งหมดยื่นคัดค้านการฝากขัง อ้างเหตุไม่มีเหตุจำเป็นต้องฝากขังเพราะไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนี ยืนยันว่ากฎหมายที่ใช้ตั้งข้อหานั้นไม่ชอบธรรม การจับกุมครั้งนี้ไม่มีการแจ้งสิทธิและทำไม่ถูกต้องตามขั้นตอน และศาลทหารไม่มีอำนาจพิจารณาคดีพลเรือน โดยศาลห้ามไม่ให้ผู้อื่นนอกจากทนายความเข้าภายในห้องพิจารณา
ศาลทหารเชียงใหม่ยกฟ้องคดีปลุกปั่นยั่วยุกรณีการนำเสนอภาพข่าวการประท้วงต้านรัฐประหาร
9 มิถุนายน ศาลทหารเชียงใหม่พิพากษายกฟ้องคดีของชัชวาลย์ ในข้อหา ปลุกปั่นยั่วยุ ตามกฎหมายอาญา จากการนำเสนอภาพข่าวการประท้วงต้านรัฐประหารที่จังหวัดลำพูนโดยลงวันที่ผิดวัน ศาลให้เหตุผลว่า การกระทำของจำเลยเป็นเพียงการนำเสนอข่าวเหตุการณ์ประจำวัน และโจทก์ไม่อาจนำสืบจนสิ้นสงสัยได้ว่า จำเลยมีเจตนาสร้างความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน
ความเคลื่อนไหวคดี 112: มีคดีใหม่เพิ่ม 4 คดี ศาลพิพากษาแล้ว 1 คดี
23 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท) เจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยความมั่นคง ร่วมกันจับกุม ชญาภา ผู้ต้องหากรณีโพสต์ข่าวลือเรื่องปฏิวัติซ้อนบนเฟซบุ๊ก ที่บ้านพักของเจ้าตัวใน จ.สมุทรปราการ
ขณะเดียวกัน ทางตำรวจยังคงตามจับกุมและแจ้งข้อหา 112 กับผู้ที่มีพฤติกรรมแอบอ้างเบื้องสูง โดยในเดือนมิถุนายน มีอย่างน้อย 1 คดี คือกรณีของ มนตรี โสตางกูล อดีตข้าราชการกรมวังผู้ใหญ่ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ทำให้ขณะนี้มีผู้ถูกดำเนินคดี 112 จากการแอบอ้างเบื้องสูงแล้วอย่างน้อย 31 ราย
พิพากษาจำคุกผู้ป่วยโรคจิตหวาดระแวง 3 ปี 4 เดือน
นัดสอบคำให้การ 3 นัด ยังไม่มีรายใดรับสารภาพ
8 มิถุนายน คดีของชาญวิทย์ ศาลจังหวัดนนทบุรีนัดสอบคำให้การ เจ้าตัวให้การปฏิเสธ นัดสืบพยานโจทก์ 15 กันยายน 2558
9 มิถุนายน คดีของ "สิริรัตน์" ศาลทหารจังหวัดเชียงใหม่นัดสอบให้การ เจ้าตัวให้การปฏิเสธ ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 8 กรกฎาคม 2558
26 มิถุนายน คดีของพงษ์ศักดิ์ จำเลยขอเลื่อนให้การเนื่องจากต้องการปรึกษาคดีกับทนายก่อน ศาลจึงเลื่อนสอบคำให้การไปเป็นวันที่ 7 สิงหาคม 2558
FCCT อ่วม ถูกทหาร “ขอความร่วมมือ” งดจัดเสวนาเดือนเดียว 3 ครั้ง – ทหารจังหวัดเลยสั่งห้ามจัดค่ายเยาวชน เกรงเกี่ยวข้องดาวดิน
17 มิถุนายน งานเสวนาหัวข้อ "Article 112: Its role in Thai society" ซึ่งจัดโดย FCCT มีวิทยากรคือ สุลักษณ์ ศิวลักษณ์, เดวิด สเตรกฟัสส์, สาธิต เซกัล และ สุกัญญา พฤกษาเกษมสุข ก่อนหน้าวันงานเพียง 2 วัน FCCT ออกแถลงการณ์ระบุว่า มีคำสั่งจาก คสช.ผ่านมาทางตำรวจว่า ขอให้ยกเลิกงานเสวนาดังกล่าว หากไม่ยกเลิกจะนำกำลังมาปิดล้อมอาคารที่ตั้งของ FCCT โดยมีเพียงการบอกเป็นคำพูด เพราะทางคสช.ไม่ยอมออกหนังสือที่เป็นลายลักษณ์อักษรให้
เจ้าหน้าที่ยังคงเรียกรายงานตัวอย่างต่อเนื่อง
การเรียกตัวบุคคลไปปรับทัศนคติ ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มคนที่ทำงานเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม เช่น กรณีตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ดงมูล กรณี ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ หนึ่งในเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) และกรณี สกน.ภาคเหนือ รวมทั้งตัวแทนกลุ่มการเมือง เช่น จาตุรนต์ ฉายแสง จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถาวร เสนเนียม วัฒนา เมืองสุข ซึ่ง คสช. เข้าพูดคุยที่สโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต
นอกจากการเรียกรายงานตัวแล้ว เจ้าหน้าที่ทหารยังเปลี่ยนวิธีการหาข้อมูล โดยการเดินทางไปหาเป้าหมายที่บ้านพักแบบทั้งโดยนัดหมายและไม่ได้นัดหมาย โดยมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารหลายพื้นที่ได้เข้าพูดคุยกับครอบครัวของนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน คสช. ทั้ง 16 คนที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา และอีกจำนวนมากที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ซึ่งลักษณะการพูดมีทั้งการเกลี้ยกล่อมผู้ปกครองให้พาลูกมารายงานตัวกับทางตำรวจ ไปจนถึงการขมขู่ โดยเฉพาะด้านการศึกษา
ทั้งนี้ เดือนมิถุนายน 2558 มีการเรียกบุคคลให้ไปรายงานตัวอย่างน้อย 33 คน รวมตั้งแต่หลังการรัฐประหารจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน2558 มีบุคคลถูกเรียกให้ไปรายงานตัวอย่างน้อย 772 คน