- เว็บไซต์ไอลอว์
- ศูนย์ข้อมูลฯ
ฐานข้อมูลคดี
ชื่อคดี
ผู้ต้องหา
เชคสเปียร์ต้องตาย (Shakespeare Must Die)
สถานะคดี
คำอธิบายสถานะคดี ภาษาไทย
อื่นๆ
สถานะผู้ต้องหา
ไม่มีข้อมูล
ข้อหา / คำสั่ง
มาตรา 26 พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวิดีทัศน์
เนื้อหาคดีโดยย่อ
เชคสเปียร์ต้องตาย (Shakespeare Must Die) ภาพยนตร์จากบทประพันธ์ของ วิลเลียม เชคสเปียร์ เรื่อง The Tragedy of Macbeth ถูกสั่งแบนจากกระทรวงวัฒนธรรม เพราะมีเนื้อหาที่อาจก่อให้เกิดการแตกความสามัคคีระหว่างคนในชาติ ผู้สร้างจึงยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองขอให้เพิกถอนคำสั่งห้ามฉาย
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ภาพยนตร์เรื่อง เชคสเปียร์ต้องตาย หรือ Shakespeare Must Die เป็นภาพยนตร์ขนาดยาวซึ่งอ้างอิงเนื้อหาจากบทประพันธ์ของวิลเลียม เชคสเปียร์เรื่อง โศกนาฏกรรมของแม็คเบ็ธ (The Tragedy of Macbeth)
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น เรื่องราวตำนานการเมืองและไสยศาสตร์ที่แปลเป็นไทยตามต้นฉบับละคร โดยโศกนาฏกรรมแม็คเบ็ธถูกดัดแปลงเพื่อให้เป็นภาษาของภาพยนตร์และเข้ากับบริบทของวัฒนธรรมไทย เรื่องราวดำเนินไปพร้อมกันในสองโลก คือ โลกของโรงละคร-โลกของขุนพลกระหายเลือด มักใหญ่ใฝ่สูง งมงายในไสยศาสตร์ ผู้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นราชาโดยฆาตกรรม และ โลกภายนอก ในชีวิตร่วมสมัยของนักปกครองเผด็จการของประเทศสมมติแห่งหนึ่ง ผู้ที่งมงายในไสยศาสตร์ โหดเหี้ยม และบ้าอำนาจ ซึ่งมีชื่อเรียกเพียงว่า ‘ท่านผู้นำ’ และภริยาไฮโซน่าสะพรึงกลัว เหตุการณ์ต่างๆ ในสองโลกแฝดนี้ส่องสะท้อนกันและกัน ค่อยๆ เริ่มซึมเข้าหากัน กระทั่งประสานงากันอย่างรุนแรงและโหดร้าย เมื่อคณะละครต้องชดใช้ด้วยชีวิต โทษฐานบังอาจแสดงละครเรื่องนี้ในสังคมที่ปกครองโดยมนุษย์เช่นท่านผู้นำ โดยพวกเขาคิดที่จะต่อสู้กับความกลัวด้วยศิลปะ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนไทยเข้มแข็ง ผ่านสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม และเป็นเรื่องสุดท้ายที่ได้รับทุนนี้ ด้วยเหตุที่ว่า มีคณะกรรมการพิจารณาให้ทุนบางท่านมีความกังวลต่อฉากที่ ‘เมฆเด็ด’ (แม็คเบ็ธ พระเอก / ผู้ร้าย) ลอบปลงพระชนม์พระราชาดังแคน ทีมงานผู้สร้างจึงต้องถ่ายทำฉากนี้มาให้คณะกรรมการพิจารณาว่า ไม่มีเนื้อหาและภาพที่มีลักษณะสุ่มเสี่ยงและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามกฎหมายอาญามาตรา 112
มานิต ศรีวานิชภูมิ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์และเป็นผู้ยื่นขอเรทติ้ง เป็นศิลปินอิสระ ผลงานที่เป็นที่รู้จักคือชุดภาพถ่าย Pink Man ที่มีภาพชายร่างท้วม สวมสูทสีชมพู และรถเข็นซูเปอร์มาร์เกต
สมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ หรือ อิ๋ง เค (Ing K) เป็นนักเขียน นักเขียนบทภาพยนตร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ ภาพยนตร์สารคดี
คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กระทรวงวัฒนธรรม
ข้อกล่าวหา
อื่นๆ (ก่อให้เกิดการแตกความสามัคคีระหว่างคนในชาติ)
-
รูปแบบการจำกัดเสรีภาพ
บล็อค / แบน
-
ประเภทสื่อ
ภาพยนตร์
-
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
-
หมายเลขคดีดำ
เลขคดีดำคือเลขที่ศาลออกเมื่อประทับรับฟ้องคดี
No: 1321/2555 วันที่: 2012-08-09
ภาพยนตร์เรื่อง เชคสเปียร์ต้องตาย หรือ Shakespeare Must Die เป็นภาพยนตร์ขนาดยาวซึ่งอ้างอิงเนื้อหาจากบทประพันธ์ของวิลเลียม เชคสเปียร์เรื่อง The Tragedy of Macbeth ถูกกระทรวงวัฒนธรรมสั่งห้ามฉาย เพราะมีเนื้อหาที่อาจก่อให้เกิดการแตกความสามัคคีระหว่างคนในชาติ
30 พฤษภาคม 2555
นาย มานิต ศรีวานิชภูมิ และนางสาวสมานรัชฎ์ กาญจนะวาณิชย์ ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้ดำเนินการพิจารณาตรวจสิบและให้ความเป็นธรรมในกรณี
1. เนื้อหาฉากใดที่เป็นเหตุให้คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะที่ 3 เห็นว่ามีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดการแตกความสามัคคีระหว่างคนในชาติ แล้วมีมติไม่อนุญาตให้ภาพยนตร์เรื่อง “เชคสเปียร์ต้องตาย” เผยแพร่ในราชอาณาจักร
2. การที่คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติมีมติห้ามภาพยนตร์ออก ฉายในราชอาณาจักร เป็นการกระทำที่จำกัดสิทธิเสรีภาพหรือไม่ อย่างไร
22 พฤศจิกายน 2555
ธัญญ์วาริน สุขะพิศิษฐ์ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Insects in the Backyard ร่วมกับนายมานิต ศรีวานิชภูมิ ผู้อำนวยการสร้าง และสมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง‘เชคสเปียร์ต้องตาย’ เข้า แจ้งความต่อ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เหตุถูกเว็บไซต์เถื่อนขโมยหนังของตนไปจำหน่ายและเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต ทาง
หลัง จากนั้น ทีมผู้สร้าง-ผู้กำกับและทีมทนายความจากหนังทั้งสองเรื่อง เดินทางต่อไปยัง “ศาลปกครอง” เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลเร่งรัดการพิจารณาคดีของหนังทั้งสองเรื่องโดยเร็ว เพื่อป้องกันความเสียหายและผลกระทบอันจะเกิดขึ้นในระหว่างการพิจารณาคดี จากการที่มีผู้นำหนังทั้งสองเรื่องไปเผยแพร่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่งผลให้ผู้ผลิตหนังได้รับความเสียหาย สูญเสียรายได้ที่อาจจะได้รับจากการจัดฉายหลังศาลมีคำพิพากษา
23 พฤศจิกายน 2555
หลังยื่นหนังสือเร่งรัดคดีหนึ่งวัน ศาลปกครองมีคำสั่งรับคำฟ้องคดีนี้
29 เมษายน 2556
หลัง จากที่คณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองได้พิจารณาตรวจสอบ ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน จึงมีมติให้เสนอมาตรการและข้อเสนอแนะต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังนี้
1. ให้คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ทบทวนคำสั่งห้ามฉายภาพยยนตร์ โดยกำหนดอายุผู้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ จัดอยู่ในประเภทภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้ที่มีอายุสิบแปดปีขึ้นไป
2. จัดทำข้อเสนอแนะให้คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายพิจารณาแก้ไขปรับปรุงพระราช บัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการ แสดงออกตามรัฐธรรมนูญ
15 พฤษภาคม 2556
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติลงมติ เห็นชอบตามตวามเห็นของคณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ว่า การที่คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ออกคำสั่งให้ตัดฉากที่นำไปสู่การห้ามฉาย คือ ภาพเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ทุกคนทราบกันดี เพียงฉากเดียวไม่มีนัยยะสำคัญแต่อย่างใด ดังนั้นการสั่งห้ามฉายโดยไม่สามารถแสดงเหตุผลได้ว่าภาพใดหรือฉากใดที่จำเป็นต้องจำกัดเสรีภาพการแสดงออกเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้อื่น
หรือความมั่นคงของรัฐ เป็นการกระทำที่ละเมิดเสรีภาพการแสดงออกและเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของผู้สร้างภาพยนตร์
ขณะเดียวกันยังมีปัญหาการบังคับใช้พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 ซึ่งหน่วยงานที่มีหน้าที่ใช้ดุลพินิจอย่างเต็มที่จนขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในการปกป้องเสรีภาพของประชาชน
แต่เนื่องจากนายมานิต ศรีวานิชภูมิ และนางสาวสมานรัชฎ์ กาญจนะวาณิชย์ ผู้ร้อง ได้ฟ้องคดีคณะกรรมการภาพยร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ และ คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะที่สาม ต่อศาลปกครองแล้ว คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงไม่อาจใช้อำนาจตรวจสอบและเสนอมาตรการแก้ไขต่อไปได้ ตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 22 ประกอบ เห็นควรยุติเรื่อง
-
อิ๋ง กาญจนะวณิชย์, wikipedia,
(อ้างอิงเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2555) -
มานิต ศรีวานิชภูมิ, wikipedia,
(อ้างอิงเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2555) - เชคสเปียร์ต้องไม่ตาย! เดินหน้ายื่นหนังสือนายกฯ-ยื่นอุทธรณ์คำสั่ง, ilaw, 17 เมษายน 2555 (อ้างอิงเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2555)
- ผู้สร้าง “เชคสเปียร์ต้องตาย” ฟ้องศาลปกครองถอนคำสั่งห้ามฉาย เรียกค่าเสียหาย 7.5 ล้าน, ผู้จัดการออนไลน์, 9 สิงหาคม 2555 (อ้างอิง 17 สิงหาคม 2555)