- คดีหมิ่นประมาท, ฐานข้อมูลคดี
สนธิ ลิ้มทองกุล (ปฏิญญาฟินแลนด์)
อัปเดตล่าสุด: 02/12/2559
ผู้ต้องหา
นายสนธิ ลิ้มทองกุล
สถานะคดี
ตัดสินแล้ว / คดีถึงที่สุด
คดีเริ่มในปี
2549
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคไทยรักไทย มอบอำนาจให้ นายนพดล มีวรรณะ เป็นผู้ยื่นฟ้องว่าจำเลยสร้างความเสียหาย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
สารบัญ
นายสนธิจัดเสวนาวิชาการที่ม.ธรรมศาสตร์ พร้อมถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ วิทยุ และเว็บไซต์ กล่าวหาอดีตนายกฯ ทักษิณว่าวางแผนยุทธศาสตร์ 5 ขั้นตอนเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง ต่อมาถูกอดีตนายกฯ ทักษิณฟ้องฐานหมิ่นประมาท
ภูมิหลังผู้ต้องหา
จำเลยที่ 1-11 ได้แก่
1. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
2. นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีต ส.ว.กทม.
3. นายชัยอนันต์ สมุทวณิช นักวิชาการอิสระ
4. นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระ และคอลัมนิสต์
5. บริษัทไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด ผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบดาวเทียม ASTV
6. นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล กรรมการ บริษัทไทยเดย์ด็อทคอม จำกัด
7. นายพชร สมุทวณิช กรรมการ บริษัทไทยเดย์ด็อทคอม จำกัด
8. นายขุนทอง ลอเสรีวานิช กรรมการ บริษัทไทยเดย์ด็อทคอม จำกัด
9. บริษัท แมเนจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด ( มหาชน) ดำเนินธุรกิจด้านสื่อสิ่งพิมพ์
10. นางสาวเสาวลักษณ์ ธีรานุจรรงค์ ผู้บริหารแผนฟื้นฟู บมจ.แมเนเจอร์ (ศาลยกฟ้องในชั้นไต่สวน)
11. นายปัญจภัทร อังคสุวรรณ ผู้ดูแลเว็บไซด์ แมเนเจอร์
ข้อหา / คำสั่ง
มาตรา 326 / 328 ประมวลกฎหมายอาญา
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
เมื่อวันที่ 24 – 28 พฤษภาคม 2549 นายสนธิ ได้ร่วมกับพวกจัดเสวนาวิชาการ ณ หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ เรื่อง “ปฏิญญาฟินแลนด์ยุทธศาสตร์การเมืองไทยรักไทย” โดยนายเจิมศักดิ์ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ดำเนินรายการ ส่วนนายสนธิ นายชัยอนันต์ และ นายปราโมทย์ จำเลยที่ 1, 3 และ 4 เป็นผู้ร่วมเสวนา และเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมชมและฟัง มีการถ่ายทอดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ASTV ช่อง NEWS 1 และสถานีวิทยุ FM 97.75 Mhz และผ่านเว็บไซด์ www.manager.co.th ให้ประชาชนทั่วไปรับชมและรับฟังได้ โดยมีเนื้อหากล่าวว่าโจทก์ทั้งสอง คือ พรรคไทยรักไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น วางแผนยุทธศาสตร์ 5 ขั้นตอนในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง คือ การเป็นพรรคการเมืองใหญ่พรรคเดียวจัดตั้งรัฐบาลและมีผู้นำคนเดียว การเปลี่ยนแปลงระบบราชการเป็นแบบซีอีโอ การแทรกแซงการโยกย้ายข้าราชการ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การแปลงทุนให้เป็นสินทรัพย์ และการทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเพียงสัญลักษณ์ ซึ่งขณะที่มีการเสวนา จำเลยที่ 1 ก็เป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เคลื่อนไหวการขับไล่ทางการเมือง โดยการเสวนาของพวกจำเลยมีวัตถุประสงค์ต้องการให้เกิดการแบ่งฝ่ายในสังคม ที่กล่าวหาว่าโจทก์ทั้งสอง คือกลุ่มที่คัดค้านการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
พฤติการณ์การจับกุม
ไม่มีข้อมูล
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
ไม่มีข้อมูล
หมายเลขคดีดำ
อ.1818/2549
ศาล
ไม่มีข้อมูล
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข้อมูล
แหล่งอ้างอิง
ระบบงานสารสนเทศสำนวนคดี, เว็บไซต์ศาลอาญา, 2 มิถุนายน 2549 (เข้าถึงเมื่อ 2 มิถุนายน 2556)
อุทธรณ์ยืนยกฟ้อง “สนธิ ลิ้มทองกุล” หมิ่น “ทักษิณ-ไทยรักไทย” แฉปฎิญญาฟินแลนด์, เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์, 12 มีนาคม 2556 (เข้าถึงเมื่อ 2 มิถุนายน 2556)
ศาลอุทธรณ์ยืนยกฟ้อง สนธิ ลิ้ม ไม่ผิดหมิ่น “ทักษิณ-ไทยรักไทย” ปฏิญญาฟินแลนด์, เว็บไซต์ข่าวสด, 12 มีนาคม 2556 (เข้าถึงเมื่อ 22 พฤษภาคม 2556)
ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีปฏิญญาฟินแลนด์, เว็บไซต์ MCOT, 12 ธันวาคม 2555 (เข้าถึงเมื่อ 4 มิถุนายน 2556)
คดี "ปฏิญญาฟินแลนด์" ยังไม่จบ ศาลอุทธรณ์สั่งเลื่อนไป 19 ก.พ., เว็บไซต์มติชน, 12 ธันวาคม 2555 (เข้าถึงเมื่อ 4 มิถุนายน 2556)
เลื่อนอ่านอุทธรณ์ 'ทักษิณ' ฟ้องหมิ่น'สนธิงแฉปฏิญญาฟินแลนด์เป็น 19 ก.พ.ปีหน้า, เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ, 12 ธันวาคม 2555 (เข้าถึงเมื่อ 4 มิถุนายน 2556)
ศาลเลื่อนอ่านอุทธรณ์ "คดีปฏิญญาฟินแลนด์", เว็บไซต์เดลินิวส์, 19 กุมภาพันธ์ 2556 (เข้าถึงเมื่อ 4 มิถุนายน 2556)
เลื่อนอ่านอุทธรณ์ไทยรักไทยฟ้อง “สนธิ” กับพวกหมิ่นปฏิญญาฟินแลนด์, เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์, 19 กุมภาพันธ์ 2556 (เข้าถึงเมื่อ 4 มิถุนายน 2556)
24 – 28 พฤษภาคม 2549
นายสนธิ ได้ร่วมกับพวกจัดเสวนาวิชาการ เรื่อง "ปฏิญญาฟินแลนด์ ยุทธศาสตร์การเมืองไทยรักไทย"
2 มิถุนายน 2549
โจทก์ยื่นฟ้อง
31 ธันวาคม 2549
ไต่สวนมูลฟ้อง
20 กันยายน 2550
ศาลนัดฟังคำสั่ง
17 ธันวาคม 2550
ศาลนัดประชุมคดีตรวจพยานหลักฐาน
28 พฤษภาคม 2551
ศาลนัดสืบพยานโจทก์ทั้งหมด 4 วัน ได้แก่ 28 พฤษภาคม 2551, 31 กรกฎาคม 2551, 1 สิงหาคม 2551, 19 สิงหาคม 2551
20 สิงหาคม 2551
ศาลนัดสืบพยานจำเลยทั้งหมด 11 วัน ได้แก่ 20-22 สิงหาคม 2551, 26-28 สิงหาคม 2551, 9 ตุลาคม 2551, 13-14 พฤศจิกายน 2551, 26 พฤศจิกายน 2551, 3 ธันวาคม 2551
25 มีนาคม 2552
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากการจัดเสวนา ไม่ได้ยืนยันว่าข้อตกลงปฏิญญาฟินแลนด์ดังกล่าวมีจริงหรือไม่ เพียงแต่กล่าวถึงการบริหารราชการแผ่นดินของโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการบริหารเท่านั้น จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
16 มิถุนายน 2552
โจทก์ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาให้ลงโทษจำเลย
1 กันยายน 2552
จำเลยยื่นคำแก้อุทธรณ์
25 กันยายน 2552
นายนคร ชมพูชาติ ทนายจำเลยยื่นคำแก้อุทธรณ์
12 ธันวาคม 2555
ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษา ทนายความจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาล ว่าจำเลยที่ 4 นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระ เดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อทำธุระส่วนตัว จึงไม่สามารถส่งหมายให้จำเลยได้ และเชื่อว่าจำเลยไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ประกอบกับ นายสนธิ จำเลยที่ 1 แถลงว่าสามารถติดต่อจำเลยที่ 4 ได้ ทราบว่ามีกำหนดจะเดินทางกลับมาประเทศไทยในวันที่ 16 ธ.ค. 2555 ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า สมควรให้เลื่อนออกไปเป็นวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556
19 กุมภาพันธ์ 2556
ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษา แต่นายปราโมทย์ นาครทรรพ จำเลยที่ 4 ไม่ได้เดินทางมาศาล ศาลเห็นว่า คดีนี้เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มาหลายครั้งเเล้ว ถ้าจำเลยที่เหลืออีก10 คนคัดค้านศาลก็จะอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยที่ 4 ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็ให้ออกหมายจับจำเลยที่ 4 มาฟังคำพิพากษาที่หลัง เเต่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง10 คนไม่คัดค้าน อีกทั้งทนายความจำเลยที่ 4 ได้แถลงต่อศาลว่า จำเลยที่ 4 มีอาการป่วย และพักรักษาตัวอยู่ต่างประเทศ และเตรียมจองตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ แต่แพทย์ตรวจอาการแล้วไม่อนุญาตให้เดินทางกลับ เพราะหากเดินทางในตอนนี้อาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ศาลจึงเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ออกไปเป็นวันที่ 12 มี.ค. 2556
12 มีนาคม 2556
ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ว่าการเสวนาของจำเลยที่1 – 4 ไม่ได้ให้ความสำคัญหรือยืนยันว่าข้อตกลงปฏิญญาฟินแลนด์มีจริงหรือไม่ แต่มุ่งวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินของโจทก์ทั้งสองในฐานะนายกรัฐมนตรีและพรรคการเมืองที่มีอำนาจในการบริหารประเทศ ซึ่งจะมีผลกระทบกับประชาชนและประเทศชาติ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โจทก์ที่สอง ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถือเป็นบุคคลสาธารณะที่ประชาชนทั่วไปจะแสดงความคิดเห็น หรือ ติชมโดยสุจริตได้ ขณะเดียวกันโจทก์ก็ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าข้อตกลงปฏิญญาฟินแลนด์นั้นไม่มีอยู่จริง ส่วนการเผยแพร่บทความเกี่ยวกับปฏิญญาฟินแลนด์ก่อนหน้านั้น ก็เป็นเพียงการนำเสนอเพื่อให้การเสวนาน่าสนใจเท่านั้น ไม่อาจฟังได้ว่าเป็นการทำลายล้างทางการเมืองหรือมุ่งโจมตีโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท และเมื่อการกระทำของจำเลยที่ 1 – 4 ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท การกระทำของจำเลยที่ 5-9 และ 11 ก็ไม่เป็นความผิดด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษา
ไม่มีข้อมูล