สุทธิพงษ์ : โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องข้าวเน่า

อัปเดตล่าสุด: 21/12/2559

ผู้ต้องหา

สุทธิพงษ์ ธ.

สถานะคดี

ตำรวจสั่งไม่ฟ้อง

คดีเริ่มในปี

2556

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

นายอนันต์ วังอมรมิตร อายุ 51 ปี (เจ้าของโรงสีทรัพย์อนันต์) บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด (ผู้ผลิตข้าวตราฉัตร)

สารบัญ

สุทธิพงษ์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คส่วนตัวโดยกล่าวอ้างถึง ชื่อโรงสี และข้าวสารบางยี่ห้อ ว่ามีสารพิษตกค้าง เป็นเหตุให้ถูกแจ้งความดำเนินคดีญานหมิ่นประมาท ต่อมาเจรจาและยอมขอโทษผู้เสียหายต่อสาธารณะ จึงถอนการแจ้งความ
 

ภูมิหลังผู้ต้องหา

สุทธิพงษ์ ธ.หรือ เช็ค เป็น ผู้ผลิต พิธีกรรายการ ‘คนค้นฅน’ และ ผู้บริหารบริษัททีวีบูรพา 

ข้อหา / คำสั่ง

มาตรา 14 (1) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ, มาตรา 326 / 328 ประมวลกฎหมายอาญา

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

หลังจาก สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คส่วนตัว โดยกล่าวถึงชื่อโรงสีในภาคอีสาน และยี่ห้อของถุงที่มีสารตกค้าง ทั้งสามารถทำให้หนูตายภายใน 5 นาที เป็นเหตุให้โรงสีและยี่ห้อข้าวถุงเกิดความเสียหายจนนำมาสู่การแจ้งความ สุทธิพงษ์ ในข้อหาหมิ่นประมาทและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

พฤติการณ์การจับกุม

ไม่มีข้อมูล

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ไม่มีข้อมูล

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ. ไทยรัฐออนไลน์. (เข้าถึงเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2556)
'สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ' รับโพสต์พลาด – ยืนยันไม่มีอกุศลเจตนาใดๆ. ประชาไท. 11 กรกฎาคม 2556. (เข้าถึงเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2556)
"สุทธิพงษ์" แจงโพสข้าวเน่าได้ข้อมูลจากฟอร์เวิร์ดเมล์. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์. 11 กรกฎาคม 2556. (เข้าถึงเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2556)
เช็ค คนค้นฅน ถูกแจ้งความรอบทิศ. VOICE TV ออนไลน์. 11 กรกฎาคม 2556. (เข้าถึงเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2556)
'สุทธิพงษ์' รับโพสต์ FB ข้าวเน่าจากฟอร์เวิร์ดเมล. VOICE TV ออนไลน์. 11 กรกฎาคม 2556. (เข้าถึงเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2556)
“เช็ค-คนค้นฅน” พบ “ยรรยง” ยันไม่มีเจตนาทำลายข้าวไทย พร้อมเสนอแผนฟื้นฟูไถ่โทษ. ผู้จัดการออนไลน์. 15 กรกฎาคม 2556. (เข้าถึงเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2556)
"เจาะใจ" สุทธิพงษ์ เคลียร์ "ข้าวถุง-โรงสี". ประชาชาติธุรกิจออนไลน์. 17 กรกฎาคม 2556. (เข้าถึงเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2556)
"เช็ค สุทธิพงษ์" น้ำตาซึมยกมือไหว้ขอโทษข้าวตราฉัตร. สปริงนิวส์ออนไลน์. 17 กรกฎาคม 2556. (เข้าถึงเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2556)
"ข้าวตราฉัตร" ถอนฟ้องพิธีกร "คนค้นฅน" หลังออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการ. มติชนออนไลน์. 17 กรกฎาคม 2556. (เข้าถึงเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2556)
พิธีกรดังอ้างข้าวถุงมีสารพิษ ปัดถูกบล็อกเฟซบุ๊กหลังโพสต์แฉ. ไทยรัฐออนไลน์. 10 กรกฎาคม 2556 (เข้าถึงเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2556)
9 กรกฎาคม 2556
สุทธิพงษ์ ธ. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ว่า "แล้วแต่พิจารณานะครับ ผมไม่ได้มีประโยชน์ได้เสีย โรงสีข้าวที่กำลังเตรียมส่งข้าวในสต็อกออกจำหน่าย ให้กับผู้ผลิตรายใหญ่ได้แก่ โรงสีข้าวทรัพย์อนันต์, โรงสีไฟวิญญูยโสธร, โรงสีสิรินธร เป็นโรงสีของภาคอีสาน  
เป็นโรงงานของ ส.ส.เพื่อไทย คนจะมีสารพิษตกค้าง เพราะสารตัวนี้ไม่สามารถ ละลายในน้ำได้ หนูตายใน 5 นาที
ห้ามซื้อ ข้าวหอมปทุมธานี ทุกยี่ห้อ ตอนนี้ข้าวถูกจำหน่ายออกในนาม ข้าวหอมปทุมธานี เนื่องจากคนกลัวข้าวจากอีสาน และ สต็อกต่อไปคือข้าวเสาไห้ ยี่ห้อ เบญจรงค์ ห้ามเด็ดขาด ข้าวตราฉัตร ทุกประเภทห้ามทาน เป็นสต็อกจากต้นปีที่แล้ว จัดจำหน่าย เค้าส่ง" หลังจากนั้นมีผู้แชร์สเตตัสดังกล่าวจำนวนมาก ต่อมาสุทธิพงษ์ได้ลบข้อความดังกล่าวออกไป 
ต่อมาเวลา 20.38 น. สุทธิพงษ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุสิ่งที่เกิดขึ้นว่า "เร็วกว่าไฟลามทุ่ง ถึงแม้ผมจะลบไปแล้ว เร็วที่สุดเท่าที่ผมจัดการได้เมื่อเห็นผลของความสะเพร่า ไปไกลเกินกว่าเจตนาแห่งสัมมาทิฐิและกุศลเจตนา อย่าให้และอย่าใช้ผมไปก่อกรรมกับใครเลยนะครับ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าผมสามารถลบความจริงทิ้งได้ และไม่ว่าใครก็ไม่สามารถลบกรรมทั้งดีชั่วทิ้งได้ โดยเฉพาะการกระทำกับชาวนาและข้าวปลาอาหาร"
 
10 กรกฎาคม 2556
หลังมีข่าวว่าเฟซบุ๊คของสุทธิพงษ์ ถูกบล็อก ทำให้เวลา 13.55 น. นายสุทธิพงษ์ต้องอัพสเตตัสว่า "เพจผมไม่ได้ถูกบล็อกนะครับ"
ในเวลาประมาณ 16.25 น. สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ได้โพสต์ข้อความอีกครั้งผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง "สิ่งที่ผมยังไม่ได้โพสต์ "เรื่องข้าว" ความว่า
“คนไทยส่วนใหญ่จะคิดเหมือนผมหรือเปล่าผมไม่แน่ใจหรอกครับ เพราะผมไม่ได้อยากขุดคุ้ยหรือแฉเบื้องหลังการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ทั้งไม่เคยคิดจะทำ ไม่มีความสุขในการทำ  และไม่มีความสามารถที่จะทำ ผมคิดว่ามีหน้าที่ต้อง ผมคิดว่ามีผู้มีหน้าที่ต้องทำ ควรทำและสามารถทำได้ดีกว่าคนทำสารคดีเล็กๆ อย่างผมอยู่แล้ว 
สิ่งที่ผมกังวล ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับตัวเองเลยเพราะผมทีข้าวที่ดีที่ผลิตโดยกัลยาณมิตรของผมเองรับประทาน ผมเพียงแต่เป็นห่วงว่าถ้าข่าวและข้อมูลตามที่ปรากฏอยู่จากการแชร์กันมาเป็นความจริง นอกจากความวิตกกังวลของคนกินข้าวที่ไม่มีทางเลือกแล้ว ผมคิดว่าเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปไม่ต่างจากการวางยาพิษหมู่คนไทยค่อนประเทศไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม  ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีใครออกมาแสดงความกังวลหรือแสดงเจตนารมณ์ที่จะทำความจริงเรื่องนี้ให้ปรากฏเลย  กระทั่งข้าวจะออกสู่ท้องตลาด  หรือออกสู่ท้องตลาดมาแล้วเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้จะเป็นการก่อบาปครั้งใหญ่มากอีกครั้งหนึ่งของสังคมไทย หลังจากเราต่อกันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน หากกุศลเจตนาของผมที่ไม่อยากให้ใครก่อบาปต่อใครเป็นเรื่องผิด  ผมก็ยอมรับ ซึ่งผมถ้าถามว่าถ้าผมเป็นพ่อค้าข้าวที่ขายข้าวให้คนกินผมจะมีความสุขหรืออยากก่อบาปโดยการเอาสิ่งเป็นพิษให้ลูกค้าผู้มีบุญคุณของผม ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกัน(หรือไม่ก็ตาม) กินมั้ย ตอบโดยไม่ต้องคิดเลยว่าไม่ 
ถ้าผมเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน  ผมอยากเห็นประชาชนที่เลือกผมมาต้องสะสมพิษในร่างกายซึ่งจะนำมาซึ่งความเจ็บป่วยและทุกขเวทนาอีกมากมายในภายหลังจากการกินข้าวหรือไม่  และผมอยากมีส่วนร่วมต่อการก่อกรรมกับพวกเขาโดยการเพิกเฉยหรือไม่  ผมเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า ไม่ว่าใครก็ต้องตอบเหมือนผมนั่นก็คือ  “ไม่” 
มันเป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจมากใช่ไหมครับ ถ้าแม้แต่กระทั่งลูกเด็กเล็กแดงที่ไม่รู้อิโห่อิเหน่หรือทารกไร้เดียงสาที่ดื่มนมมาจากนมมารดายังพลอยรับกรรมดื่มพิษไปด้วย คิดแบบนี้ดรามาเกินไปหรือเปล่าครับ
กรรมที่ก่อเช่นนี้ในทางพุทธศาสนาเป็นการผิดศีลข้อที่หนึ่ง ซึ่งเป็นบาปที่ร้ายแรงมาก ศาสนาไม่ได้สอนให้ผมเอาตัวรอดแต่สอนให้ผมตระหนักว่าถ้าพบเห็นผู้ใดกำลังจะก่อกรรมอันเบียดเบียนและทำลายชีวิต  ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่  ถ้าผมทำอะไรได้ผมไม่ควรดูดาย  หากไม่แสดงความปรารถนาดีต่อชีวิตผู้อื่นนั่นแหละ  เป็นความผิดบาป 
ถ้าความหวังดีของใครก็ตามที่มีต่อทุกฝ่ายเป็นโทษต่อตัวเอง ผมว่าก็คงต้องกลับไปตั้งคำถามกับการเทศนาให้คนหลุดพ้นจากอวิชชาของพระทุกวัดด้วยเช่นกัน 
เพราะฉะนั้นสำหรับเรื่องนี้  จะวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไรก็สุดแท้แต่  ประเด็นที่สำคัญที่ไม่ควร  “หลุด”  และไม่ควร  “หลง”  ก็คือสุดท้ายแล้วอย่าลืมเรื่องความปลอดภัยในการกินข้าวของคนค่อนประเทศ 
ในความกังวล สงสัย อึมครึม ผมอยากให้ทุกท่านใช้ปัญญาพิจารณาว่าใครควรจะเป็นผู้คลี่คลายความสงสัยในเรื่องนี้  คนทำสารคดีชีวิตอย่างผม  สำนักข่าว  พ่อค้าข้าว  เจ้าหน้าที่  หรือรัฐบาล แล้วลองใช้สติไตร่ตรองดูนะครับว่าหากใครลงมือทำจะได้รับการสรรเสริญหรือนินทา ความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคเป็นความผิดหรือความไม่ดีที่ไม่ควรทำตรงไหน  และสุดท้ายนี้ผมอยากชวนให้คนไทยพิจารณาเหตุของปัญหานี้ตามหลักพุทธศาสนาว่า  เหตุอยู่ที่ไหน  อยู่ที่การแชร์ข้อมูล (ซึ่งมีคนแชร์มากมายก่อนผม)  หรืออยู่ที่วิธีการในการเก็บรักษาข้าวที่ต้องใช้สารเคมีมีพิษซึ่งตกค้างและเป็นอันตรายต่อชีวิต 
……..หรืออยู่ที่พิษทั้งหลายในใจคน" 
 
ในวันเดียวกันนี้ นายอนันต์ วังอมรมิตร อายุ 51 ปี เจ้าของโรงสีทรัพย์อนันต์ จ.สุรินทร์ เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อเอาผิดกับ สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ โทษฐานที่ทำให้เสียชื่อเสียง 
นอกจากนี้ นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เครือเจริญโภคภัณฑ์ 
กล่าวว่า  ทางบริษัทได้ออกหนังสือชี้แจงและเชิญนายสุทธิพงษ์ มาเยี่ยมชมกระบวนการผลิตข้าวถุงในโรงงาน แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับ ดังนั้นเพื่อแสดงท่าทีที่ชัดเจน และเป็นการกอบกู้ภาพลักษณ์ข้าวไทย จึงได้แจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ในข้อหาหมิ่นประมาท และผิดต่อพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์  
 
11 กรกฎาคม 2556
นายสุทธิพงษ์ โพสต์ชี้แจงเพิ่มเติม ว่า "ขอขยายความสิ่งที่ผมบอกว่าเจตนาผมคือไม่อยากให้เกิดการเบียดเบียนกันจากการณีข่าว แล้วผลผมดันเป็น “ส่วนหนึ่ง” ในการทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเสียงเอง เจตนาผมมีประการเดียวคือเรื่องความมั่นใจในความปลอดภัยของคนกินข้าว เนื่องจากความกังวลและความห่วงใยจากข่าวสารที่ได้รับ ก่อนโพสท์ตามที่ได้เรียนชี้แจ้งว่าผมตั้งใจเขียนความตั้งใจ ชี้แจงเจตนาต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะเจตนาของผมต้องการให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาได้รับรู้ด้วย ไม่ใช่เฉพาะผู้บริโภคเท่านั้น ผมไม่ได้มีธงในใจหรืออกุศลเจตนาต่อผู้ใด แต่ความสะเพร่าของผมก็คือ ผมเขียนไปได้แค่สองประโยค ยังไม่ครบถ้วนก็เกิดอุบัติเหตุระหว่างแก้ไขคำผิด มือไปโดน post ส่งไปก่อน ซึ่งได้พยายามรีบลบ แต่ผมทำไม่เป็นต้องไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นอีก 2 คนจึงทำได้สำเร็จ ซึ่งถ้าสามารถเช็คเวลาก่อนจะลบได้จะทราบว่าไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง ต่อมาไม่นานมีคนโพสท์ตำหนิผมอย่างรุนแรง ผมจึงชี้แจงกลับไป ทั้งขอบคุณที่เตือนสติและยอมรับความผิดพลาด ต่อมาภายหลังผมจึงพบคำตอบว่าทำไมความรู้สึกเขาถึงรุนแรงมาก นั่นก็เพราะมีการเอาไปขยายต่อ เพิ่มเติม ชี้นำ จะเพื่อประโยชน์อันใดก็สุดแท้แต่ แต่ไม่ใช่ความตั้งใจและเจตนาของผม ซึ่งยืนหยัดชัดเจนตั้งแต่ต้น ผมจึงได้รู้ว่าผมกลายเป็นเหยื่อและเครื่องมือไปแล้วอีกคนหนึ่ง แต่ถามว่าเหตุมาจากไหน ก็มาจากผมนั่นแหละ สิ่งนี้ก็เป็นกรรมที่ผมต้องรับตามหลักพุทธศาสนา ซึ่งสิ่งนี้ผมก็ยืนยันเหมือนเจตนารมณ์ เมื่อเช้านี้ผมได้ฟังความรู้สึกของเจ้าของโรงสี เจ้าของสินค้า ยิ่งทำให้ผมไม่สบายใจ เพราะสิ้งที่กำลังส่งผล มาจากความคลาดเคลื่อนและปรุงแต่งสิ่งที่เกิดจากผมไปจนไกล ผมไม่มีอะไรแก้ตัวแต่มีความเสียใจในบางด้าน และความจริงทั้งหมดจะชี้แจง โดยเฉพาะเรื่องปราศจากอกุศลเจตนาและมิจฉาทิฐิ ผมจึงจะแถลงบ่ายนี้" 
ต่อมาในงานแถลงข่าว สุทธิพงษ์ ยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวจริง โดยข้อมูลที่โพสต์ขึ้นไปเป็นข้อมูลที่มีการส่งต่อๆ กันมาทางไลน์ ผมเพียงก๊อปปี้และโพสต์ขึ้นเท่านั้นแต่ในช่วงโพสต์ เกิดความผิดพลาด ไปกดปุ่มส่งข้อความ  ทั้งๆ ที่ยังเขียนข้อความไม่เสร็จ ซึ่งเรื่องนี้ พร้อมยอมรับผลกระทบที่จะตามมาทุกประการ แต่ขออย่านำไปเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง สุทธิพงษ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า หากผู้ที่ได้รับผลกระทบแจ้งความเอาผิด เขาก็พร้อมเข้าให้ปากคำในทุกกรณี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และพร้อมเข้าไปชี้แจงและแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อผู้ที่ถูกพาดพิงทุกราย โดยยืนยันว่า การโพสต์ข้อความดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องกับข้าวแบรนด์คุณธรรมที่ตนเองเป็นผู้ผลิต เพราะเป็นสัดส่วนที่น้อยมากในตลาดการค้าข้าว
ตอนนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจมาก โดยหลังจากนี้จะประชุมกับทีมงานให้ประสานงานติดต่อไปยังผู้ประกอบการต่างๆ เพื่อชี้แจงเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งเชื่อมั่นในเจตนาบริสุทธิ์ของตนเอง และเมื่อชี้แจงแล้วผู้ประกอบการก็น่าจะเข้าใจ และถ้าจะมีการฟ้องร้องต่อไปก็เป็นเรื่องของอนาคต ส่วนที่ผู้ประกอบการต้องการให้เข้าไปดูสต็อกข้าวนั้นตนก็ยินดี เพราะนั่นคือเรื่องของการมีความบริสุทธิ์ใจต่อผู้บริโภค
 
15 กรกฎาคม 2556
เวลาประมาณ 14.00 น. สุทธิพงษ์ และผู้บริหารของบริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด เดินทางมาพบนายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่กระทรวงพาณิชย์ เพื่อหารือเกี่ยวกับกรณีการโพสต์ข้อความข้าวไทยมีสารพิษ และการหารือถึงแนวทางเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมข้าวไทย สุทธิพงษ์กล่าวว่า หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นได้พยายามติดต่อทุกเจ้าที่มีชื่อปรากฏเพื่อแสดงเจตนาไปพบ ขอไปชี้แจง ไปเล่าความจริง และขอรับฟังสิ่งที่ผู้ที่ถูกพาดพิงจะพูด แต่ที่ช้าเพราะหลายๆ รายมีขั้นตอนในการขอเข้าพบ หรือเป็นองค์กรใหญ่ แต่ที่ทำได้ก็ทำเลย เช่น ไปพบโรงสีที่ จ.ยโสธร ได้ไปชี้แจงและพูดคุยแล้ว และได้ขอเข้าพบนายยรรยง ซึ่งไม่ได้มาขอให้ช่วยเหลือในเรื่องที่ตนเองได้รับผลกระทบทางคดีความ แต่ได้มาเรียนว่ากระทำไปด้วยเจตนาอะไร และที่ผ่านมาได้แสดงความรับผิดชอบอะไรไปบ้าง
 
16 กรกฎาคม 2556
มีการบันทึกเทปรายการ เจาะใจ โดยเชิญนายสุทธิพงษ์ นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย ร่วมรายการ พร้อมนายอานุภาพ ภรณ์พิริยะนิยม เจ้าของโรงสีทรัพย์สิริธร จำกัด จ.ยโสธร พูดผ่านทางโทรศัพท์ โดยมีนายสัญญา คุณากร เป็นพิธีกร ที่สตูดิโอเจเอสแอล ลาดพร้าว 107 สืบเนื่องจากนายสุทธิพงษ์โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับสารพิษตกค้างในข้าวของโรงสี รวมทั้งระบุข้าวถุงยี่ห้อต่างๆ 
 
17 กรกฎาคม 2556
สุทธิพงษ์ ได้ขอเข้าพบผู้บริหารข้าวตราฉัตร และเข้าชมขบวนการผลิตข้าวสารบรรจุถุงส่งออกต่างประเทศและขายภายในประเทศ ของ บริษัท ซีพี อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตข้าวตราฉัตร อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
หลังจากนั้นได้เปิดแถลงข่าว ว่ายังคงแสดงเจตนาอันบริสุทธิ์ ที่ไม่ต้องการทำลายข้าวไทยและผู้ผลิตข้าวแต่อย่างไร หลังจากเกิดเหตุทำอะไรไม่ถูก สับสนไปหมด และได้ปรึกษาทีมทนายความรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งในทางกฎหมายทางทีมทนายความได้หาทางออกเพื่อเตรียมรับมือเช่นเดียวกัน แต่ตนไม่สบายใจเพราะยังขาดความรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไป อย่างไรก็ตามระหว่างการแถลงข่าวครั้งนี้ สุทธิพงษ์ ถึงกับน้ำตาซึมได้ยกมือขึ้นไหว้กล่าวคำขอโทษ ขออโหสิกรรม กับสิ่งที่ตนเองกระทำขึ้นทั้งหมด กับนายสุเมธ ตัวแทนของข้าวตราฉัตร ที่นั่งแถลงข่าวคู่กัน พร้อมกับมอบหนังสือขอโทษที่ทำขึ้นอย่างเป็นทางการ และยังจะช่วยฟื้นฟูข้าวไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลกและให้คนทั้งประเทศได้มั่นใจว่าบริโภคข้าวไทยแล้วปลอดภัย นอกจากนี้ยังขอโทษไปยังบริษัทผู้ผลิตข้าวสารทุกบริษัท รวมถึงขอโทษกลุ่มชาวนา 
ในส่วนของนายสุเมธ เหล่าโมราพร บริษัท ซี.พี. ตัดสินใจถอนแจ้งความ นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ แล้ว เพราะเห็นว่า ไม่มีเจตนาร้าย ขณะที่นายสุทธิพงษ์ ยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และขอโทษด้วยวาจาและเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมชี้แจงเหตุผลที่ไม่รับการติดต่อจากทาง ซี.พี. ช่วงเกิดเหตุการณ์ เนื่องจากได้รับคำแนะนำว่าไม่ควรพูด เพื่อไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย

 

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา