ฐานข้อมูลคดี

7 เมษายน 2552

ปภัสชนัญญ์ ร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี พร้อมทั้งแสดงการประท้วงโดยการเผาโลงศพ ข้างโลงศพมีข้อความเขียนไว้สามบรรทัด

บรรทัดแรกเขียนว่า พระองค์ท่าน...

บรรทัดที่สองเขียนว่า พลเอกเปรม... พันธมิตร รัฐบาลโจร

บรรทัดที่สามเขียนว่า ชาตะ... มรณะ 8 เม.ย. 52

นอกจากนี้ยังมีการนำภาพ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ รวมทั้งภาพ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี (ณ ขณะนั้น) ติดไว้บนโลงด้วย

ที่มา: เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000177068

9-10 เมษายน 2552

พ.อ.วีระภัทรพล บุญย์เชี่ยว ทหารฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา และกลุ่มตัวแทนเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนจังหวัดนครราชสีมา เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนเสื้อแดง นำโดย ปภัสชนัญญ์ ในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

ที่มา: เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000177068

24 เมษายน 2552

เวลา 14.00 น. ปภัสชนัญญ์ เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.ชัยวุฒิ เกียรติก้องกำจาย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา โดยในชั้นสอบสวน ปภัสชนัญญ์ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมขอต่อสู้คดีและให้การในชั้นศาล

ปภัสชนัญญ์ถูกควบคุมตัวไปขออำนาจฝากขังต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา และได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้ตำแหน่งข้าราชการครูระดับ 9 ของญาติเป็นหลักประกัน ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวและนัดให้มารายงานอีกครั้งในวันที่ 6 พ.ค. 2552

ที่มา: เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000046318

16 ธันวาคม 2553

ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่าการที่จำเลยเป็นผู้เทน้ำมันและจุดไฟเผาโลงศพจำลอง ซึ่งมีข้อความว่า “พระองค์ท่าน” ปรากฏอยู่นั้น เป็นการหมายถึงพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพสูงสุดของบุคคลทั่วไป การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานร่วมกันกับพวก(ร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง) หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ประกอบมาตรา 83 ลงโทษจำคุก 3 ปี

ที่มา: ประชาไทออนไลน์ http://prachatai.com/journal/2010/12/32319

29 สิงหาคม 2556

ศาลจังหวัดนครราชสีมา อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ซึ่งพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้จำคุกเป็นเวลา 3 ปี 10 วัน หลังฟังคำพิพากษา ปภัสชนัญญ์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวก่อนถูกส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำว่า แม้กระบวนการยุติธรรมจะถึงที่สุด แต่ก็ยังยืนยันถึงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มิเคยเสื่อมคลาย ขอฝากถึงมวลชนคนเสื้อแดงต้องร่วมพลังสานต่อแนวทางประชาธิปไตยด้วยการต่อต้านเผด็จการ และนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศไทย ส่วนแกนนำเสื้อแดงส่วนกลางต้องช่วยเหลือมวลชนที่ถูกจองจำ พร้อมเร่งผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ที่มา: ประชาไทออนไลน์ http://prachatai.com/journal/2013/08/48478