ชาวเชียงราย 4 คน : ฝ่าฝืนประกาศ คสช. ห้ามชุมนุม

อัปเดตล่าสุด: 02/12/2559

ผู้ต้องหา

ชาวเชียงราย 4 คน เป็นหญิง 1 คน ชาย 3 คน

สถานะคดี

ชั้นศาลชั้นต้น

คดีเริ่มในปี

2557

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

ไม่มีข้อมูล

สารบัญ

หญิงชาวเชียงราย 1 และชายชาวเชียงรายอีก 3 คนได้ร่วมชุมนุม "กินแม็คต้านรัฐประหาร" ที่ร้านแม็คโดนัลด์ สาขาเซ็นทรัลพลาซ่าเชียงราย ภายหลังถูกควบคุมตัว 7 วัน เขาถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืนประกาศ คสช. ฉบับที่ 7/2557

 

 

ภูมิหลังผู้ต้องหา

หญิงชาวเชียงราย 1
เธอเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เขตอำเภอเมือง เคยร่วมตั้งเต้นท์คุมทางเข้า-ออกศาลากลางจังหวัดเชียงราย เพื่อแสดงพลังให้กำลังใจน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 

 

ชายชาวเชียงราย 3
ประกอบอาชีพเป็นข้าราชการที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย จากคำบอกเล่าอ้างว่าไม่เคยร่วมชุมนุมกับกลุ่มนปช. 


ชายชาวเชียงราย 4
อดีตอาจารย์สอนวิชาก่อสร้าง ที่วิทยาลัยเทคนิคเชียงราย ปัจจุบันเกษียณจากราชการแล้ว
 


ชายชาวเชียงราย 5

ข้อหา / คำสั่ง

กฎอัยการศึก, ฝ่าฝืนประกาศคสช. 7/2557

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

หญิงชาวเชียงราย 1
เธอได้ร่วมกิจกรรมกินแมคโดนัลด์ต่อต้านรัฐประหาร ที่ร้านอาหารแมคโดนัลด์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเชียงราย โดยได้นัดแนะกันบนเฟซบุ๊ก โดยในวันเกิดเหตุได้ถือป้ายและถ่ายภาพการทำกิจกรรมไว้ด้วย 

 

ชายชาวเชียงราย 3

เขารวมกลุ่มกับกิจกรรมกินแมคโดนัลด์ต่อต้านรัฐประหาร และร่วมชูป้ายถ่ายรูปในช่วงสายของวันที่ 29 พฤษภาคม 2557 หลังจากนั้นเวลา 12.57 น. เจ้าหน้าที่ทหารชุดจับกุมได้รับข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองทางการสอบสวนว่าจะมีคนทำผิดกฎหมายโดยฝ่าฝืนคำสั่งห้ามชุมนุมมั่วสุมทางการเมืองมากกว่า 5 คน ขึ้นไป โดยมีหลักฐานคือกระดาษที่เขียนข้อความด้วยปากกาเคมีทั้งหมด 4 แผ่นว่า “เลือกตั้ง”  “NoCoup” “ขอเลือกตั้งขอเสียงประชาชน” “เอาอิสรภาพของประชาชนคืนมา” เขาถูกจับพร้อมกับชายชาวเชียงรายอีก 2 คน และหญิงชาวเชียงราย 1 คน
 

ชายชาวเชียงราย 4
วันที่ 25 พฤษภาคม 2557 เขากับกลุ่มเพื่อนจำนวนหนึ่งได้ออกมาทำกิจกรรมแสดงออกในการต่อต้านรัฐประหาร ที่ร้านแม็คโดนัลด์ สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า จ.เชียงราย โดยเขากับพวกได้เขียนข้อความลงบนกระดาษ A4 เช่น "เลือกตั้ง" "NO COUP" "ขอเลือกตั้ง ขอเสียงของประชาชน" "เอาอิสระภาพของประชาชนคืนมา" จากนั้นจึงชูป้ายขึ้น และช่วยกันบันทึกภาพเก็บไว้

 

ชายชาวเชียงราย 5
เขาไปร่วมกิจกรรมกินแมคโดนัลด์ต่อต้านรัฐประหารกับภรรยา ที่ร้านอาหารแมคโดนัลด์ สาขาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล จ.เชียงราย

พฤติการณ์การจับกุม

หญิงชาวเชียงราย 1

เธอได้รวมกลุ่มกับกิจกรรมกินแมคโดนัลด์ต่อต้านรัฐประหาร และร่วมชูป้ายถ่ายรูปในช่วงสายของวันที่ 25 พฤษภาคม 2557 หลังจากนั้นเวลา 12.57 น. เจ้าหน้าที่ทหารชุดจับกุมได้รับข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองทางการสอบสวนว่าจะมีคนทำผิดกฎหมายโดยฝ่าฝืนคำสั่งห้ามชุมนุมมั่วสุมทางการเมืองมากกว่า 5 คน ขึ้นไป โดยมีหลักฐานคือกระดาษที่เขียนข้อความด้วยปากกาเคมีทั้งหมด 4 แผ่นว่า “เลือกตั้ง”  “NoCoup” “ขอเลือกตั้งขอเสียงประชาชน”   “เอาอิสรภาพของประชาชนคืนมา” เขาถูกจับพร้อมกับ สามี และชายชาวเชียงรายอีก 2 คน 

 

ชายชาวเชียงราย 3
เขารวมกลุ่มกับกิจกรรมกินแมคโดนัลด์ต่อต้านรัฐประหาร และร่วมชูป้ายถ่ายรูปในช่วงสายของวันที่ 29 พฤษภาคม 2557 หลังจากนั้นเวลา 12.57 น. เจ้าหน้าที่ทหารชุดจับกุมได้รับข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองทางการสอบสวนว่าจะมีคนทำผิดกฎหมายโดยฝ่าฝืนคำสั่งห้ามชุมนุมมั่วสุมทางการเมืองมากกว่า 5 คน ขึ้นไป โดยมีหลักฐานคือกระดาษที่เขียนข้อความด้วยปากกาเคมีทั้งหมด 4 แผ่นว่า “เลือกตั้ง”  “NoCoup” “ขอเลือกตั้งขอเสียงประชาชน” “เอาอิสรภาพของประชาชนคืนมา” เขาถูกจับพร้อมกับชายชาวเชียงรายอีก 2 คน และหญิงชาวเชียงราย 1 คน
 
 
ชายชาวเชียงราย 4
วันที่ 25 พฤษภาคม 2557 เวลาประมาณ 12.57 น. ทหารที่แฝงตัวเข้ามาเป็นพนักงานของร้านแม็คโดนัลด์ ได้แสดงตัวและเข้าตรวจค้นและควบคุมตัวเขาไปที่ค่ายเม็งรายมหาราช
 
 
ชายชาวเชียงราย 5
เขาได้ร่วมกิจกรรมกินแมคโดนัลด์ต่อต้านรัฐประหาร เจ้าหน้าที่ทหารชุดจับกุมได้รับข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองทางการสอบสวนว่าจะมีคนทำผิดกฎหมายโดยฝ่าฝืนคำสั่งห้ามชุมนุมมั่วสุมทางการเมืองมากกว่า 5 คน ขึ้นไป โดยมีหลักฐานคือกระดาษที่เขียนข้อความด้วยปากกาเคมีทั้งหมด 4 แผ่นว่า “เลือกตั้ง”  “NoCoup” “ขอเลือกตั้งขอเสียงประชาชน” “เอาอิสรภาพของประชาชนคืนมา” เขาถูกจับพร้อมกับภรรยา และชายชาวเชียงรายอีก 2 คน

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

คดีหญิงชาวเชียงราย 1 คน และชายชาวเชียงราย 3 คน : ข้อหาฝ่าฝืนประกาศ คสช. ห้ามชุมนุมทางการเมือง
คดีหมายเลขดำที่ 3ก./2557 ศาลจังหวัดทหารบกเชียงราย
ผู้พิพากษาศาลทหารเจ้าของสำนวน พันโท ประเสริฐ แดงไผ่
 
26 สิงหาคม 2557 
ศาลทหารนัดสอบถามคำให้การ และฟังคำพิพากษา
เวลาประมาณ 9.30 น. ผู้สังเกตการณ์เดินทางมาถึงค่ายเม็งรายมหาราช สารวัตรทหารหน้าค่ายได้ให้จอดรถรอที่ทางเข้าค่าย โดยขอเช็คชื่อผู้ที่จะเดินทางเข้าไป โดยขอบัตรประจำตัวประชาชนของทั้งหมดไป และมีการวอสอบถามจากผู้บังคับบัญชา สารวัตรทหารได้สอบถามผู้สังเกตการณ์และทนายว่ามีความสัมพันธ์อย่างไรกับจำเลยในคดี โดยแจ้งว่ามีคำสั่งไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง หรือมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับจำเลยเข้าไปยังศาล เพื่อนของจำเลยรายหนึ่งที่จะเข้าฟังการพิจารณาจึงไม่สามารถเข้าไปยังค่ายได้ 
 
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติของ ICJ (คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล) ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังบริเวณค่ายทหาร และการพิจารณาวันนี้ ได้เพิ่มสารวัตรทหารมาตรวจตราดูแลด้านล่างศาล จำนวน 6 นาย
 
เวลาประมาณ 10.20 น. จ่าศาลเรียกให้จำเลยทั้งสี่ขึ้นสู่ห้องพิจารณาคดีในชั้นบน โดยไม่อนุญาตให้นำเครื่องมือสื่อสารขึ้นไป และไม่อนุญาตให้จดบันทึกระหว่างการพิจารณา 
 
เมื่อศาลนั่งบัลลังก์ และมีตุลาการพระธรรมนูญจากมณฑลทหารบกที่ 33 มานั่งร่วมพิจารณา รวมทั้งมีสารวัตรทหารหนึ่งนายมานั่งบริเวณประตูทางเข้าศาล ศาลได้อ่านคำฟ้องให้จำเลยทั้งสี่ฟัง สอบถามคำให้การของจำเลย โดยจำเลยทั้งสี่ยินยอมรับสารภาพตามข้อกล่าวหา และอัยการทหารไม่คัดค้านคำร้องของฝ่ายจำเลยที่ขอให้ลงโทษสถานเบา หรือรอการลงโทษ ศาลจึงอ่านกระบวนพิจารณา และอ่านคำพิพากษา
 
ศาลพิพากษาว่าจำเลยทั้งสี่มีความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 7/2557 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 พิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้งสาม 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษคนละกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท และตามที่จำเลยทั้งสี่ได้ยื่นคำร้องให้ศาลลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษจำคุก พร้อมแนบหนังสือรับรองความประพฤติของจำเลยทั้งสี่คนจากผู้บังคับบัญชา และผู้นำชุมชนของจำเลย ซึ่งรับรองว่าจำเลยมีถิ่นที่อยู่แน่นอน ประกอบอาชีพสุจริต มีความประพฤติดี ไม่เคยต้องโทษในคดีอาญามาก่อน และมีบุคคลที่จำต้องอุปการะเลี้ยงดู คดีจึงมีเหตุอันควรปราณีเพื่อให้โอกาสจำเลยทั้งสามประพฤติตัวกลับตนเป็นพลเมืองดี จึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้ มีกำหนดคนละ 1 ปี
 
ทั้งนี้ จำเลยทั้งสี่ได้ถูกคุมขังเป็นเวลา 1 วัน จึงทำการเปรียบเทียบปรับ ให้คืนเงินคนละ 200 บาท จึงเหลือชำระค่าปรับต่อศาลทั้งสิ้น 4,800 บาท
 

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ไม่มีข้อมูล

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
25 พฤษภาคม 2557
ร่วมกิจกรรม ถูกจับกุมและถูกควบคุมตัวที่ค่ายเม็งรายมหาราช
 
 31 พฤษภาคม 2557
ได้ยื่นประกันตัวเองด้วยวงเงินประกัน  20,000 บาท แต่พนักงานสอบสวนยังทำสำนวนไม่เสร็จ จึงถูกพาตัวไปขออำนาจศาลฝากขังเป็นเวลา 12 วัน 
 
  5 มิถุนายน 2557
ได้ประกันตัว และจะต้องมารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 10 มิถุนายน 2557
 
10 มิถุนายน 2557
เวลาประมาณ 09.13 น. เขาเข้าไปรายงานตัว ณ ศาลจังหวัดทหารบกจังหวัดเชียงราย ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจะต้องมารายงานตัวเพื่อฝากขังผลัด 2 อีกครั้งในวันที่ 13 มิถุนายน 2557
 
26 สิงหาคม 2557
ศาลจังหวัดทหารบกเชียงราย พิพากษาจำคุกจำเลยเป็นเวลา 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท และจำเลยยื่นคำร้องขอให้ลงโทษสถานเบา พร้อมหนังสือรับรองความประพฤติจากผู้ใหญ่บ้าน ศาลเห็นควรให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี

 

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา