“ทวีสิน”: เครือข่ายบรรพต

อัปเดตล่าสุด: 22/05/2560

ผู้ต้องหา

“ทวีสิน”

สถานะคดี

ตัดสินแล้ว / คดีถึงที่สุด

คดีเริ่มในปี

2558

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

ไม่มีข้อมูล

สารบัญ

"ทวีสิน" และ "ขวัญใจ" เป็นจำเลยร่วมในคดีเผยแพร่คลิปเสียงใน เครือข่ายบรรพต ซึ่งทั้งสองปฏิเสธข้อกล่าวหาและขอสู้คดี ศาลทหารจึงจำหน่ายทั้งสองออกจากสำนวนคดีเครือข่ายบรรพต ให้อัยการทหารฟ้องแยกเป็นคดีใหม่

ต่อมา "ทวีสิน" เปลี่ยนคำให้การเป็นรับสารภาพ ศาลพิพากษาให้จำคุก 10 ปี และลดเหลือ 5 ปี และต่อมา "ขวัญใจ" ก็กลับคำให้การเป็นรับสารภาพ และได้รับโทษเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนเปลี่ยนใจเป็นรับสารภาพเนื่องจากเห็นว่าการต่อสู้คดีใช้เวลานานเกินไป

ภูมิหลังผู้ต้องหา

"ทวีสิน" จำเลยที่ 3 ขณะถูกจับอายุ 43 ปี อาชีพหมอดู จบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
 
"ขวัญใจ" จำเลยที่ 4 ขณะถูกจับอายุ 41 ปี อาชีพแม่บ้าน

ข้อหา / คำสั่ง

มาตรา 14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ, มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

"ทวีสิน" และ "ขวัญใจ" ถูกฟ้องว่า พวกเขาทราบอยู่แล้วว่าคลิปเสียงที่จัดทำโดยหัสดินหรือ "บรรพต"  มีเนื้อหาที่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่ก็ยังนำไปเผยแพร่ต่อ

พฤติการณ์การจับกุม

วันที่ 25 มกราคม 2558 เวลาประมาณ 14.00 น. "ขวัญใจ" ถูกจับกุมตัวที่บ้านพัก ย่านบางเสาธง โดยทหารพร้อมอาวุธปืน 6-7 นาย พร้อมด้วยทหารหญิง 2 คันรถ และเจ้าหน้าที่ ปอท. อีก 1 คันรถ
 
เจ้าหน้าที่ยึดคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปรวม 14 รายการ หลังจากนั้นจึงนำตัว "ขวัญใจ" ขึ้นรถไปสอบสวน ระหว่างทางถูกปิดตาและคลุมศีรษะด้วยถุงสีขาว "ขวัญใจ" ถูกควบคุมตัวไว้ในห้องมืด 5 วัน เพื่อทำการสอบสวน 
 
"ทวีสิน" ถูกจับที่บ้านในวันที่ 29 มกราคม 2558 

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ศาลทหารกรุงเทพ

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
25 มกราคม 2558
 
"ขวัญใจ" ถูกจับกุม
 
29 มกราคม 2558 
 
"ทวีสิน" ถูกจับกุม
 
2 กุมภาพันธ์ 2558 
 
"ทวีสิน" และ "ขวัญใจ" ถูกพาตัวมาที่ศาลทหารเพื่อขออำนาจศาลฝากขังผลัดแรก ทั้งสองไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว
 
24 เมษายน 2558
 
อัยการทหารยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองรวมกับจำเลยคดีเครือข่ายบรรพตคนอื่นอีกสิบคนต่อศาลทหารกรุงเทพ 

9 กรกฎาคม 2558
 
นัดสอบคำให้การ
 
"ทวีสิน" และ "ขวัญใจ" ให้การปฏิเสธขอสู้คดีขณะที่จำเลยอีกสิบคนให้การรับสารภาพ ศาลทหารจึงนัดจำเลยคนอื่นฟังคำพิพากษาในวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 (ดูสรุปคำพิพากษาคดีเครือข่ายบรรพตที่นี่) ส่วน "ทวีสิน" กับ "ขวัญใจ" ศาลสั่งให้จำหน่ายออกจากคดีเครือข่ายบรรพตและให้อัยการทหารแยกฟ้องเป็นคดีใหม่ภายใน 15 วัน นับจากวันสอบคำให้การ โดยในระหว่างรอการฟ้องคดีใหม่ศาลสั่งให้ควบคุมตัวจำเลยทั้งสองไว้ก่อน
 
28 ธันวาคม 2558
 
นัดสอบคำให้การ
 
ศาลทหารกรุงเทพนัด "ทวีสิน" และ "ขวัญใจ" สอบคำให้การคดีที่ทั้งสองถูกแยกฟ้องหลังให้การปฏิเสธเมื่อในคดีที่ถูกฟ้องรวมกับจำเลยคดีเครือข่ายบรรพต "ทวีสิน" แถลงคัดค้านอำนาจศาลทหาร ศาลทหารสั่งให้อัยการทหารทำความเห็นเรื่องอำนาจศาลกลับมาที่ศษลภายใน 15 วัน เพื่อศาลจะได้ทำความเห็นส่งให้ศาลอาญาต่อไป เนื่องจากจำเลยหนึ่งในสองคัดค้านอำนาจศาล ศาลจึงสั่งให้ชะลอการพิจารณาคดีไว้ก่อนจนกว่าปัญหาเรื่องเขตอำนาจศาลจะมีข้อยุติ 
 
21 มิถุนายน 2559
 
นัดฟังคำพิพากษา
 
ศาลสั่งพิจารณาเป็นการลับทำให้ตัวแทนจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนที่มาสังเกตการณ์ต้องออกจากห้องพิจารณาคดี ในภายหลังทนายความของ 'ขวัญใจ' จำเลยที่ถูกฟ้องร่วมกับ'ทวีสิน' เปิดเผยผลคำพิพากษาว่า
 
ศาลสั่งลงโทษจำคุก'ทวีสิน' เป็นเวลา 10 ปี แต่ลดโทษให้เหลือ 5 ปีเพราะคำรับสารภาพ ส่วนที่ 'ทวีสิน' ร้องขอศาลให้ลงโทษสถานเบา ศาลเห็นว่าคดีนี้เป็นคดีที่กระทบกระเทือนจิตใจประชาชนใน จึงให้ยกคำร้อง ทนายระบุด้วยว่า วันนี้ลูกความของตนถูกเบิกตัวมาด้วยทั้งที่ไม่มีนัด เพราะแม้จะถูกฟ้องในคดีเดียวกับ 'ทวีสิน' แต่ 'ขวัญใจ' ยังคงให้การปฏิเสธและจะสู้คดีต่อ สำหรับ 'ขวัญใจ' ศาลสั่งจำหน่ายออกจากคดีที่ถูกฟ้องร่วมกับ 'ทวีสิน' แล้วและอัยการจะต้องทำสำนวนฟ้องคดี 'ขวัญใจ' ใหม่ 

 

22 พฤษภาคม 2560

นัดสืบพยานโจทก์

วันนี้เป็นวันนัดสืบพยานโจทก์ปากแรก ในคดีส่วนของ "ขวัญใจ" จำเลยที่เหลือเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นการนัดสืบพยานที่เลื่อนมาแล้วหนึ่งครั้ง เนื่องจากก่อนหน้านี้ (ไม่ทราบวันที่) มีการนัดสืบพยานโจทก์แล้วครั้งหนึ่ง แต่พยานโจทก์ไม่มาศาล จึงเลื่อนมาสืบพยานเป็นวันนี้

ก่อนหน้าจะถึงวันนัด "ขวัญใจ" ตัดสินใจว่า จะไม่ขอต่อสู้คดีแล้ว เพราะเห็นว่าการต่อสู้คดีใช้เวลานานเกินไป จึงให้ทนายความมาแจ้งต่อศาลว่า จำเลยจะขอเปลี่ยนคำให้การเป็นรับสารภาพ

"ขวัญใจ" ถูกพาตัวมาที่ศาลทหารกรุงเทพในช่วงเช้า เมื่อขึ้นห้องพิจารณาคดี "ขวัญใจ" แถลงต่อศาลว่า ประสงค์จะขอรับสารภาพ และขอให้ศาลมีคำพิพากษาเลย

ศาลทหารกรุงเทพ จึงแจ้งผลคำพิพากษาในวันนี้ว่า ให้ "ขวัญใจ" มีความผิด ลงโทษจำคุก 10 ปี เนื่องจากจำเลยยอมรับสารภาพจึงลดโทษให้ เหลือจำคุก 5 ปี

หลังการฟังคำพิพากษา "ขวัญใจ" มีสีหน้ายิ้มแย้ม และกล่าวกับผู้มาสังเกตการณ์คดีว่า เธอเชื่อว่า คดีของเธอสามารถต่อสู้ให้ชนะได้ แต่ที่ผ่านมานัดสืบพยานยังไม่ไปถึงไหนเสียที อีกทั้งจำเลยคนอื่นในคดีเดียวกันที่รับสารภาพ ได้การลดหย่อนโทษจนปล่อยตัวออกจากเรือนจำหมดแล้ว เธอจึงหวังว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้เธอได้รับการปล่อยตัวเร็วขึ้น โดยหวังว่า ภายในเดือนตุลาคมปีนี้เป็นอย่างช้า จะมีการอภัยโทษครั้งใหญ่

 

 

 

 

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา