- เว็บไซต์ไอลอว์
- ศูนย์ข้อมูลฯ
ฐานข้อมูลคดี
ชื่อคดี
ผู้ต้องหา
ฤาชา
สถานะคดี
คำอธิบายสถานะคดี ภาษาไทย
ชั้นศาลชั้นต้น
สถานะผู้ต้องหา
ครบกำหนดโทษ
ข้อหา / คำสั่ง
มาตรา 14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ , มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา
เนื้อหาคดีโดยย่อ
ฤาชาอดีตทหารยศจ่าสิบเอกถูกเจ้าหน้าที่กว่า 20 นายเข้าจับกุมที่บ้านในจังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่แจ้งฤาชาด้วยวาจาว่าเขาถูกจับเพราะโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทพระราชินีและองค์รัชทายาท เจ้าหน้าที่ยังยึดอุปกรณ์ทั้งคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือของฤาชาไปด้วย ฤาชาถูกนำตัวมาที่มทบ.11 เพื่อสอบสวนและก่อนจะถูกส่งตัวไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพในชั้นสอบสวน
ฤาชาถูกแพทย์วินิจฉัยว่า มีอาการป่วยทางจิตเป็นโรคจิตเภท ไม่สามารถต่อสู้คดีได้ รวมฤาชาต้องอยู่ในเรือนจำ 234 วัน ก่อนได้รับอนุญาตให้ประกันตัวและศาลทหารกรุงเทพสั่งจำหน่ายคดีเพื่อให้ไปรักษาอาการป่วยก่อน
คดีที่ศาลทหารไม่มีความคืบหน้า แต่มีการนัดไต่สวนแพทย์ ซึ่งลงความเห็นว่า จำเลยยังไม่สามารถต่อสู้คดีได้ หลังจากนั้นคดีโอนกลับมาที่ศาลปกติ แม้แพทย์ยังคงเบิกความเช่นเดิม แต่ศาลอาญาสั่งให้นำคดีกลับขึ้นมาพิจารณา โดยนัดวันสืบพยานและสั่งพิจารณาคดีเป็นการลับ ก่อนพิพากษาว่า จำเลยมีความผิด ให้ลงโทษจำคุก 5 กรรม รวม 5 เดือน 50 วัน แต่จำเลยเคยติดคุกมานานกว่านั้นแล้ว จึงไม่ต้องรับโทษอีก
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ข้อกล่าวหา
หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาท
-
รูปแบบการจำกัดเสรีภาพ
การดำเนินคดี
-
ประเภทสื่อ
โซเชียลเน็ตเวิร์ค
-
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
-
ศาล
ศาลทหารกรุงเทพ
29 มีนาคม 2559
เวลาประมาณ 8.00-9.00 น. เจ้าหน้าที่กว่า 20 นายได้แก่ เจ้าหน้าที่ทหารจากมทบ.11 ทหารเรือผู้รับผิดชอบพื้นที่บ้านพักของฤาชาในอำเภอโป่งแดง จังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ และนายอำเภอโป่งแดง นำกำลังไปที่บ้านของฤาชาเพื่อทำการจับกุม
เจ้าหน้าที่แจ้งว่าฤาชาเขาถูกจับเพราะมีพฤติการณ์หมิ่นประมาทพระราชินีและองค์รัชทายาทและความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เจ้าหน้าที่ยังยึดคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก, แทบเล็ต และโทรศัพท์มือถือรวม 6 เครื่อง
ในการจับกุมและยึดสิ่งของฤาชาระบุว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้แสดงเอกสารให้เขาดูแต่อย่างใด หลังถูกจับกุมฤาชาถูกนำตัวมาที่มทบ.11 ทันที
จำเลยมาศาลพร้อมกับภรรยาแต่ทนายจำเลยมาถึงศาลช้า เนื่องจากญาติของทนายป่วย ศาลจึงแจ้งกับจำเลยว่าให้เลื่อนการสอบคำให้การไปเป็นวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 และยุติกระบวนพิจารณา
ก่อนเริ่มการพิจารณาคดี ศาลสั่งพิจารณาคดีเป็นการลับไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในห้องพิจารณาคดี ทนายจำเลยเปิดเผยข้อมูลในภายหลังว่า ฤาชาให้การปฏิเสธ ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 28 สิงหาคม 2560
นัดตรวจพยานหลักฐาน
18 พฤศจิกายน 2560
นัดไต่สวนแพทย์ผู้ตรวจอาการของจำเลย
เวลา 13.30 ศาลทหารกรุงเทพนัดไต่สวนแพทย์จากสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ผู้ตรวจอาการของจำเลย ในประเด็นว่า สถานะปัจจุบันของจำเลยสามารถต่อสู้คดีได้หรือไม่ แต่วันนี้จำเลยไม่ได้เดินทางมาศาล เนื่องจากไม่ได้รับหมายนัดของศาล เพราะส่งไปยังที่อยู่ที่จำเลยไม่ได้อยู่จริง
ด้านทนายความของจำเลยที่มาศาลตั้งแต่ช่วงเช้าแจ้งว่า นัดนี้เป็นเพียงนัดไต่สวนแพทย์ สามารถไต่สวนลับหลังจำเลยได้ แต่เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ศาลทหารแจ้งว่า จะเลื่อนนัดไต่สวนวันนี้ออกมาก่อน เนื่องจากวันนี้ช่วงเย็นจะมีการจัดพระราชพิธียกนพปฏลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ จึงมีประกาศปิดการจราจรโดยรอบบริเวณสนามหลวงตั้งแต่ 14.00 น. และเกรงทุกคนจะเดินทางลำบาก และนัดไต่สวนใหม่อีกครั้งเป็นวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560
ศาลนัดพร้อมในวันนี้ เบื้องต้นศาลแจ้งทนายจำเลยว่าศาลเห็นว่าจำเลยน่าจะต่อสู้คดีได้แล้ว จึงจะนัดวันสืบพยาน โดยศาลอ้างว่า ฤาชาสามารถพูดคุยรู้เรื่องตามปกติ เนื่องจากฤาชาสามารถตอบคำถามทั่วๆ ไปได้ เช่น มีครอบครัวไหม มีบุตรกี่คน บุตรทำงานหรือยัง ได้อาศัยอยู่กับบุตรของตัวเองไหม ศาลยังกล่าวอีกว่า ควรจะสู้คดีไปเสีย ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก หากไม่พอใจในคำตัดสินก็ให้ยื่นอุทธรณ์