- คดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, ฐานข้อมูลคดี
นริศราวัลถ์: โพสต์ข้อมูลเรื่องซ้อมทหารเกณฑ์
อัปเดตล่าสุด: 08/10/2561
ผู้ต้องหา
นริศราวัลถ์
สถานะคดี
ชั้นอัยการ
คดีเริ่มในปี
2559
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
ไม่มีข้อมูล
สารบัญ
วันที่ 26 กรกฎาคม 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน เข้าคุมตัว นริศราวัลถ์ หรือเมย์ หลานสาวพลทหารวิเชียร เผือกสม ซึ่งถูกทำโทษจนเสียชีวิตในค่ายทหารเมื่อปี 2554 ในฐานความผิดหมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ทหาร และความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ หลังจากที่เธอโพสต์ข้อมูลที่น้าชายถูกซ้อมทรมานจนเสียชีวิต ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ 2559 และได้รับการประกันตัวในวันที่ 27 กรกฎาคม 2559
วันที่ 24 มกราคม 2560 สำนักงานอัยการภาคเก้ามีคำสั่งไม่ฟ้องนริศราวัลถ์ และส่งสำนวนกลับไปให้ฝ่ายตำรวจพิจารณาลงความเห็นอีกครั้ง โดยฝ่ายตำรวจเห็นพ้องกับอัยการว่าจะสั่งไม่ฟ้องในความผิดตามมาตรา 14 (1) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่มีความเห็นแย้งให้สั่งฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ 328 และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14(5) ก่อนจะส่งสำนวนคดีพร้อมความเห็นไปที่สำนักงานอัยการสูงสุดให้เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
ภูมิหลังผู้ต้องหา
นริศราวัลถ์ อายุ 25 ปี จบการศึกษาจากคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุบันทำงานตำแหน่งเจ้าหน้าที่กรมกิจการเด็กและสตรี กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นริศราวัลถ์ เป็นหลานสาวของ พลทหารวิเชียร เผือกสม ที่ถูกทำโทษระหว่างการฝึกทหารใหม่จนเสียชีวิตในค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือ ค่ายปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อปี 2554 ซึ่งคดีของพลทหารวิเชียร คณะกรรมการ ป.ป.ท. ชี้ว่าทหาร 10 นายมีความผิด คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ ส่วนทางแพ่ง ศาลแพ่งสั่งให้กองทัพบกเป็นผู้ชดเชยเยียวยาค่าเสียหายแก่มารดาของพลทหารวิเชียร เป็นเงิน 7,049,213 บาท
ข้อหา / คำสั่ง
มาตรา 14 (1) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
นริศราวัลถ์ถูกกล่าวหา โพสต์ข้อมูลพาดพิงเกี่ยวกับการพิจารณาสั่งพักราชการทหาร ส่วนบางรายไม่สั่งพักราชการ ว่าอาจเป็นการเลือกปฏิบัติ ซึ่งโพสต์ไว้บนเฟซบุ๊กส่วนตัวในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2559
พฤติการณ์การจับกุม
26 กรกฎาคม 2559 ที่สน.มักกะสันเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่สภ.เมืองนราธิวาส ร่วมกันจับกุมตัวนริศราวัลถ์ โดยจับกุมที่กรมกิจการเด็กและเยาวชน ถนนนิคมมักกะสัน แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 11.00 น.
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
ไม่มีข้อมูล
หมายเลขคดีดำ
ไม่มีข้อมูล
ศาล
ศาลจังหวัดนราธิวาส
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข้อมูล
แหล่งอ้างอิง
ไม่มีข้อมูล
26 กรกฎาคม 2559
ประชาไท รายงานว่า เมื่อเวลา 12.30 น. นริศราวัลถ์ ถูกเจ้าหน้าที่ สน.มักกะสัน 3 นายเข้าควบคุมตัวในที่ทำงาน แสดงหมายจับข้อหาหมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โดยการจับกุมเป็นไปตามหมายจับที่ออกโดยศาลจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 ทั้งนี้ ตำรวจสถานีตำรวจมักกะสันแจ้งว่า แม้หมายจับออกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่ที่เพิ่งมีการจับกุมในวันนี้เพราะตำรวจจากนราธิวาสเพิ่งติดต่อมาวันนี้
ต่อมาเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนริศราวัลถ์เพื่อทำบันทึกการจับกุมที่ สน. มักกะสัน และเตรียมส่งตัวไปยังสภ.เมืองนราธิวาส เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีต่อไป
หลังจากนั้นเวลา 17.20น. นริศราวัลถ์ ออกมาจากห้องในสน.มักกะสัน หลังทำบันทึกการจับกุม ลงบันทึกประจำวันเสร็จสิ้น และให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสั้นๆ ก่อนถูกนำตัวส่ง สภ.เมืองนราธิวาส ตามหมายจับ เธอให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จะถูกแจ้งข้อหา หมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1)
27 กรกฎาคม 2559
ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ประกาศข่าวภาคสนามรายการข่าว 3 มิติ ทางไทยทีวีสีช่อง 3 โพสต์รายงานผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว 'Thapanee Ietsrichai' ว่านริศราวัลถ์ เดินทางไปถึง สภ.นราธิวาสแล้ว
กระทั่งกลางดึก ฐปณีย์ โพสต์รายงานผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวต่อไปอีกว่า นริศราวัลถ์ มารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.เมืองนราธิวาส และได้รับการประกันตัว เธอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในคดีที่มี ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษที่นั่น โดยผู้ร้องเป็นบุคคลที่ถูกพาดพิงว่าเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของพลทหารไม่ใช่ กอ.รมน.หรือหน่วยงานทหาร
17 สิงหาคม 2559
ประชาไท รายงานว่า เวลา 13.00 น. นริศราวัลถ์เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมนำพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องมอบให้พนักงานอัยการใช้ประกอบการพิจารณาและสั่งคดีต่อไปด้วยความเป็นธรรม
นริศราวัลถ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิของผู้ฟ้องที่จะใช้สิทธิในการฟ้องคดี ที่อาจทำให้เสียชื่อเสียงซึ่งก็ต้องหาหลักฐานมาแก้ตัวกัน แต่การมาสำนักงานอัยการสูงสุดวันนี้ก็เป็นสิทธิของตนที่จะขอความเป็นธรรม ซึ่งไม่ได้ว่าตนโดนข่มขู่หรือย่างไร ตนยินดีที่จะพิสูจน์ตัวเองในประเด็นที่ว่าตนตกเป็นผู้ต้องหาและต้องการได้รับความเป็นธรรมหรือการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าสิทธิผู้ต้องหา หรือสิทธิการดำเนินการต่างๆ
22 กันยายน 2559
ประชาไท รายงานว่า อัยการเจ้าของสำนวนแจ้งกับนริศราวัลถ์ด้วยวาจาว่า ได้พิจารณาสำนวนคดีแล้วและจะดำเนินการฟ้องนริศราวัลถ์ต่อศาลในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14(1) อย่างไรก็ตามอัยการยังไม่ได้ส่งสำนวนฟ้องต่อศาลอย่างเป็นทางการ
24 มกราคม 2560
บีบีซีไทย รายงานว่า อธิบดีอัยการภาค 9 มีความเห็นไม่สั่งฟ้อง นริศราวัลถ์ หลังจากที่รองอธิบดีอัยการภาค 9 และอัยการ จังหวัดนราธิวาสมีความเห็นไม่สั่งฟ้องไปก่อนหน้านี้ หลังอธิบดีอัยการภาค 9 มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง สำนวนคดีจะถูกส่งกลับไปให้กับ พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รักษาการราชการแทนผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อทำความเห็นว่าจะเห็นแย้งกับความเห็นสั่งไม่ฟ้องของอธิบดีอัยการภาค 9 หรือไม่
16 มีนาคม 2560
มติชนออนไลน์รายงานว่า เวลา 10.30 น. นริศราวัลถ์เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด (อสส.)ที่สำนักงานอัยการสูงสุดโดยพันธ์โชติ บุญศิริ อัยการพิเศษฝ่ายสอบสวนเป็นตัวแทนอัยการสูงสุดรับมอบหนังสือ
พันธ์โชติกล่าวว่าจะนำหนังสือของนริศราวัลถ์ส่งต่อให้อัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาต่อไป โดยตามขั้นตอนจะมีคณะทำงานพิจารณาหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ก่อนทำความเห็นส่งอัยการสูงสุดอีกครั้ง
เวลา 17.30 น. พล.ต.ต. พัฒนวุธ อังคะนาวิน รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยกับไอลอว์ว่า ได้รับมอบหมายจากพล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รักษาการราชการแทนผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นผู้ดูสำนวนคดีนี้ โดยกรณีที่อธิบดีอัยการภาค 9 มีคำสั่งไม่ฟ้องนริศราวัลถ์นั้น อัยการจะต้องส่งสำนวนกลับมาให้พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนให้ความเห็นอีกครั้งตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145/1
พล.ต.ต. พัฒนวุธเห็นพ้องกับอัยการว่าจะสั่งไม่ฟ้องนริศลาวัลถ์ในความผิดตามมาตรา 14 (1) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่มีความเห็นแย้งให้สั่งฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ 328 และความผิดจามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14(5) ฐานนำเข้าข้อมูลโดยรู้อยู่แล้วว่าข้อมูลดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14(1) – 14(4) จากนี้พล.ต.ต. พัฒนวุธจะส่งสำนวนคดีพร้อมความเห็นไปที่สำนักงานอัยการสูงสุดให้เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดและขอให้สอบเพิ่มเติมในประเด็นความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วย
คำพิพากษา
ไม่มีข้อมูล