ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ จัดกิจกรรม “อะไรก็ได้ เพื่อไผ่”

อัปเดตล่าสุด: 28/01/2560

ผู้ต้องหา

ชลธิชา

สถานะคดี

อื่นๆ

คดีเริ่มในปี

2560

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

ไม่มีข้อมูล

สารบัญ

ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ จัดกิจกรรม "อะไรก็ได้ เพื่อไผ่" ที่บริเวณสกายวอล์ก ราชประสงค์ เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2560 เรียกร้องให้ปล่อยตัวจตุภัทร์ หรือ "ไผ่ ดาวดิน" ที่ถูกคุมขังตามมาตรา 112 หลังเสร็จกิจกรรม ชลธิชา หนึ่งในผู้จัดงานถูกตำรวจจับกุมและปรับ 100 บาท ด้วยข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต

ภูมิหลังผู้ต้องหา

ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด เป็นนักศึกษาปริญญาโท สถาบันสิทธิมนุษยนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นสมาชิกของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ที่เข้าร่วมกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ คสช. เข้ายึดอำนาจการปกครองประเทศ และเป็น 1 ใน 14 ผู้ต้องหาในคดีมาตรา 116 ของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ที่เคยถูกจับกุมและคุมขังในเรือนจำ เป็นเวลา 12 วัน

ข้อหา / คำสั่ง

อื่นๆ
พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 มาตรา 4

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

18 มกราคม 2560 ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ จัดกิจกรรม "อะไรก็ได้ เพื่อไผ่" ที่บริเวณสกายวอล์ค สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลม และบริเวณหน้าแมคโดนัลด์ อมรินทร์พลาซ่า โดยใช้เครื่องขยายเสียงเป็นไมโครโฟนพร้อมลำโพงแบบพกพาขนาดเล็ก และโทรโข่ง 1 ตัว ทำให้ถูกตั้งข้อหาว่า โฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 มาตรา 4 ซึ่งมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 200 บาท 
 

พฤติการณ์การจับกุม

18 มกราคม 2560 เวลาประมาณ 18.00 หลังเสร็จกิจกรรม "อะไรก็ได้ เพื่อไผ่" ตำรวจสน.ลุมพินี ขอให้ชลธิชา หรือ ลูกเกด หนึ่งในสมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของตำรวจเพื่อไปที่ สน. ลุมพินี 
 
ในบันทึกการจับกุมระบุว่า พฤติการแห่งคดี คือ เจ้าพนักงานตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า มีผู้ใช้เครื่องขยายเสียงทำการโฆษณาอยู่ที่บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าอัมรินทร์ พลาซ่า ถ.เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณดังกล่าว พบผู้ต้องหากำลังใช้เครื่องขยายเสียง (โทรโข่ง) ประกาศโฆษณาแก่ประชาชนทั่วไปอยู่โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อขอตรวจสอบใบอนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง แต่ปรากฏว่าผู้ต้องหาไม่มีใบอนุญาตใช้เครื่องขยายเสียงแต่อย่างใด 

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ไม่มีข้อมูล

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
18 มกราคม 2560
 
เวลาประมาณ 17.00 น. ประชาชนประมาณ 20-30 คน รวมตัวกันบริเวณสกายวอล์คช่วงกลางสี่แยกราชประสงค์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบตรึงกำลังบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เมื่อประชาชนจำนวนหนึ่งเริ่มชูป้ายกระดาษมีข้อความเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้กับจตุภัทร์ ตำรวจก็มาเจรจาขอให้หลบออกจากบริเวณดังกล่าว เพราะจะขวางทางเดินของผู้คนที่เดินไปมา ประชาชนกลุ่มดังกล่าวจึงเดินหลบมาทางสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลม ในช่วงที่พื้นที่สกายวอล์คค่อนข้างกว้างกว่า และเริ่มกิจกรรมต่อ
 
ขณะเดียวกัน สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่หลายคน เช่น รังสิมันต์ โรม, สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์, กรกช แสงเย็นพันธ์ ก็เดินทางมาถึงพร้อมกับป้ายไวนิลเรียกร้องให้ปล่อยตัวจตุภัทร์ สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่กล่าวกับประชาชนที่มาร่วมแสดงออกผ่านลำโพงแบบพกพาและไมโครโฟนขนาดเล็ก เชิญชวนให้ประชาชนมารับป้ายกระดาษ และข้าวหลาม ไปใช้เป็นสัญลักษณ์เรียกร้องให้ปล่อยตัววจตุภัทร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกระจายกำลังอยู่โดยรอบ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดยพ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ  รองผู้บัญชาการกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เข้าเจรจากับขบวนการประชาธิปไตยใหม่และประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมเป็นพักๆ ซึ่งทางขบวนการประชาธิปไตยใหม่ มีชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด เป็นตัวแทนเข้าเจรจาพูดคุยกับเข้าหน้าที่
 
กิจกรรมดำเนินอยู่บนสกายวอล์คได้ประมาณ 20 นาที ทุกคนก็ย้ายลงมาบริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ อาคารอัมรินทร์ พลาซ่า โดยมีสิรวิชญ์ เป็นผู้ปราศรัยและให้ข้อมูลผ่านเครื่องขยายเสียงเป็นหลัก นอกจากการปราศรัย ชูป้ายไวนิล และชูป้ายกระดาษแล้ว ยังมีการทำกิจกรรมต่อจิ๊กซอว์ และกิจกรรมเขียนโปสการ์ดให้กำลังใจจตุภัทร์ บริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ด้วย 
 
จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.40 น. ตำรวจได้เข้าเจรจากับสิรวิชญ์ ที่กำลังประกาศผ่านไมโครโฟนอยู่ เพื่อขอให้ยุติกิจกรรม แต่สิรวิชญ์และประชาชนยังพยายามดำเนินกิจกรรมต่อไป โดยมีชลธิชา เป็นผู้เข้ามาเจรจากับตำรวจแทน และหลังจากนั้นไม่นาน สิรวิชญ์และรังสิมันต์ ก็ประกาศเสร็จสิ้นกิจกรรมของวันนั้น
 
หลังเสร็จกิจกรรมตำรวจขอให้ชลธิชานั่งรถมอเตอร์ไซค์ของตำรวจไปที่สน.ลุมพินี เพื่อเสียค่าปรับฐานใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งชลธิชาก็ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของตำรวจไป
 
ที่สถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ทำบันทึกการจับกุมชลธิชา และแจ้งข้อกล่าวหาฐานโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 มาตรา 4 ชลธิชายอมรับสารภาพตามข้อกล่าวหา และเจ้าหน้าทีสั่งให้จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 100 บาท
 
ระหว่างที่ตำรวจกำลังทำเอกสาร และชลธิชาก็นั่งรออยู่นั้น มีชายไม่ทราบสังกัด ไม่แต่งเครื่องแบบ เดินเข้ามาถ่ายภาพในห้องพนักงานสอบสวน ชลธิชาจึงร้องทักขึ้นว่าเป็นใคร สังกัดหน่วยงานไหน และจะมาถ่ายภาพไปทำอะไร ชายคนดังกล่าว ถ่ายภาพเสร็จก็เดินออกไปโดยไม่ได้ตอบคำถามอะไร ขณะที่ตำรวจก็แจ้งเพียงว่า เขามาถ่ายภาพการทำงานของตำรวจ อีกไม่กี่นาทีต่อมา ก็มีชายในเครื่องแบบทหารชุดลายพรางเดินเข้ามาทางประตูอีกฝั่งหนึ่ง ชลธิชาจึงร้องทักขึ้นอีกครั้ง และชายในชุดทหารก็เดินเข้ามาถ่ายภาพชลธิชาและเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแล้วเดินออกไป
 
ตำรวจสน.ลุมพินี ทำเอกสารบันทึกการจับกุม และออกใบเสร็จรับค่าปรับเสร็จในเวลาประมาณ 19.00 เพื่อให้ชลธิชาลงชื่อ และปล่อยตัวกลับบ้าน โดยตำรวจยังอาสาจะพาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์กลับไปส่งบริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอส แต่ชลธิชาปฏิเสธ
 
 
 

IMG_3401

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา