- คดีชุมนุม, ฐานข้อมูลคดี
ชาวบ้านพิจิตรชุมนุมค้านเหมือง
อัปเดตล่าสุด: 04/04/2560
ผู้ต้องหา
ชาวบ้านพิจิตรจำนวน 27 คน
สถานะคดี
ชั้นศาลชั้นต้น
คดีเริ่มในปี
2559
โจทก์ / ผู้กล่าวหา
บริษัท อัครรา รีซอสเซสต์ จำกัด
สารบัญ
ในเดือนกรกฎาคม 2559 ชาวบ้านในจังหวัดพิจิตรจำนวนหนึ่งรวมตัวกันบริเวณทางสาธารณะขณะที่รถขนแร่ของบริษัทอัครากำลังสัญจรอยู่ บริษัทจึงให้ตัวแทนไปร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีในความผิดฐานบังคับข่มขืนใจผู้อื่นโดยอ้างว่าชาวบ้านปิดกั้นไม่ให้รถของบริษัทผ่านทาง ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องชาวบ้าน 27 คนในความผิดฐานบังคับข่มขืนใจผู้อื่นและฟ้องในความผิดตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯเพิ่มเติมด้วย
ภูมิหลังผู้ต้องหา
ไม่มีข้อมูล
ข้อหา / คำสั่ง
พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309, พ.ร.บ.ชุมนุมมาตรา 16(2)
การกระทำที่ถูกกล่าวหา
ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2559 ชาวบ้านขัดขวางไม่ให้รถของเหมืองอัครราสัญจรไปในทางสาธารณะจึงเข้าข่ายเป็นการบังคับข่มขืนใจผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 และเป็นการรวมตัวชุมนุมในที่สาธารณะโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่จึงเป็นความผิดฐานไม่แจ้งการชุมนุมตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ ชาวบ้านบางส่วนปิดหน้าระหว่างการรวมตัวจึงเป็นความผิดฐานปิดบังหรืออำพรางตน
พฤติการณ์การจับกุม
ชาวบ้าน 27 คนได้รับหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตำรววจภูธรทับคล้อ ในข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ หรือไม่กระทำการใด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 ชาวบ้านไปรายงานตัวตามหมายจึงไม่มีการจับกุม
บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล
ไม่มีข้อมูล
หมายเลขคดีดำ
ไม่มีข้อมูล
ศาล
ศาลจังหวัดพิจิตร
เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ภาพcover จากเฟซบุ๊กของ Chainarong Sretthachau ต้นฉบับจาก เครือข่ายผู้ป่วยจากเหมืองทองจังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์
แหล่งอ้างอิง
ไม่มีข้อมูล
19 กรกฎาคม 2559
ตามคำกล่าวของบริษัทอัคราที่ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน วันนี้เป็นชาวบ้านในจังหวัดพิจิตรก่อเหตุรวมตัวปิดกั้นทางสาธารณะไม่ให้รถของบริษัทผ่านทาง
พฤศจิกายน 2559
ชาวบ้าน 27 คน ได้รับหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจภูธรทับคล้อ ด้วยข้อหาการร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ หรือไม่กระทำการใด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309
9 กุมภาพันธ์ 2560
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องชาวบ้านทั้ง 27 คน ในความผิดฐานไม่แจ้งจัดการชุมนุมตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯและความผิดฐานบังคับข่มขืนใจผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 นอกจากนี้ก็มีชาวบ้านบางส่วนถูกดำเนินคดีในความผิดฐานปิดบังอำพรางใบหน้าตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ ขณะที่แกนนำชาวบ้านถูกฟ้องในความผิดฐานเป็นผู้จัดการชุมนุมแต่ไม่ควบคุมผู้ชุมนุมเพิ่มเติมด้วย
ชาวบ้านทั้งหมดขอประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์จากกองทุนยุติธรรมรายละ 1 แสนบาท เบื้องต้นศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากมีการฟ้องข้อกล่าวหาเพิ่มเติม แต่ภายหลังศาลก็อนุญาตให้ประกันทั้งหมด
20 มีนาคม 2560
นัดสอบคำให้การ
ศาลจังหวัดพิจิตรนัดจำเลยทั้ง 27 คนสอบคำให้การ ทั้งหมดให้การปฏิเสธและขอต่อสู้คดี ศาลนัดคู่ความสืบพยานระหว่างวันที่ 12-14 กันยายน 2560 และ 19-22 กันยายน 2560
คำพิพากษา
ไม่มีข้อมูล