เอกชัย: เล่าเรื่องเพศสัมพันธ์ในเรือนจำ

อัปเดตล่าสุด: 19/06/2565

ผู้ต้องหา

เอกชัย

สถานะคดี

ชั้นศาลฎีกา

คดีเริ่มในปี

2561

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

ไม่มีข้อมูล

สารบัญ

เอกชัย อดีตนักโทษคดีมาตรา 112 และนักเคลื่อนไหวที่แสดงออกทางการเมืองในทางตรงข้ามกับคสช. อย่างต่อเนื่อง ถูกดำเนินคดีในความผิดฐานนำเข้าข้อมูลลามกอนาจาร ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(4) จากโพสต์เฟซบุ๊กเก่าของเขาที่เล่าประสบการณ์เพศสัมพันธ์ในเรือนจำ โดยช่วงที่มีการดำเนินคดีเป็นช่วงที่เอกชัยกำลังเคลื่อนไหวเรื่องนาฬิกาของรองหัวหน้า คสช.
 
จำเลยได้ประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดี ต่อมาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยสามารถใช้วิธีเขียนข้อความในลักษณะอื่นได้ที่ไม่เข้าข่ายลามกอนาจาร การกระทำของจำเลยจึงถือเป็นความผิด ให้ลงโทษจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา หลังศาลอุทธรณ์พิพากษาจำเลยถูกส่งตัวเข้าเรือนจำทันทีในวันที่ 19 เมษายน 2565
 
 

ภูมิหลังผู้ต้องหา

เอกชัย หงษ์กังวาน ขณะเริ่มคดีนี้อายุ 39 ปี ประกอบอาชีพรับจ้างอิสระ โดยก่อนหน้านี้เอกชัยเคยถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 จากการขายซีดีสารคดีของสำนักข่าว ABC และแจกเอกสารจากวิกิลีกส์ 9 ตุลาคม 2558 ศาลฎีกาพิพากษาให้เอกชัยต้องรับโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยเขาถูกจองจำอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพตั้งแต่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา ในเดือนมีนาคม 2556 จนได้รับการปล่อยตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558
 
เอกชัย เคยทำอาชีพขาย "หวยบนดิน" จนกระทั่งมีความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทำให้อาชีพนี้ถูกยกเลิกไป เขาติดตามการเมืองในฐานะเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดยตรง และเป็นผู้เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับกลุ่มคนเสื้อแดง

หลังถูกปล่อยตัวจากเรือนจำ เอกชัยยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองในทางที่ไม่เห็นด้วยกับการปกครองของ คสช. และใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งใช้เฟซบุ๊กของตัวเองบอกเล่าประสบการณ์ และเรื่องเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เคยพบเจอระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำด้วย
 
เอกชัย ทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองเชิงสัญลักษณ์หลายครั้ง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ไม่ได้ขัดต่อกฎหมาย แต่สร้างความลำบากใจให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เช่น การประกาศจะนำหมุดคณะราษฎรจำลองไปใส่ไว้แทนที่ "หมุดหน้าใส" การประกาศว่าจะใส่เสื้อแดงในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพรัชกาลที่ 9 จนกระทั่งในช่วงเดือนมกราคม 2561 ระหว่างที่มีกระแสเรื่องนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองหัวหน้า คสช. ที่ไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สิน เอกชัยก็ทำกิจกรรมเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อมอบนาฬิกาของตัวเองให้กับ พล.อ.ประวิตร ติดต่อกันอยู่หลายวัน จนกระทั่งถูกดำเนินคดีนี้
 
 

ข้อหา / คำสั่ง

มาตรา 14 (4) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

ในชั้นสอบสวน พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาว่า เอกชัยมีความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันมีลักษณะลามกอนาจาร จากการโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2560 เวลา 9.47 น. โดยมีข้อความดังนี้
 
"ชีวิตในเรือนจำครั้งแรกของผม (9)
 
ผมเข้านอนทันทีหลังจากเจ้าหน้าที่เรือนจำปิดโทรทัศน์ ฝนเริ่มตก เสียงฟ้าร้องดังเป็นระยะๆ อุณหภูมิค่อยๆลดลง ผู้ต้องขังที่ยกที่นอนให้กับผมจึงแบ่งผ้าห่มผืนใหญ่ของเขาให้กับผมห่มร่วมกับเขา แต่ผมปฏิเสธ
 
ผมนอนหันหลังให้กับผู้ต้องขังที่ยกที่นอนให้กับผม สักพักเขายื่นแขนมาพาดบนขาของผม ผมรู้เจตนาของเขาทันที ผมจึงปล่อยให้เขาวางแขนพาดขาของผมต่อไป
 
ต่อมาเขาเริ่มรุกหนักมากขึ้น มือของเขาลูบขาของผม ผมยังคงนิ่งเฉย และปล่อยให้เขาลูบต่อไป เขาลูบขาของผมมากขึ้นเรื่อยๆจนผมทนไม่ไหวจึงใช้มือตีที่แขนของเขา
 
เขารีบชักแขนทันที และนิ่งเงียบไปสักพัก คราวนี้ผมจึงเป็นฝ่ายรุกบ้าง ผมเอื้อมมือไปด้านหลังเพื่อจับอวัยวะเพศของเขา ผมคลึงอวัยวะเพศจนเขาเกิดอารมณ์ทางเพศ

"พี่หันมาหน่อย" เขากระซิบข้างหูของผม
ผมหันหน้ามาทางเขา เขามองหน้าผม

"พี่ช่วยทำให้หน่อยซิ"

"บ้า! คนเยอะแยะ"

"ไม่เป็นไรหรอกพี่ ไม่มีใครเห็นหรอก"

เขาใช้ผ้าห่มของเขาคลุมโปงผม พวกเราอยู่ใต้ผ้าห่มที่คลุมมิดจนถึงศรีษะ ภายใต้ผ้าห่มนี้เขาเริ่มถลกกางเกงของเขาลง อวัยวะเพศของเขาแข็งตัวเต็มที่
 
"พี่โม๊กให้หน่อยซิ"

"ไม่เอา พี่ไม่ชอบโม๊ก พี่ทำให้ก็แล้วกัน เดี๋ยวเธอไปล้างเอาเอง เธอมีอะไรใส่น้ำของเธอไหม ?"

เขาควานหาถ้วยที่หัวนอนของเขา เขาหยิบถ้วยโจ๊กคนอร์ออกมา

"เดี๋ยวพี่ทำให้แล้วใส่น้ำในนี้นะ"

ผมบรรจงสาวมือสำเร็จความใคร่ให้กับเขา สีหน้าของเขาเคลิบเคลิ้ม เขาถลกเสื้อของเขาขึ้นจนถึงคอ

"พี่ดูดหัวนมให้หน่อย"
 
เขายื่นหัวนมด้านซ้ายของเขาให้ผม ผมดูดหัวนมของเขาพร้อมกับสาว
มือสำเร็จความใคร่ให้กับเขา เขาส่งเสียงครวญครางเบาๆ 

สักพักเขาจูบปากของผม เขาสอดลิ้นเข้ามาในปากของผม กลิ่นบุหรี่ในปากของเขารุนแรงมากจนผมต้องกลั้นหายใจ

เขาคว้าถ้วยโจ๊กคนอร์มารองใต้อวัยวะเพศของเขา น้ำอสุจิของเขาหลั่งออกมาในถ้วยนี้ ภารกิจนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเพื่อเลี่ยงการรับรู้ของผู้ต้องขังร่วมห้อง

เขาถลกเสื้อ-กางเกงกลับ และคว้าถ้วยโจ๊กคนอร์ไปที่บล็อกห้องน้ำเพื่อทำความสะอาด ผมดึงผ้าห่มลง และหันกลับมานอนท่าเดิมราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

หลังจากที่เขาทำความสะอาดเสร็จ เขาเดินกลับมาที่จุดนอนของเขา และดึงผ้าห่มมาคลุมโปงผมอีกครั้ง

"พี่ ผมอยากคุยด้วย"

ผมหันหน้ามาหาเขา

"พี่ มีคนสนใจพี่นะ"

ตอนนั้นผมรู้สึกโกรธเล็กน้อย และคิดในใจ มึงเห็นกูเป็นคนใจง่ายหรือว่ะ (จริงๆก็เป็นแบบนั้นแหละ)

"ไม่เอา ไม่ว่าใครก็ไม่เอาทั้งนั้น"
เขานิ่งไปซักพัก เขาคงกลัวผมจะโกรธเขา

"พี่ ผมมีเมีย-ลูกแล้วนะ แต่ผมจะเลิกกับเธอ"
"เธออายุเท่าไร่ ?"
"18"

เขาเป็นคนผิวขาวที่ดูสะอาด แต่ใบหน้าของเขาบ่งบอกอายุที่มากกว่า 25 ปี ไม่รู้เขาจะโกหกผมเพื่ออะไร

"พี่ไม่เชื่อว่าเธออายุ 18"
เขานิ่งไปซักพัก ผมหมั่นไส้เขาจึงล้วงมือเข้าไปในกางเกงเพื่อขยำอวัยวะเพศของเขาอีกครั้ง

"ขอพี่จับหน่อยนะ พี่ชอบจับนะ ไม่ต้องแข็งนะ"
"มันแข็งนะพี่"

เขาถลกกางเกงลง อวัยวะเพศของเขาแข็งตัวเต็มที่
"พี่ อยากเย็ดตูดพี่นะ"
"เพิ่งทำไปเองไม่ใช่หรอ"

"ผมยังไหวนะพี่"
"บอกแล้วไง พี่แค่จับเล่นๆเท่านั้น"
ผมดึงผ้าห่มลง และหันหน้ากลับ เขาจึงหันหน้ากลับและนอน"
 
 

พฤติการณ์การจับกุม

วันที่ 8 มีนาคม 2561 เอกชัยเดินทางไปรายงานตัวต่อพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ด้วยตัวเอง พนักงานสอบสวนไม่ได้จับกุม และปล่อยตัวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ประกันตัว
 

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

อ.900/2562

ศาล

ศาลอาญา

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
12 มกราคม 2561 
 
ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า เวลาประมาณ 16.00 น.พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางไปที่ศาลอาญาเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายจับเอกชัยในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการโพสต์เฟซบุ๊กที่มีเนื้อหาเข้าข่ายลามกอนาจาร โดยที่การขออนุมัติหมายจับครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเอกชัยทำกิจกรรม มอบของขวัญให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณไม่นาน 
 
ในเวลาประมาณ 17.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ เดินทางกลับโดยกล่าวสั้นๆ ว่า ศาลไม่อนุมัติหมายจับเพราะเห็นว่า ควรมีการออกหมายเรียกให้เอกชัย มารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนก่อน หากผู้ต้องหาไม่มาตามหมายเรียกจึงค่อยออกหมายจับทีหลัง
 
17 มกราคม 2561
 
เอกชัย ได้รับหมายเรียกจากตำรวจ ระบุข้อกล่าวหาว่า นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันลามกอนาจาร และสั่งให้เอกชัยไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 19 มกราคม 2561 เวลา 13.30 น.
 
เอกชัย โพสต์ภาพหมายเรียกลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว  โดยตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เดินทางไปขอออกหมายจับในช่วงเย็น เพื่อหวังจะจับเขาในช่วงเย็น และตามหมายเรียกฉบับนี้ก็นัดให้เขาไปพบพนักงานสอบสวนในช่วงบ่าย การดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆอาจใช้เวลาหลายชั่วโมง และกว่าปอท. จะส่งตัวเขาไปฝากขังที่ศาลได้ก็อาจเป็นเวลา 16.00 น.แล้ว จึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะเตรียมหลักทรัพย์ประกันตัวทันเวลา
 
ในเวลาต่อมาเอกชัยปรึกษากับทนายความและขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาออกไปก่อน หลังจากนั้นทางตำรวจออกหมายเรียกเป็นครั้งที่สอง ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 นัดให้เอกชัยไปพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 แต่เอกชัยก็ขอเลื่อนออกไปอีกครั้ง
 
8 มีนาคม 2561 
 
เอกชัยพร้อมทนายเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ปอท. ในเวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนแจ้งว่า เอกชัยถูกตั้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันมีลักษณะลามกอนาจารตามมาตรา 14(4) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 

สำหรับการกระทำอันเป็นเหตุแห่งคดีพนักงานสอบสวนแจ้งว่าเป็นข้อความที่เขาโพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ในเรือนจำ โดยข้อความดังกล่าวโพสต์เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2560

หลังรับทราบข้อกล่าวหเอกชัยให้การปฏิเสธและแจ้งว่าจะทำคำให้การในรายละเอียดเป็นหนังสือยื่นต่อพนักงานสอบสวนภายใน 30 วัน
 
พนักงานสอบสวน ได้แจ้งว่าในวันนี้จะไม่มีการจับกุม และไม่พาเอกชัยไปศาลเพื่อขออำนาจศาลฝากขัง เนื่องจากเชื่อใจและเห็นว่าเอกชัยก็มารายงานตัวด้วยตัวเอง พนักงานสอบสวนจึงใช้ดุลพินิจปล่อยตัวโดยไม่ต้องมีหลักประกัน และหากทำสำนวนสอบสวนเสร็จเรียบร้อยจะนัดให้เอกชัยมาพบในภายหลัง
 

 

23 เมษายน 2562 

 

เอกชัยเข้าพบอัยการตามนัด และอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง ในข้อหาความผิดตามพ...คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(4) และถูกพาตัวไปส่งฟ้องที่ศาลอาญา .รัชดาภิเษก เอกชัยให้การปฏิเสธและต่อสู้คดี พร้อมกับยื่นขอประกันตัวในระหว่างการพิจารณาคดี ศาลอนุญาตให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 100,000 บาท และนัดให้มาตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 17 มิถุนายน 2562

 

 

17 มิถุนายน 2562

 

นัดตรวจพยานหลักฐาน

 

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เมื่อศาลขึ้นนั่งบัลลังก์พิจารณาคดี ได้สอบถามคู่ความทั้งสองฝ่าย และได้อธิบายฟ้องให้จำเลยฟัง โดยจำเลยได้ให้การปฏิเสธ คดีนี้โจทก์ได้อ้างส่งพยานเอกสารจำนวน 5 รายการ ขณะที่ฝั่งจำเลยยังไม่อ้างพยานเอกสารและพยานวัตถุในชั้นนี้

 

โจทก์แถลงต่อศาลว่า ประสงค์สืบพยานบุคคลจำนวน 5 ปาก ได้แก่ เจ้าหน้าที่ผู้การกล่าวหาจำเลย, เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบข้อความจากเฟสบุ๊กของจำเลยและนำส่งให้ผู้บังคับบัญชานำมาฟ้องร้องจำเลย, อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ในฐานะพยานผู้เชี่ยวชาญ และพนักงานสอบสวน 2 นายในคดีนี้

 

ด้านจำเลยและทนายความได้แถลงแนวทางการต่อสู้คดีว่า จำเลยไม่ได้กระทำความตามที่โจทก์ฟ้อง โดยยอมรับว่าได้โพสต์ข้อความดังกล่าวเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์จริง แต่ข้อความดังกล่าวไม่ได้มีลักษณะลามกตามที่โจทก์กล่าวหา และจะขอสืบพยานจำเลย 2 ปาก คือ ตัวจำเลยเอง และดร.อิสระ ชูศรี นักวิชาการด้านภาษาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล

 

นอกจากนี้จำเลยได้ยื่นขอให้ศาลพิจารณาคดีลับหลังจำเลย เนื่องจากจำเลยยังมีภาระที่ต้องทำงาน และดูแลมารดาที่ชราภาพ ไม่สามารถเดินทางมาร่วมพิจารณาคดีได้ อีกทั้งจำเลยถูกดักทำร่ายอย่างต่อเนื่อง จนครั้งล่าสุดคนร้ายก่อเหตุอุกอาจรุมทำร้ายถึงหน้าศาลอาญาในวันที่มีนัดคีดอื่น ทำให้วันนี้เขายังคงต้องสวมเฝือกและเดินทางมาศาลด้วยความยากลำบาก ศาลจึงอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลย และนัดสืบพยาน 2 วัน คือวันที่ 28-29 เมษายน 2563

 

22 มิถุนายน 2563

 

นัดพร้อมเพื่อกำหนดวันสืบพยาน 

 

ศาลขึ้นนั่งบัลลังก์พิจารณาคดี โดยได้สอบถามคู่ความทั้งสองฝ่าย และได้อธิบายฟ้องให้จำเลยฟัง โดยจำเลยได้ให้การปฏิเสธ
 
คดีนี้โจทก์ได้อ้างส่งพยานเอกสารจำนวน 5 รายการ ในส่วนของพยานบุคคล โจทก์ประสงค์สืบพยานบุคคลจำนวน 5 ปาก ได้แก่ เจ้าหน้าที่ที่ทำการกล่าวหาจำเลย, เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบข้อความจากเฟสบุ๊กของจำเลยและนำส่งให้ผู้บังคับบัญชานำมาฟ้องร้องจำเลย, อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ในฐานพยานผู้เชี่ยวชาญ และพนักงานสอบสวน 2 นายในคดีนี้
 
ด้านจำเลยและทนายความได้แถลงแนวทางการต่อสู้คดีว่า จำเลยไม่ได้กระทำความตามที่โจทก์ฟ้อง โดยยอมรับว่าได้โพสต์ข้อความดังกล่าวเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์จริง แต่ข้อความดังกล่าวไม่ได้มีลักษณะลามกตามที่โจทก์กล่าวหา และจะขอสืบพยานจำเลย 2 ปาก คือเอกชัย หงส์กังวาน ที่เบิกตัวเองเป็นพยาน และดร.อิสระ ชูศรี นักวิชาการด้านภาษาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล
 
กำหนดนัดสืบพยาน 2 วัน คือวันที่ 28-29 เมษายน 2563

 

 

28 เมษายน 2564

 

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศาลอาญา มีนัดฟังคำพิพากษา 2 คดี ได้แก่ คดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งเอกชัย หงส์กังวาน ตกเป็นจำเลยกรณีโพสต์เรื่องเพศในเรือนจำ และคดีหมิ่นประมาทกองทัพ ที่มีเอกชัย หงส์กังวาน และโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ สองนักเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นจำเลย จากการเดินทางไปบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ทำการไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์ คสช. และกองทัพ พร้อมเรียกร้องไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
 
คดีแรก ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุก 1 ปี ไม่รอลงในอาญา จากนั้นอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ โดยใช้หลักทรัพย์เดิม 100,000 บาท ส่วนคดีหมิ่นประมาทกองทัพ ศาลพิพากษายกฟ้อง
 

 

19 เมษายน 2565

 

ศาลอุทธรณ์นัดเอกชัย หงษ์กังวาน ฟังคำพิพากษาที่ห้องพิจารณาคดี 802 ศาลอาญา เอกชัยและทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเดินทางมาถึงศาลอาญาในเวลา 9.00 น. แต่ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาคดีอื่นก่อนหลายคดี จากนั้นจึงมาอ่านคำพิพากษาคดีนี้ในเวลาประมาณ 11.30 น.
 
ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อย่างย่อซึ่งสรุปได้ว่า จำเลยต่อสู้คดีว่าข้อความที่จำเลยโพสต์ไม่ได้เป็นข้อความลามกอนาจาร หากแต่เป็นการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ทั่วไป ซึ่งศาลอุทธรณ์เห็นว่าข้อต่อสู้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น เพราะหากจำเลยต้องการจะวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวความเป็นอยู่ในเรือนจำ จำเลยสามารถเลือกใช้ถ้อยคำอื่นได้ แต่ถ้อยคำที่จำเลยโพสต์ไม่ใช่ข้อความที่วิญญูชนคนทั่วไปพึงจะใช้ในการวิพากษ์วิจารณ์ แต่เป็นข้อความอันเข้าข่ายลามกอนาจาร จำเลยจึงต้องรับผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(4) พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุกจำเลยเป็นเวลาหนึ่งปี
 
ภายหลังฟังคำพิพากษา ทนายความของเอกชัยรีบไปดำเนินการขอปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นฎีกา
 
ต่อมาเวลา 16.35 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายผ่านทวิตเตอร์ว่า หลังยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราวจำนวน หนึ่งแสนบาท เพื่อต่อสู้คดีในชั้นฎีกา ศาลอาญามีคำสั่งให้ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณาคำสั่งประกันซึ่งต้องใช้ระยะเวลาอีกสองถึงสามวัน ทำให้ในวันนี้เอกชัยจะถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
 
 
 
 

 

คำพิพากษา

 

สรุปคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยโพสข้อความเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เครือข่ายสังคมออนไลน์ใช้ชื่อเฟซบุ๊กของจำเลยว่า เอกชัย หงส์กังวาน โดยมีข้อความบรรยายในลักษณะลามก เฟซบุ๊กของจำเลยตั้งค่าความเป็นส่วนตัวแบบสาธารณะซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปดูข้อมูลโพสได้ และมีบุคคลอื่นมากดถูกใจ แสดงความคิดเห็น และแชร์ข้อความดังกล่าว 
 
คำว่าลามก เป็นคำสามัญที่ไม่มีการนิยามศัพท์ไว้โดยเฉพาะ แต่เป็นคำที่ใช้เป็นองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 ดังนั้นข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ จะมีลักษณะลามกหรือไม่จึงต้องใช้มาตรฐานเดียวกันกับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287 ซึ่งหมายความว่า หยาบช้า ต่ำทราม หยาบโลน สิ่งที่น่าอับอายในทางเพศ น่าอุจาดบัดสี อันเป็นที่น่ารังเกียจของคนดีมีศีลธรรม ดังนั้น การที่จำเลยโดยข้อความโดยบรรยายว่า “พี่โม๊กให้หน่อยซิ” “พี่ดูดหัวนมให้หน่อย” “พี่ อยากเย็ดตูดพี่นะ” “เขายื่นหัวนมด้านซ้ายของเขาให้ผม ผมดูดหัวนมของเขาพร้อมกับสาวมือสำเร็จความใคร่ให้กับเขาเขาส่งเสียงครวญครางเบาๆ สักพักเขาจูบปากของผม เขาสอดลิ้นเข้ามาในปากของผม” เมื่อพิจารณาประกอบกับเนื้อหาที่ปรากฏแล้วมีลักษณะสื่อไปในทางลามกอนาจาร 
 
ดังนั้น เมื่อจำเลยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อความดังกล่าว และประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ที่จำเลยอ้างว่าจำเลยไม่มีเจตนากระทำความผิดเพราะจำเลยกระทำไปเพื่อเผยแพร่เรื่องราวชีวิตในเรือนจำของจำเลย เพื่อสะท้อนปัญหาในเรือนจำจริง จำเลยก็สามารถใช้ข้อความสื่อความหมายออกมาในลักษณะอื่นอันมิใช่ลักษณะลามกอนาจารได้ 
 
ได้ความจากจำเลยเบิกความตอบโจทก์ถามค้านว่า สาเหตุที่จำเลยเขียนเรื่องราวออกมาในแนวดังกล่าวเพื่อเอาใจประชาชนผู้ชื่นชอบหนังประเภทชายรักชายและกำลังเป็นที่ได้รับความนิยม จึงบ่งชี้ให้เห็นเจตนาของจำเลยว่าประสงค์จะเผยแพร่ข้อความอันมีลักษณะลามก พยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง
 
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(4) จำคุก 1 ปี เพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญมาตรา 92 หนึ่งในสาม ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 หน่ึงในสาม โดยที่ส่วนของการเพิ่มเท่ากับส่วนของการลด เห็นสมควรไม่เพิ่มไม่ลดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 54 คงจำคุก 1 ปี 
 
 

สรุปคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

ข้อความต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จำเลยโพสตั้งค่าสาธารณะลงในเฟซบุ๊กของจำเลยเอง เป็นการโพสใช้ถ้อยคำกล่าวถึงการมีเพศสัมพันธ์ของจำเลยกับนักโทษชายอื่นในระหว่างต้องขังคดีอื่นในเรือนจำอย่างโจ่งแจ้ง ผิดวิสัยของวิญญูชนผู้รู้ผิดชอบตามปกติพึงปฏิบัติ หากจะสะท้อนปัญหาในเรือนจำให้ได้รับการแก้ไขดังที่จำเลยต่อสู้ เพราะสามารถใช้ถ้อยคำอื่นที่เหมาะสมสื่อความหมายได้ เห็นได้ชัดในตัวว่าข้อความเช่นนี้สื่อไปในทางลามกอนาจาร เป็นที่น่ารังเกียจของปกติชนทั่วไปในด้านศีลธรรมจรรยา ตามพฤติการณ์แห่งการกระทำของจำเลย โดยมีการตั้งค่าเฟซบุ๊กเป็นสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ มีน้ำหนักมั่นคง รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิดจริงตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
 

 

ที่จำเลยอุทธรณ์ตอนท้ายขอให้ลงโทษสถานเบานั้น เมื่อพิจารณาตามพฤติการณ์แห่งคดี เปรียบเทียบกับอัตราโทษความผิดตามบทบัญญัติกฎหมายแล้วเห็นว่า ศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดโทษหนักเกินไป ไม่มีเหตุให้แก้ไข ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ข้ออื่น เพราะไม่เป็นสาระให้ผลคำพิพากษาเปลี่ยนแปลง
 
 

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา