- เว็บไซต์ไอลอว์
- ศูนย์ข้อมูลฯ
ฐานข้อมูลคดี

ชื่อคดี
ผู้ต้องหา
เนติวิทย์
สถานะคดี
คำอธิบายสถานะคดี ภาษาไทย
ตัดสินแล้ว / คดีถึงที่สุด
สถานะผู้ต้องหา
ยกฟ้อง
ข้อหา / คำสั่ง
พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558, อื่นๆ (คำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558, พ.ร.บ.จราจรทางบก)
เนื้อหาคดีโดยย่อ
ภูมิหลังผู้ต้องหา
พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ รับมอบอำนาจจากคสช.มาร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ต้องหาคดีนี้
ข้อกล่าวหา
ชุมนุม มั่วสุม ก่อความวุ่นวาย
-
รูปแบบการจำกัดเสรีภาพ
การดำเนินคดี
-
ประเภทสื่อ
การชุมนุมสาธารณะ
-
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
-
ศาล
ศาลแขวงดุสิต
ร่วมกันเป็นผู้ชุมนุมก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะอันเป็นที่ชุมนุม หรือทําให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนเกินที่พึงคาดหมายตามเหตุอันควร
เดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายการชุมนุมระหว่างเวลา 18.00-06.00 น.ของวันรุ่งขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต, ไม่เลิกการชุมนุมสาธารณะภายในระยะเวลาที่ผู้จัดการชุมนุมได้แจ้งไว้ ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มาตรา 16 (1) (8) และ มาตรา 18,
เดินเป็นขบวนในลักษณะการกีดขวางการจราจร หรือกระทําการด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 108, 114 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
โดยในขณะเคลื่อนย้ายการชุมนุมไปตามถนนดังกล่าว จำเลยกับพวกทั้ง 350 คน ได้ล้ำเข้าไปในช่องจราจรซึ่งเป็น ถนนสาธารณะที่ประชาชนใช้สัญจร ก่อความเดือดร้อน ต่อประชาชนและเมื่อเจ้าพนักงานผู้ดูแลการชุมนุมสั่งให้เลิกและไม่ให้เคลื่อนขบวนออกจาก ม.ธรรมศาสตร์มาสู่ที่สาธารณะ เพราะการชุมนุมมีการปราศรัยให้เปลี่ยนแปลงทางการเมือง เปลี่ยนแปลงผู้บริหารประเทศซึ่งเป็นการชุมนุมทางการเมืองอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย แต่จำเลยทั้ง 44 คน กับพวกดังกล่าวได้ฝ่าฝืนร่วมกันชุมนุมทางการเมืองที่มีจำนวนผู้ร่วมชุมนุมตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป
ผู้ต้องหาในคดีนี้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเองจึงไม่มีการจับกุม
“การเดินขบวนไปกองทัพบกในวันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.) จะเป็นวันหนึ่งที่สำคัญมากๆของการต่อสู้เพื่อให้มีการเลือกตั้ง หลายคนอาจจะรู้สึกว่า บรรยากาศการเมืองชวนพาให้ฝันว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อพิจารณาจากการเปิดตัวของบรรดาพรรคต่างๆ และการถกเถียงที่เริ่มมีให้เห็น
หลังพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาล ศาลมีคำสั่งยกคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวนเพราะว่าผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก จึงไม่มีเหตุที่จะต้องควบคุมตัว โดยอภิสิทธิ์หนึ่งในผู้มารายงานตัวไม่ได้เดินทางมาที่ศาลแขวงดุสิตด้วยเนื่องจากเขาเห็นว่าพนักงานสอบสวนได้กระทำการเกินกว่าเหตุที่มีการขออำนาจศาลฝากขังในคดีนี้
เวลาประมาณ 9.00 น. ที่สำนักงานอัยการแขวงดุสิต ผู้ต้องหาคดีชุมนุมที่บริเวณหน้าศูนย์บัญชาการกองทัพบก หรือในอีกชื่อว่า #ARMY57 จำนวน 41 คน มาฟังคำสั่งอัยการว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ในความผิดฝ่าฝืนคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 ข้อหาร่วมกันเป็นผู้ชุมนุมฯ นอกจากนี้ยังถูกกล่าวหาว่าผิด พ.ร.บ. ชุมนุมสาธารณะฯมาตรา 16 (1) (8) และ มาตรา 18 และผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ.จราจรทางบก ในคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 47 คน
ทนายจำเลยแถลงคัดค้านว่าพยานหลักฐานดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นความลับของทางราชการแล้ว หากแต่เป็นข้อเท็จจริงที่จะเกี่ยวข้องกับการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของจำเลยในคดีนี้ นอกจากนี้พยานหลักฐานดังกล่าวก็มีจำนวนมากหากโจทก์นำส่งในวันสืบพยานทนายจำเลยเกรงว่าจะไม่สามารถตรวจสอบพยานหลักฐานได้อย่างถ้วนถี่ อัยการแถลงยืนยันต่อศาลว่าไม่อาจส่งมอบเอกสารหลักฐานดังกล่าวให้ได้ ศาลจึงบันทึกคำแถลงของทั้งสองฝ่ายไว้ในสำนวน
เนื่องจากโจทก์ระบุบัญชีพยานบุคคลมา 53 คน ศาลจึงถามว่าฝ่ายจำเลยจะพอรับข้อเท็จจริงในชั้นสอบสวนของพยานบางปากได้หรือไม่เพราะหากรับได้การพิจารณาคดีก็จะกระชับเพราะสามารถตัดพยานบุคคลบางส่วนไปได้ ทนายจำเลยแถลงว่าในส่วนของพยานที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ถอดเทปการปราศรัย หากอัยการส่งมอบดีวีดีบันทึกการปราศรัยมาให้ตรวจสอบว่าข้อความตรงกับการถอดเทปก็อาจยอมรับข้อเท็จจริงและตัดพยานบางส่วนได้แต่ในภายหลัง ศาลจึงกำหนดวันนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์รวมแปดนัด
ทนายจำเลยแถลงว่าประสงค์จะสืบพยานรวม 59 ปาก โดยนอกจากตัวจำเลยทั้งหมดเบิกความเป็นพยานให้ตัวเองแล้วก็จะมีนักวิชาการอย่างวรเจตน์ ภาคีรัตน์และพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ มาร่วมเบิกความเป็นพยานจำเลยด้วย ศาลให้เวลาฝ่ายจำเลยสืบพยานแปดนัดเช่นเดียวกับฝ่ายโจทก์
ในวันนี้ศาลยังสั่งให้จำหน่ายคดีในส่วนของจำเลยที่ 22 ซึ่งเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ออกจากสารบบด้วย เนื่องจากคดีนี้มีทนายจำเลยหลายคนและมาจากต่างสำนักงาน การกำหนดวันนัดสืบพยานจึงไม่สามารถทำได้ต่อเนื่องเพราะบางนัดจำเลยว่าไม่ตรงกันส่วนบางนัดที่ทนายจำเลยว่างตรงกันผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนก็ติดเป็นผู้พิพากษาเวร
คู่ความกำหนดวันนัดสืบพยานได้ในวันที่ 3 และ 30 พฤษภาคม 3 - 5 กรกฎาคม 10 - 12 กรกฎาคม 31 กรกฎาคม 21 - 23 สิงหาคม 4 - 6 กันยายน และ 18 กันยายน
26 ธันวาคม 2562
ฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น
เวลาประมาณ 09.00 น. จำเลย และทนายความทยอยมาที่ศาลโดยรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณโรงอาหารของศาลแขวงดุสิต พร้อมกับผู้มาร่วมให้กำลังใจ จำเลยทุกคนท่าทางแจ่มใส และมีกำลังใจดีเยี่ยม