บ้านดอยเทวดา: ชุมนุมทางการเมืองฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.

อัปเดตล่าสุด: 28/08/2562

ผู้ต้องหา

แสง

สถานะคดี

อัยการสั่งไม่ฟ้อง

คดีเริ่มในปี

2561

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

ไม่มีข้อมูล

สารบัญ

ชาวบ้านดอยเทวดา จังหวัดพะเยา 11 คนถูกตำรวจตั้งข้อกล่าวหา ละเมิดคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมทางการเมือง จากการรวมกลุ่มให้กำลังใจการเดินมิตรภาพของเครือข่าย People GO ภายในหมู่บ้านดอยเทวดา

ภูมิหลังผู้ต้องหา

ไม่มีข้อมูล

ข้อหา / คำสั่ง

อื่นๆ
ขัดคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

ผู้ต้องหาทั้ง 11 คนถูกตำรวจตั้งข้อกล่าวหา ละเมิดคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมทางการเมือง จากการรวมกลุ่มให้กำลังใจการเดินมิตรภาพของเครือข่าย People GO

พฤติการณ์การจับกุม

ไม่มีการจับกุม

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ไม่มีข้อมูล

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล

5 กุมภาพันธ์ 2561

กลุ่มเกษตรกรบ้านดอยเทวดา ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา จัดกิจกรรม “We walk เดินมิตรภาพ เดินไปหาเพื่อน เดินไปหาอนาคต” เพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจเครือข่าย People Go ที่จัดกิจกรรม We walk เดิน…มิตรภาพ โดยวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 13.00 น. ก่อนจัดกิจกรรม แสง ตัวแทนกลุ่มได้โทรศัพท์ไปแจ้งต่อนายอำเภอภูซางเพื่อขออนุญาตในการจัดกิจกรรม โดยจะเดินจากเทศบาลต.สบบง มายังหมู่บ้านดอยเทวดา แต่นายอำเภอไม่อนุญาตให้เดิน อย่างไรก็ดีทางกลุ่มเกษตรกรบ้านดอยเทวดายังยืนยันที่จะทำกิจกรรม

ต่อมาช่วงเช้าของวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 ตัวแทนกลุ่มได้โทรไปแจ้งกับนายอำเภอภูซางอีกครั้งยืนยันว่าจะทำกิจกรรมการเดินภายในหมู่บ้าน และชี้แจงต่อว่า ศาลปกครองได้มีคำสั่งระบุให้กิจกรรมของเครือข่าย People Go สามารถเดินได้ นายอำเภอตอบว่า ตนไม่ทราบขั้นตอนรายละเอียด แต่จะทำการแจ้งให้ทางเข้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทราบ ตัวแทนกลุ่มระบุเพิ่มเติมด้วยว่าจะทำการเดินในอีก 30 นาทีแล้ว นายอำเภอภูซางจึงแจ้งให้แก่ผู้ใหญ่บ้านของบ้านดอยเทวดาทราบ ผู้ใหญ่บ้านจึงโทรศัพท์มาสอบถามเรื่องกิจกรรม และบอกว่า มีความกังวลเรื่อง คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมือง แต่สุดท้ายกลุ่มชาวบ้านยังคงยืนยันว่าจะทำกิจกรรมต่อไป

เวลาประมาณ 12.00 น. กลุ่มเกษตรกรบ้านดอยเทวดา ได้ทำกิจกรรมการเดิน “We walk เดินมิตรภาพ เดินไปหาเพื่อน เดินไปหาอนาคต” โดยเป็นการเดินของกลุ่มชาวบ้านประมาณ 15 คน จากปลายหมู่บ้านไปยังกลางหมู่บ้าน ที่ศาลาประชาคมของหมู่บ้านดอยเทวดา ระยะทางประมาณ 500 เมตร มีการถือป้ายและธง “สนับสนุน we walk เดินมิตรภาพ” , “สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ บ้านดอยเทวดา” ก่อนจะมาหยุดที่หน้าศาลาประชาคมหมู่บ้าน เพื่ออ่านแถลงการณ์ที่มีใจความว่า กลุ่มเกษตรกรบ้านดอยเทวดาสนับสนุนการเดิน…มิตรภาพ we walk และจบกิจกรรมภายในเวลา 10 นาที ระหว่างการทำกิจกรรมมีผู้ใหญ่บ้านดอยเทวดาเข้ามาทำการถ่ายรูปการทำกิจกรรมไว้ตลอด

หลังจากเสร็จกิจกรรมประมาณ 30 นาที ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารไม่ทราบสังกัด 2 นาย แต่งชุดทหาร 1 นาย อีกนายแต่งชุดธรรมดาเข้ามายังศาลาประชาคมบ้านดอยเทวดา ชาวบ้านจึงได้เข้าไปสอบถามว่ามาทำอะไร เจ้าหน้าที่ทหารระบุว่ามาเที่ยวเฉยๆ ทหารอยู่บริเวณนั้นประมาณ 5 นาทีและกลับออกไป จากนั้นผู้ใหญ่บ้านได้โทรมาหาชาวบ้านสอบถามขอรายชื่อคนที่ร่วมทำกิจกรรมในวันนี้ทุกคน พร้อมระบุด้วยว่า ทางผู้ใหญ่ขอมา แต่ชาวบ้านไม่ได้ให้รายชื่อกับผู้ใหญ่บ้าน

ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามายังบ้านของหนึ่งในชาวบ้านที่ร่วมกิจกรรม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบมาประมาณ 5-6 คน พร้อมอาวุธปืนสั้น หนึ่งในนั้นแนะนำตัวว่า ผู้กอง สมหมาย มาจากสภ.ภูซาง สอบถามถึงการทำกิจกรรมว่า ทำไมไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบจะได้เข้ามารักษาความปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่า จะมีมือที่ 3 มาแทรกแซงหรือแทรกเรื่องการเมือง พร้อมทั้งระบุว่า ตนเข้าใจว่าชาวบ้านนั้นบริสุทธิ์ใจ แต่คนที่สั่งการให้มาดูเขาไม่ทราบถึงเจตนาของชาวบ้าน และได้ขอชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ของกัญธิมา หนึ่งในชาวบ้านที่ร่วมกิจกรรมไป โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 20 นาที


หลังจากนั้นกัญธิมาและวรสถิตย์ได้ขับรถออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว มีรถขับนำด้านหน้า ซึ่งอยู่ๆก็จอด จากนั้นผู้ใหญ่บ้านและทหารได้ลงมาจากรถคันดังกล่าวและถ่ายรูปรถและรูปของวรสถิตย์และกัญธิมา ทหารขอชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และบัตรประชาชนของวรสถิตย์ แต่เขาให้แค่ชื่อกับเบอร์โทรศัพท์ไป


เวลาประมาณ 16.30 น. กำนันต.สบบง, ปลัดฝ่ายปกครอง, ผู้ใหญ่บ้าน, และทหารระบุว่ามาจาก ร.11 พัน 4 ค่ายขุนจอมธรรม อ.เชียงคำ 6-7 นาย เข้ามาบ้านของหนึ่งในชาวบ้านที่ร่วมกิจกรรม สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทางสำนักนายกฯ ได้ติดต่อโดยตรงมาว่า มีการเดินถือป้ายและเดินขบวน ซึ่งเป็นการกระทบความมั่นคงให้ทางฝ่ายปกครองเข้ามาตรวจสอบ และได้สอบถามว่าจากการเดินขบวนมีป้ายเขียนว่า “ไม่เอา คุณสมชาย” หมายความว่าอย่างไร หนึ่งในชาวบ้านได้ระบุว่า สมชายในป้ายคือชื่อของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงไม่ได้สอบถามต่อ ชาวบ้านจึงได้เล่าปัญหาเรื่องสาธารณูปโภคให้กับเจ้าหน้าที่ทั้งหมดฟัง โดยเจ้าหน้าที่ได้รับปากว่าจะให้ความช่วยเหลือ ใช้เวลาพูดคุยประมาณ 30 นาที ก่อนเจ้าหน้าที่จะระบุว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองและให้เรื่องมันจบ ก่อนจะกลับออกไป


หลังจากนั้นในช่วงค่ำ กำนัน และทหารห้านายมาหาชาวบ้าน ขอให้ไปพบนายอำเภอที่สถานีตำรวจภูธรภูซาง เมื่อไปถึงกลับไม่ใช่การพูดคุย แต่เป็นการควบคุมตัว
 
 
6 กุมภาพันธ์ 2561
เวลา 6.00 น. พนักงานสอบสวนสอบปากคำเสร็จแล้ว ผู้ต้องหาทั้ง 11 คนถูกตำรวจตั้งข้อกล่าวหา ละเมิดคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมทางการเมือง จากการรวมกลุ่มให้กำลังใจการเดินมิตรภาพของเครือข่าย People GO ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท โดยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ตำรวจจึงนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงคำ ก่อนที่ในช่วงเย็นจะให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดด้วยเป็นเงินคนละ 5,000 บาท


7 กุมภาพันธ์ 2561
อัมพร, พร, แก้วและสุทธิพงษ์ (เยาวชนผู้บกพร่องทางสมรรถภาพกาย)เดินทางเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสอบสวนและยันยันสิทธิของตนเอง ที่ถูกทหารกล่าวหาแจ้งความฐานขัดคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558


12 กุมภาพันธ์ 2561
ผู้ต้องหา 10 คนได้ไปรายงานตัวที่ศาลตามนัดที่ศาลจังหวัดเชียงคำ จ.พะเยา โดยผู้ใหญ่ในพื้นที่ชุมชนได้มีการเชิญชาวบ้านที่ถูกกล่าวหาแจ้งความเข้าเจรจาโดยจะช่วยเหลือเรื่องคดีแต่ชาวบ้านยังไม่ร่วมเจรจาเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ชาวบ้านอ้างว่าหากจะมีการเจรจาพูดคุยกันจริงๆต้องมาคุยที่บ้านดอยเทวดาและคุยกันอย่างเปิดเผยเป็นทางการ อีกทั้งผู้ถูกแจ้งความส่วนใหญ่ก็เป็นผู้สูงอายุเดินทางไปไหนมาไหนลำบาก


25 กุมภาพันธ์ 2561
เวลา 14.00 น. ชาวบ้านดอยเทวดาจำนวน 4 คน เข้าพบร้อยโทอดุลย์ ไชยศรีหา ณ ที่ว่าการอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา ตามคำเรียกด้วยวาจาของร้อยโทอดุลย์เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ในครั้งนี้เป็นการพบปะแบบไม่เป็นทางการ ชาวบ้านจึงมีตัวแทนมาได้เพียง 4 คน ได้แก่ แสง ประยูร วัลลพ และเชิญ


27 กุมภาพันธ์ 2561
ชาวบ้านเดินทางไปยื่นหนังสือสองฉบับให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาและทหารมทบ.34  เมื่อไปที่ศูนย์ราชการ ระหว่างทานข้าวนั้น อยู่ๆตำรวจทหารเข้ามาสอบถามว่า ชาวบ้านเดินทางมาทำไม ชาวบ้านจึงตอบไปว่า จะมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม สักพักหนึ่งทหาร ชื่อว่า พันเอกทินชาติเดินเข้ามาและตบโต๊ะ ก่อนจะพูดว่า คุยกันแล้วใช่ไหม นี่มันหักหลังผมนะ มีอะไรทำไมไม่ไปหาผม ชาวบ้านพยายามอธิบายว่า ชาวบ้านมายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือไม่ให้เป็นคดี แต่พันเอกทินชาติกลับไม่ฟังและคว้าหนังสือไปฉีก และพยายามจะบอกว่า หากมีปัญหาอะไรให้ไปคุยกันในค่ายทหาร แต่ชาวบ้านไม่ยอมไป เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย


หลังจากที่พันเอกทินชาติฉีกหนังสือ ชาวบ้านก็พยายามหาทางให้สถานการณ์ตึงเครียดน้อยลง โดยถามว่า หากมีคนรับสารภาพสองคนจะเป็นอย่างไร พันเอกทินชาติบอก ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหา และถามต่อว่า ถ้ารับมีโทษไหม เขาบอกว่า ไม่มี ทีนี้เลยบอกว่า ถ้ารับก็เป็นแสงกับประยูร แต่พันเอกทินชาติไม่เอา คนที่รับจะต้องเป็นประยูรและวัลลภเพราะเชื่อว่า วัลลภเป็นตัวตั้งตัวตี


6 มีนาคม 2561
พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 10 คน


8 มิถุนายน 2561
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า อัยการศาลแขวงเชียงคำมีความเห็นไม่สั่งฟ้องคดีที่ ชาวบ้านดอยเทวดา จ.พะเยา จัดกิจกรรมให้กำลังใจ กิจกรรม We walk หรือ เดิน…มิตรภาพ  โดยอัยการพิจารณาแล้วให้เหตุผลว่า แม้ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษจะยังติดใจเกี่ยวกับการชูป้ายข้อความของผู้ต้องหา แต่เป็นเพียงข้อสันนิษฐานของผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษเท่านั้น พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอจึงมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดี


ซึ่งคำสั่งของอัยการดังกล่าวอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูซาง ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน พฤษภาคม 2561 หลังจากนั้นผู้ต้องหาจึงทยอยกันไปเซ็นชื่อรับทราบคำสั่งอัยการ จนกระทั่งวันที่ 4 มิถุนายน 2561 ผู้ต้องหาคนสุดท้ายได้เดินทางเข้าไปเซ็นรับทราบคำสั่งอัยการ  เนื่องจากคดีนี้ในชั้นตำรวจเองในขั้นตอนการส่งสำนวนให้อัยการก็มีความเห็นว่าไม่เห็นควรสั่งฟ้องคดี เมื่อทั้งตำรวจและอัยการมีความเห็นไม่สั่งฟ้องคดีตรงกันจึงไม่มีการอุทธรณ์คำสั่งของอัยการและคดีถือเป็นที่สิ้นสุด
 

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา