ออด: ติดป้ายผ้าแยกประเทศล้านนาที่อำเภอแม่ลาว

อัปเดตล่าสุด: 16/08/2562

ผู้ต้องหา

ออด

สถานะคดี

ตัดสินแล้ว / คดีถึงที่สุด

คดีเริ่มในปี

2557

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

ไม่มีข้อมูล

สารบัญ

ช่วงต้นปี 2557 มีการขึ้นป้าย "ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม กูขอแยกเป็นประเทศล้านนา" ในบางพื้นที่ของจังหวัดในภาคเหนือเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อกรณีที่ศาลแพ่งสั่งห้ามสลายการชุมนุมของกลุ่มกปปส. รวมทั้งในพื้นที่อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย

ออด ถนอมศรี และสุขสยาม ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันติดป้ายผ้าเขียนข้อความปลุกระดมแยกประเทศล้านนาที่สะพานลอยหน้าตลาดป่าก่อดำ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย โดยป้ายซึ่งเป็นเหตุแห่งคดีนี้ถูกพบในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557

ก่อนที่จะถูกดำเนินคดีนี้ จำเลยทั้งสามคนถูกกล่าวหาในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายอีกสองคดีจากกรณีที่มีผู้พบป้ายผ้าลักษณะเดียวกัน เขียนข้อความ "ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม กู ขอแยกเป็นประเทศล้านนา" ในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงรายและอำเภอเมืองจังหวัดพะเยา

โดยทั้งสองคดีศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว คดีที่จังหวัดเชียงราย ศาลจังหวัดเชียงรายพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามมีความผิด พิพากษาจำคุกเป็นเวลาสามปีโดยให้รอลงอาญาโทษจำคุก ส่วนคดีจังหวัดพะเยา ศาลจังหวัดพะเยามีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสามเนื่องจากเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ไม่สามารถระบุได้ว่าจำเลยทั้งสามเป็นผู้ติดป้ายผ้าที่จังหวัดพะเยาจริง

ศาลจังหวัดเชียงรายสืบพยานคดีนี้ในเดือนมิถุนายน 2561 โจทก์นำพยานเข้าสืบรวมห้าปาก ส่วนจำเลยนำพยานเข้าสืบสามปากเป็นตัวจำเลยเบิกความเป็นพยานให้ตัวเอง ในวันที่ 30 สิงหาคม 2561 ศาลจังหวัดเชียงรายมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสาม ขณะนี้คดีสิ้นสุดแล้ว   

 

ภูมิหลังผู้ต้องหา

ออด ประกอบอาชีพทำสวนลำไย ที่ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เริ่มสนใจการเมืองมาตั้งแต่ปี 2544  ในสมัยที่พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี ออดร่วมชุมนุมทางการเมืองกับกลุ่มเสื้อแดง และเป็นแกนนำคนเสื้อแดง อำเภอแม่สรวยในปี 2553 ในการชุมนุม ออดมักใส่หมวกใบใหญ่จนได้รับฉายาว่า ลุงออด หมวกใหญ่
 
ถนอมศรี ประกอบกิจการส่วนตัว เป็นแกนนำคนเสื้อแดงกลุ่มแม่สรวยรักประชาธิปไตย ถนอมศรีติดตามเคลื่อนไหวทางการเมืองมาโดยตลอด เคยเป็นผู้ประสานงานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ด้วย
 
สุขสยาม ประกอบอาชีพเกษตรกร และเป็นแกนนำคนเสื้อแดงกลุ่มแม่สรวยรักประชาธิปไตย 

ข้อหา / คำสั่ง

มาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญา

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 มีผู้พบเห็นป้ายเขียนข้อความ "ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม กูขอแยกเป็นประเทศล้านนา" ต่อมาจำเลยทั้งสามถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันติดป้ายไวนิลเขียนข้อความ  "ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม กู ขอแยกเป็นประเทศล้านนา" ที่บริเวณสะพานลอยหน้าตลาดป่าก่อดำ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ข้อความบนป้ายไวนิลดังกล่าวมีลักษณะเป็นการปลุกระดมประชาชน เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116
 

พฤติการณ์การจับกุม

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามนำหมายจับไปที่บ้านของออด เมื่อแสดงหมายจับแล้วได้ควบคุมตัวออดไปแจ้งข้อกล่าวหาที่สภ.แม่ลาว ในกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาออดไม่มีทนายคอยให้คำปรึกษา ออดถูกคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจเป็นเวลาหนึ่งคืน หลังจากนั้นจึงถูกส่งตัวไปที่ศาลจังหวัดเชียงรายในวันถัดมาก่อนจะได้รับการประกันตัว

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ศาลจังหวัดเชียงราย

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล

28 กุมภาพันธ์ 2557

ประชาไท รายงานว่ามีประชาชนพบเห็นป้ายไวนิลเขียนข้อความ " "ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม กู ขอแยกเป็นประเทศล้านนา" แขวนอยู่บนสะพานลอยป่าก่อดำ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ซึ่งอยู่ใกล้กับตลาดสดและเขตชุมชน โดยก่อนหน้านี้ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 ก็มีการพบป้ายในลักษณะเดียวกันถูกแขวนที่สะพานลอยหน้าห้างเซ็นทรัลเชียงราย

ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดจังหวัดทหารบกเชียงรายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนประจำท้องที่เกิดเหตุให้ติดตามดำเนินคดีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116

มิถุนายน 2560

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามนำหมายจับไปที่บ้านของออด เมื่อแสดงหมายจับแล้วได้ควบคุมตัวออดไปแจ้งข้อกล่าวหาที่สภ.แม่ลาว ในกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาออดไม่มีทนายคอยให้คำปรึกษา ออดถูกคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจเป็นเวลาหนึ่งคืน หลังจากนั้นจึงถูกส่งตัวไปที่ศาลจังหวัดเชียงรายในวันถัดมาก่อนจะได้รับการประกันตัว  

15 สิงหาคม 2560

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ถนอมศรีและสุขสยามเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสภ.แม่ลาวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนพาทั้งสองไปขออำนาจศาลจังหวัดเชียงรายฝากขัง เนื่องจากทั้งสองมีปัญหาในการหาหลักทรัพย์ประกันตัวจึงถูกฝากขังในเรือนจำเป็นเวลาสี่วัน

30 สิงหาคม 2560

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า  อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดีของออดต่อศาลจังหวัดเชียงรายในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ในนัดสอบคำให้การออดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อัยการแถลงว่าติดใจจะนำพยานเข้าสืบรวม 17 ปาก ขณะที่ฝ่ายจำเลยแถลงว่านำพยานเข้าสืบรวมสามปาก   ศาลนัดสืบพยานจำนวนห้านัด ระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายน 2561 และวันที่ 3 กรกฎาคม 2561

12 ตุลาคม 2560

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า  อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องถนอมศรีและสุขสยามต่อศาลจังหวัดเชียงรายในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ศาลนัดพร้อมคดีนี้ในวันที่ 15 มกราคม 2561 โดยทนายจำเลยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเนื่องจากเหตุแห่งคดีและพยานหลักฐานในคดีนี้เป็นอันเดียวกับคดีของออดที่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องไปแล้ว ทนายจำเลยจะแถลงต่อศาลเพื่อขอให้รวมคดีของถนอมศรีและสุขสยามเป็นคดีเดียวกับคดีของออด

26 – 28 มิถุนายน 2561

นัดสืบพยานโจทก์และจำเลย

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานเกี่ยวกับการสืบพยานคดีนี้ว่า เบื้องต้นโจทก์ระบุว่าจะนำพยานเข้าเบิกความต่อศาลมากกว่าสิบปาก แต่เนื่องจากพยานบุคคลหลายปากไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในคดีนี้โดยตรง ศาลถามอัยการด้วยว่าคดีไม่มีพยานผู้เห็นเหตุการณ์เลยใช่หรือไม่ อัยการรับว่าไม่มี ศาลจึงขอให้ทนายจำเลยรับคำให้การพยานโจทก์ในชั้นศาลบางส่วน ฝ่ายจำเลยแถลงรับคำให้การพยานบางส่วนเหลือพยานที่ฝ่ายจำเลยติดใจขอสืบพยานรวมห้าปาก สำหรับฝ่ายจำเลยมีจำเลยสามคนขึ้นเบิกความเป็นพยานให้ตัวเอง

เกี่ยวกับลักษณะของป้ายไวนิลที่เป็นเหตุแห่งคดีนี้ พยานโจทก์เบิกความว่ามีลักษณะเป็นแผ่นป้ายสีขาวตัวหนังสือสีแดงเขียนข้อความ  ”ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม กู ขอแยกเป็นประเทศล้านนา” กว้างประมาณหนึ่งเมตร ยาวประมาณสิบเมตร สำหรับบุคคลที่นำมาติด โจทก์มีเพียงพยานที่เป็นเจ้าของร้านเกมที่ตั้งอยู่ใกล้ๆสะพานลอยที่เกิดเหตุมาเบิกความเป็นพยานว่าในช่วงเย็นของวันเกิดเหตุเห็นกลุ่มประมาณห้าถึงหกคนเดินขึ้นไปบนสะพานลอยแต่ตัวพยานไม่เห็นใบหน้าหรือสามารถยืนยันตัวบุคคลดังกล่าวได้

ในส่วนของคณะพนักงานสอบสวน โจทก์มีพยานสองปากมาเบิกความว่าเหตุแห่งคดีนี้คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงราย โดยป้ายผ้าไวนิลของกลางมีลักษณะตรงกันจึงเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นบุคคลกลุ่มเดียวกัน โดยคดีที่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงรายมีภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งจับภาพใบหน้าของผู้กระทำความผิดได้เป็นจำเลยทั้งสามในคดีนี้ ส่วนเหตุที่พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องคดีนี้เป็นเพราะเห็นว่าหากแผ่นป้ายในคดีนี้ถูกปล่อยให้แขวนทิ้งไว้ก็จะก่อให้เกิดความไม่สงบในพื้นที่อำเภอแม่ลาว ในการถามค้านพยานปากคณะพนักงานสอบสวน ทนายจำเลยถามค้านว่าในพื้นที่อำเภอแม่ลาวเองก็มีคนเสื้อแดงอยู่ด้วยใช่หรือไม่ซึ่งพยานรับว่าใช่

การสืบพยานโจทก์แล้วเสร็จในวันที่ 28 มิถุนายน 2561 ในเวลาประมาณ 11.00 น. ศาลสั่งให้นำพยานจำเลยทั้งสามปากเข้าเบิกความต่อทันทีจนแล้วเสร็จในเวลาประมาณ 13.00 น.

จำเลยทั้งสามเบิกความย้อนไปถึงวันเกิดเหตุคดีติดป้ายแยกประเทศในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงรายว่าทั้งสามเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเนื่องจากในวันเกิดเหตุได้ไปต้อนรับอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ที่ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายแล้วระหว่างเดินทางกลับขณะเดินข้ามสะพานลอยหน้าห้างเซ็นทรัลเชียงรายมีคนเสื้อแดงที่อยู่บนสะพานลอยเรียกให้ช่วยติดป้ายจึงเข้าไปช่วยเพราะเห็นว่าเป็นคนเสื้อแดงเหมือนกัน ส่วนเหตุที่เกิดในวันและสถานที่อื่นๆจำเลยทั้งสามไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ได้เดินทางไปตามสถานที่เกิดเหตุอื่นๆ

หลังการสืบพยานจำเลยทั้งสามปากแล้วเสร็จ ทนายจำเลยแถลงหมดพยาน ศาลสั่งให้ยกเลิกนัดสืบพยานวันที่ 29 มิถุนายน และ 3 กรกฎาคม 2561 ซึ่งนัดไว้เดิมและนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 30 สิงหาคม 2561 เวลา 9.00 น.

30 สิงหาคม 2561

นัดฟังคำพิพากษา

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศาลจังหวัดเชียงรายพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสามในคดีนี้เพราะพยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนัก แต่ให้ยึดป้ายผ้าของกลางในคดีเนื่องจากเป็นของกลางที่เคยใช้กระทำความผิดมาก่อน

 

คำพิพากษา

สรุปคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ลำพังเพียงการกระทำความผิดของจำเลยในสถานที่หนึ่ง ไม่อาจฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดในคดีนี้  ทั้งพยานหลักฐานที่โจทก์นำเข้าสืบยังไม่มีน้ำหนักรับฟังได้ตามที่โจทก์ฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสาม ส่วนแผ่นป้ายที่มีข้อความว่า “ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม กู ขอแยกเป็นประเทศล้านนา” ของกลางในคดีนี้ เป็นแผ่นป้ายของกลางที่เคยถูกใช้ในการกระทำความผิดมาก่อน จึงให้ริบ

 

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา