พะเยาว์: แม่น้องเกดทำกิจกรรมกรณี 6 ศพวัดปทุม

ผู้ต้องหา

พะเยาว์

สถานะคดี

ชั้นศาลชั้นต้น

คดีเริ่มในปี

2561

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

ไม่มีข้อมูล

สารบัญ

ในวันที่ 10 ธันวาคม 2561 พะเยาว์แม่ของกมนเกด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างเหตุการสลายการชุมนุมทางการเมืองในปี 2553 ที่วัดปทุมวนาราม จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมเนื่องในวันรัฐธรรมนูญและวันสิทธิมนุษยชนสากล หลังมีกระแสข่าวว่าคดี 6 ศพวัดปทุมและคดีที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมในปี 2553 ถูกแทรกแซง 
 
ระหว่างที่กิจกรรมดำเนินไปพะเยาว์และผู้ร่วมกิจกรรมอีกสี่คนถูกควบคุมตัวไปที่สน.สำราญราษฎร์ พะเยาว์ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้จัดการชุมนุมแต่ไม่แจ้งการชุมนุม พะเยาว์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา 

ในเดือนมกราคม 2562 อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องพะเยาว์ต่อศาลแขวงดุสิต ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ศาลแขวงดุสิตนัดพะเยาว์สอบคำให้การซึ่งเธอให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา การสืบพยานคดีนี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 17 พฤษภาคม หลังจากนั้นในวันที่ื 19 กรกฎาคม 2562 ศาลแขวงดุสิตปรับพะเยาว์เป็นเงิน 1,000 บาท ในความผิดฐานไม่แจ้งการชุมนุม 
 

ภูมิหลังผู้ต้องหา

พะเยาว์ หรือ “แม่น้องเกด” เป็นมารดาของ กมนเกด (น้องเกด) พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปี 2553  ในสมัยรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชาชีวะ 
 

ข้อหา / คำสั่ง

พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

ในวันที่ 10 ธันวาคม 2561 เวลา 17.30 น พะเยาว์พร้อมด้วย พันธุ์ศักดิ์หรือ "พ่อน้องเฌอ" บิดาของสมาพันธ์ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมในปี 2553 อีกคนหนึ่งและพวกอีกสองคนร่วมกันทำกิจกรรมทวงคืนความยุติธรรมให้ผู้เสียชีวิตจากการล้อมปราบของทหาร ในปี 2553 ที่บริเวณอนุสาวรีประชาธิปไตยโดยมีประชาชนมาให้กำลังใจประมาณ 100 คน
 
การทำกิจกรรมดังกล่าวเป็นการทำกิจกรรมในที่สาธารณะ เข้าข่ายเป็นการชุมนุมสาธารณะแต่พะเยาว์ในฐานะผู้จัดการชุมนุมไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ผู้รับแจ้งการชุมนุมล่วงหน้า 24 ชั่วโมง เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ
 
 
 
 

พฤติการณ์การจับกุม

เวลาประมาณ 17.45 น. หลังจากพะเยาว์ และพันธุ์ศักดิ์ ทำกิจกรรมแล้วเสร็จ พ.ต.อ.จักริน โฉสูงเนิน ผกก.สน.ชนะสงคราม เข้ามาแจ้งว่าการทำกิจกรรมในที่สาธารณะจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ตามกฎหมาย จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ร่วมกิจกรรมสี่คนไปยัง สน.สำราญราษฎร์ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา
 
ในเวลาประมาณ 18.44 น. พ.ต.อ.รัชพล ชนะศรีขจร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะตั้งข้อหาพะเยาว์ในความผิดฐานเป็นผู้จัดการชุมนุมแต่ไม่แจ้งการชุมนุมล่วงหน้า 24 ชั่วโมงเพียงคนเดียว แต่จะมีการตรวจสอบพยานหลักฐานและอาจมีการตั้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำความผิดคนอื่นเพิ่มเติมหากมีพยานหลักฐาน พะเยาว์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงดึกวันเดียวกันโดยไม่ต้องวางหลักประกัน

 

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ศาลแขวงดุสิต

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ภาพ cover จาก Banrasdr Photo

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
30 พฤศจิกายน 2561
 
ข่าวสดออนไลน์รายงานว่า แกนนำกลุ่มนปช.นำโดย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ธิดา ถาวรเศรษฐ และญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 เดินทางไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด  เพื่อติดตามความคืบหน้าจากกรณีที่มีบทความเผยแพร่ในสำนักข่าวแห่งหนึ่งว่ามีนายทหารยศนายพลคนหนึ่งมาพูดคุยกับอัยการสูงสุด ให้สั่งยุติสำนวนคดีผู้เสียชีวิต 99 ศพ จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมในเดือนพฤษภาคม ปี 2553 ณัฐวุฒิให้ข้อมูลว่าหลังตัวเขาได้ทราบเรื่องดังกล่าวก็มีหนังสือเปิดผนึกถึงอัยการสูงสุดแต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมาจึงได้มาติดตามทวงถาม
 
 
9 ธันวาคม 2561
 
พะเยาว์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าจากกรณีที่มีข่าวว่ามีทหารเข้ามาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เธอจะไปแสดงเจตนารมณ์ทวงคืนความยุติธรรมให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ล้อมปราบในปี 2553 ในวันที่ 10 ธันวาคม 2561 ซึ่งวันที่ 10 ธันวาคม เป็นทั้งวันรัฐธรรมนูญไทยและเป็นวันสิทธิมนุษยชนสากล
 

10 ธันวาคม 2561
 
ประชาไทรายงานว่า  เครือข่ายวิญญูชนผู้ยังได้รับผลกระทบจากเผด็จการ (หรือ ค.ว.ย.) นัดทำกิจกรรม ประกาศเจตนารมณ์ “แก้แค้น ไม่แก้ไข” หน้าร้านแมคโดนัลด์ ใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน โดยมีพะเยาว์หรือแม่น้องเกด และพันธ์ศักดิ์ หรือพ่อน้องเฌอ ซึ่งเป็นญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม และมีผู้ร่วมกิจกรรมคนอื่นที่แต่งกายเป็นยมทูตร่วมกันปัดกวาดถนนหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นสัญลักษณ์ของการทวงถามความยุติธรรมจากเหตุสลายการชุมนุมปี 2553 ด้วย

พะเยาว์แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการแต่งหน้าเป็นผีและนำเสื้อกั้กพยาบาลตัวเดียวกับที่ลูกสาวของเธอสวมในวันที่ถูกยิงเสียชีวิตมาสวมใส่เพื่อแสดงสัญลักษณ์
 
ผู้ร่วมกิจกรรมยังมีการชูแผ่นโปสเตอร์ขนาดใหญ่ ด้านบนเขียนข้อความว่า "บัญชีหนังหมา" ถัดลงมามีรูป พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สุเทพ เทือกสุบรรณ และภาพเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่รางรถไฟฟ้าตรงข้ามวัดปทุมวนารามเมื่อ 19 พฤษภาคม 2553 ด้วย
 
ระหว่างที่กิจกรรมดำเนินไปเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน และเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครมีการนำแผงเหล็กมาปิดกั้นบริเวณทางเท้าด้านร้านแม็คโดนัลด์ราชดำเนินด้วย
 
หลังจากผู้ร่วมกิจกรรมทำการปัดกวาดถนนฝั่งตรงข้ามอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยได้ราวห้านาที เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ทำกิจกรรมรวมสี่คนได้แก่พะเยาว์ พันธ์ศักดิ์ วรรณเกียรติ ชูสุวรรณ และกฤษณะโดยตำรวจระบุว่าจัดกิจกรรมโดยไม่แจ้งการชุมนุมล่วงหน้า
 
ผู้ร่วมกิจกรรมถูกนำตัวมาที่ สน. สำราญราษฎร์ในเวลา 18.20 น. ต่อมาในเวลา 20.45 น. เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาไม่แจ้งการชุมนุมตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯต่อพะเยาว์ซึ่งเธอให้การปฏิเสธ พะเยาว์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงดึกของวันเดียวกันโดยไม่ต้องวางหลักประกันเดลินิวส์ออนไลน์   รายงานว่า เวลา 17.45 น.  ตำรวจ สน.ชนะสงคราม  จับกุมพะเยาว์และพันธุ์ศักดิ์ โดยแจ้งว่ามีพฤติการณ์จัดการชุมุนมโดยไม่แจ้งตำรวจท้องที่ 18.44 น. ทั้งสองถูกนำส่งตัวไปยัง สน.สำราญราษฎร์และ พะเยาว์ เป็นผู้จัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งท้องที่ก่อน 24 ชั่วโมง พันธุ์ศักดิ์และประชาชนที่มาร่วม อยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐานเพื่อจะแจ้งข้อหาต่อไป
 
21 ธันวาคม 2561 
 
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า พะเยาว์ เดินทางมาที่สน.สำราญราษฎร์เพื่อยื่นคำให้การเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนโดยมีสาระสำคัญสามประเด็นได้แก่ 
 
1. เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 53 บุตรสาวของเธอ คือ กมนเกดถูกยิงเสียชีวิตที่วัดปทุมวนารามในเหตุการณ์ล้อมปราบประชาชนที่ออกมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นยุบสภา จากการไต่สวนการตายของศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ว่าสาเหตุการตายของผู้เสียชีวิตทั้งหกศพที่วัดปทุมวนารามเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหาร ภายใต้การบังคับบัญชาและความรับผิดชอบของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับพวก
 
ต่อมา คดีถูกพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวนเพื่อฟ้องผู้กระทำผิดเป็นคดีอาญา แต่เมื่อเกิดรัฐประหารในปี 2557 คดีก็ไม่มีความคืบหน้า ทั้งมีข่าวการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมโดยนายทหารระดับสูง ตัวเธอเคยร้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชาของนายทหารผู้นั้นแล้ว แต่เรื่องไม่ได้คืบหน้าแต่อย่างใด  หลังจากนั้นก็พยายามเรียกร้องต่อพนักงานสอบสวนและอัยการมาโดยตลอด แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า เธอจึงรู้สึกเสียใจและสะเทือนใจต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศนี้เป็นอย่างยิ่ง
 
2. เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นวันรัฐธรรมนูญและเป็นวันสิทธิมนุษยชนสากล เธอตัดสินใจไปทำกิจกรรมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งปกติจะมีการทำกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญทางสังคมและประวัติศาสตร์ อยู่แล้วทุกปี เพื่อให้สังคมตระหนักและไม่ลืมเหตุการณ์การล้อมปราบประชาชนในปี 2553 จึงได้ทำกิจกรรม “ละครใบ้” ซึ่งเธอได้รับบทเป็นบุตรสาว โดยได้สวมชุดที่เปื้อนเลือดของลูกสาวซึ่งได้เก็บรักษาไว้ เพื่อเตือนใจและเป็นกำลังใจในการต่อสู้ และมีเพื่อนของเธอรับบทเป็นยมทูตถือบัญชีหนังหมา
 
3. ในบรรดาวิธีเรียกร้องเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม เธอได้พยายามตามวิถีทางของผู้เป็นแม่ที่สูญเสียลูกแล้วทุกวิถีทางที่สามารถกระทำได้ การทำกิจกรรมละครใบ้เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะแสดงออกให้สังคมไม่หลงลืมเหตุการณ์การล้อมปราบฯ และร่วมกันนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ สร้างบรรทัดฐานในกระบวนการยุติธรรมในสังคมไทย กิจกรรมดังกล่าวเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย อันเป็นการแสดงออกในกรอบของกฎหมายรัฐธรรมนูญ และเป็นไปตามสิทธิตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
 
เธอจึงเห็นว่าการกระทำของเธอไม่เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ จึงขอให้พนักงานสอบสวนมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีนี้
 
หลังเสร็จสิ้นกระบวนการพนักงานสอบสวนนัดส่งตัวพะเยาว์ให้อัยการในวันที่ 24 ธันวาคม 2561
 
24 ธันวาคม 2561
 
พนักงานสอบสวนแจ้งพะเยาว์ว่ายังสรุปสำนวนไม่แล้วเสร็จ และไม่ได้แจ้งวันนัดหมายใหม่
 
7 มกราคม 2562
 
พนักงานสอบสวนแจ้งพะเยาว์ว่าลายนิ้วเมือที่เคยพิมพ์ไว้ใช้ไม่ได้ ขอให้ไปพบเพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือใหม่ แต่ปรากฎว่าเมื่อพะเยาว์ไปพบพนักงานสอบสวนกลับแจ้งว่าจะพาตัวพะเยาว์ไปส่งอัยการเลยโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า อย่างไรก็ตามหลังการพุดคุยพนักงานสอบสวนก็เลื่อนนัดให้พะเยาว์ไปพบอัยการในวันที่ 8 มกราคม 2562 แทน
 
8 มกราคม 2562
 
อัยการแจ้งให้พะเยาว์ไปพบในวันที่ 10 มกราคม 2562 ที่ศาลแขวงดุสิตเพื่อฟังคำสั่งคดี
 
10 มกราคม 2562
 
นัดฟังคำสั่งคดี
 
เจ้าหน้าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ข้อมูลว่า อัยการมีคำสั่งฟ้องคดีนี้แล้ว ศาลแขวงดุสิตนัดพะเยาว์สอบคำให้การในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 และให้ปล่อยตัวพะเยาว์ระหว่างการพิจารณาโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ประกันตัว
 
18 กุมภาพันธ์ 2562
 
นัดสอบคำให้การ
 
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ในนัดนี้พะเยาว์ให้การปฏิเสธคดีนี้ต่อศาล อัยการแถลงว่าติดใจจะสืบพยานบุคคลรวมแปดปาก ได้แก่ พยานผู้เห็นเหตุการณ์รวมสามปาก เจ้าหน้าที่สน.ชนะสงครามสามปาก และเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สำราญราษฎร์อีกสองปาก ฝ่ายจำเลยแถลงว่าประสงค์จะสืบพยานเพียงปากเดียวคือตัวจำเลย ศาลแขวงดุสิตกำหนดนัดสืบพยานระหว่างวันที่ 16 – 17 พฤษภาคม 2562 โดยเริ่มสืบเวลา 9.00 น.   
 
19 กรกฎาคม 2562
 
นัดฟังคำพิพากษา
 
ศาลแขวงดุสิตขึ้นบัลลังก์ในเวลาประมาณ 9.15 น. จากนั้นก็อ่านคำพิพากษาว่าพะเยาว์มีความผิดฐานไม่แจ้งการชุมนุม ตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ มาตรา 10 วรรค 1 ซึ่งกำหนดให้ผู้จัดการชุมนุมต้องแจ้งการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงก่อนเวลาชุมนุมประกอบมาตรา 28 ซึ่งกำหนดให้ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน  10,000 บาท

29 กรกฎาคม 2563
 
นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ข้อมูลว่า ในเวลา 9.47 น. ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นปรับพะเยาว์เป็นเงิน 1,000 บาท ในความผิดฐานไม่แจ้งการชุมนุมตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ 
 
 

คำพิพากษา

สรุปคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลแขวงดุสิตพิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยมีพฤติการณ์เชิญชวนประชาชนมาร่วมกิจกรรมทางเฟซบุ๊กในที่ 10 ธันวาคม 2561 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยอันเป็นที่สาธารณะ จำเลยจึงเป็นผู้ประสงค์จะจัดการชุมนุม

แม้จำเลยจะนำสืบต่อสู้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการทำกิจกรรมเพื่อรำลึก และนัดหมายแต่งกายมาเฉพาะกลุ่ม แต่ก็ไม่มีลักษณะการกระทำอื่นใดที่แสดงให้เห็นว่าบุคคลคนอื่นไม่สามารถเข้าร่วมได้ เมื่อจำเลยจัดกิจกรรมในที่สาธารณะเพื่อเรียกร้อง สนับสนุน คัดค้าน หรือแสดงความคิดเห็นในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยแสดงออกต่อประชาชนทั่วไป และบุคคลอื่นสามารถร่วมการชุมนุมนั้นได้

การกระทำของจำเลยจึงเป็นการชุมนุมสาธารณะ ซึ่งต้องแจ้งการชุมนุมสาธารณะต่อผู้รับแจ้งภายใน 24 ชั่วโมง

เมื่อจำเลยไม่แจ้งการชุมนุมสาธารณะ จำเลยจึงกระทำความผิดตามมาตรา 10 ประกอบกับมาตรา 28 ของพ.ร.บ.ชุมนุมฯ  ลงโทษปรับ 1,000 บาท ให้ริบของกลาง คือไม้กวาดและแผ่นป้าย “บัญชี หนัง หมา”

ข้อมูลสรุปคำพิพากษาจากเว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

 

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา