พล.ท.พงศกร : แชร์ข่าวปลอมเรื่องกาแฟบิ๊กป้อม

อัปเดตล่าสุด: 24/04/2567

ผู้ต้องหา

พล.ท.พงศกร รอดชมภู

สถานะคดี

ชั้นสืบสวนสอบสวน

คดีเริ่มในปี

2562

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

ไม่มีข้อมูล

สารบัญ

พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่แชร์ข่าวปลอม ทำนองว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เบิกงบกาแฟแก้วละ 12,000 บาท โดยใช้งบสวัสดิการในตำแหน่ง รวมเป็นเงิน 82,000 บาท เนื้อข่าวยังอ้างว่า พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า กาแฟดังกล่าวเป็นกาแฟคุณภาพสูง คนรายได้น้อยไม่สามารถลองกาแฟดังกล่าวได้  
 
กรณีนี้เกิดในช่วงเวลาก่อนการเลือกตั้ง พล.ท.พงศกรอ้างว่า ลบออกภายในไม่กี่นาทีหลังรู้ว่า ไม่เป็นความจริง ต่อมา ตำรวจปอท. ออกหมายเรียกและแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำความผิดตามมาตรา 14(2),(5) ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
 

ภูมิหลังผู้ต้องหา

พล.ท.พงศกร รอดชมภู หรือ ดร.โหน่ง ขณะเริ่มต้นคดีอายุ 63 ปี และเป็นรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จบการศึกษาปริญญาตรี วทบ.(ทบ.) โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (2521)

เว็บไซต์ของพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า พล.ท.พงศกร เมื่อรับราชการทหาร เคยดำรงตำแหน่งเป็น นายทหารคนสนิทรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, ผู้ช่วยนายทหารฝ่ายเสนาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองบัญชาการกองทัพไทย และเป็นรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

เมื่อครั้งพล.อ.พงศกร เปิดตัวเข้าทำงานร่วมกับพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งมีแนวทางต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. รวมทั้งการปฏิรูปกองทัพ ลบงบประมาณทหาร ก็กลายเป็นที่จับตาของสังคม เมื่อมีอดีตนายทหารเข้าร่วม 

ข้อหา / คำสั่ง

มาตรา 14 (2) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ, มาตรา 14 (5) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

ไม่มีข้อมูล

พฤติการณ์การจับกุม

ไม่มีการจับกุม ผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวเอง

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ไม่มีข้อมูล

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
 
5 มีนาคม 2562
 
ที่พรรคอนาคตใหม่ พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ชี้แจงกรณีตำรวจออกหมายเรียกพล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่แชร์ข่าวปลอมเกี่ยวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ข่าวพาดหัวในทำนองว่า เบิกงบกาแฟแก้วละ 12,000 บาท โดยใช้งบสวัสดิการในตำแหน่ง รวมเป็นเงิน 82,000 บาท พร้อมกับนำภาพประกอบที่มี พล.อ.ประวิตร และไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษา มาตัดต่อร่วมกัน
 
โดยกล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวจากตำรวจว่า จะมีการแถลงการจับกุมพล.ท. พงศกร ซึ่งความจริงยังไม่มีการจับกุมหรือการออกหมายจับเป็นเพียงหมายเรียกรายงานตัวเท่านั้น ผู้ที่ริเริ่มคดี คือ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมาย คสช. คดีความเกิดขึ้นเนื่องจาก พล.ท.พงศกร เป็นหนึ่งในผู้ที่แชร์ข่าว เมื่อพล.ท.พงศกร ทราบว่า ข่าวดังกล่าวนั้นเป็นข่าวปลอมก็ได้ลบ และโพสต์ขอโทษ ข่าวดังกล่าวอยู่บนหน้าเฟซบุ๊กของพล.ท.พงศกรในช่วงเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่นำไปสู่การดำเนินคดี ข้อหาคือ มาตรา 14(2),(5) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งเป็นข้อหาเดียวกันกับที่ถูกใช้ดำเนินคดีกับธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และกรรมการบริหารพรรครวมสามคน
 
พรรคอนาคตใหม่ยอมรับว่า พล.ท.พงศกร ได้แชร์ข่าวปลอมจริง แต่ยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาเห็นได้จากการรีบลบทันทีภายในเวลาไม่กี่นาที ฉะนั้นพล.ท.พงศกร จึงพร้อมที่จะต่อสู้คดีความนี้ ด้วยเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจจริงๆว่า หนึ่ง ไม่มีได้มีเจตนาและเรื่องนี้ไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกใดๆให้แก่สังคม สอง ไม่ได้กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ สาม ถ้าจะกระทบก็คือกระทบต่อความมั่นคงของพล.อ.ประวิตร เพียงคนเดียวเท่านั้น
 
อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตที่น่าสนใจเกี่ยวกับคดีนี้คือ แม้ว่าจะมีหกคนที่ถูกออกหมายเรียก แต่อย่าลืมว่า ข่าวปลอม-ข่าวเท็จแบบนี้มีอยู่ทั่วไปและผู้ที่แชร์ข่าวปลอม-ข่าวเท็จนี้ก็ไม่ได้มีเพียงแค่หกคนอย่างแน่นอน มีคนจำนวนมากที่แชร์ข่าวนี้ไปแต่ไม่ถูกดำเนินคดี ถามว่า นี่คือการเลือกปฏิบัติหรือไม่? นี่คืออีกหนึ่งคดีความทางการเมืองที่ตั้งใจทำเพื่อสกัดกั้นพรรคอนาคตใหม่หรือไม่?
 
 
11 มีนาคม 2562
 
ไทยพีบีเอสรายงานว่า พล.ท.พงศกร รอดชมภู เข้าพบพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการแชร์ข่าวปลอมเกี่ยวกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยเปิดเผยว่า กรณีนี้มั่นใจว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะข่าวที่ตัวเองแชร์นั้น เมื่อแชร์ไปได้ประมาณ 3 นาที ก็ได้ลบโพสต์ออกไป แต่มีผู้บันทึกภาพเอาไว้ จนทำให้ถูกแจ้งความ แต่พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ พร้อมแนะให้ตำรวจสืบสวนถึงผู้ผลิตเนื้อข่าวให้ได้ เพราะที่ผ่านมามีเพียงการจับดำเนินคดีกลุ่มผู้แชร์เท่านั้น
 
 
 

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา