วิ่งไล่ลุงเชียงราย

อัปเดตล่าสุด: 14/07/2563

ผู้ต้องหา

เอกรัฐ

สถานะคดี

ชั้นสืบสวนสอบสวน

คดีเริ่มในปี

2563

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

ไม่มีข้อมูล

สารบัญ

หลังจากที่ธนวัฒน์ นักกิจกรรมทางสังคมประกาศจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่กรุงเทพฯ กฤตตรณ และนรินนิราน์ จึงชวนกันจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่จังหวัดเชียงราย นรินนิราน์ทำเพจเฟซบุ๊กวิ่งไล่ลุงเชียงรายเพื่อใช้ประชาสัมพันธ์กิจกรรม เผยแพร่ครั้งแรกในวันที่ 23 ธันวาคม 2562 จากนั้นนรินนิราน์และกฤตตรณจึงเริ่มดำเนินการประสานงานกับทางตำรวจ แต่เนื่องจากทั้งสองเป็นสมาชิกพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ทั้งสองจึงขอให้รุ่นน้องที่รู้จักช่วยประสานงานกับทางตำรวจแทน เพราะกลัวเจ้าหน้าที่จะนำพรรคไปเชื่อมโยงกับกิจกรรมทั้งที่พรรคไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ
 
เอกรัฐซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีนี้รับอาสาช่วยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ในวันที่ 6 มกราคม 2563 เอกรัฐและเพื่อนอีก 4 คนนำเอกสารขอความอนุเคราะห์ใช้สถานที่จัดกิจกรรมไปยื่นต่อที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ถ่ายภาพผู้เข้ายื่นเอกสารทั้งหมดและถ่ายเอกสารบัตรประชาชนของทุกคนไว้ 
 
นรินนิราน์พบกับตำรวจครั้งแรกในคืนวันที่ 11 ต่อเช้าวันที่ 12 มกราคม 2563 เจ้าหน้าที่และนรินนิราน์เจรจาเรื่องการจัดงานจนได้ข้อสรุปว่าให้จัดงานได้โดยต้องย้ายไปจัดในสวนสาธารณะแทนการจัดในพื้นที่เปิดและให้งดใช้เครื่องขยายเสียง ซึ่งทางผู้จัดก็ยอมทำตาม
 
ในวันเกิดเหตุ ก่อนที่จะเริ่มวิ่ง ผู้จัดได้อ่านแถลงการณ์ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม กิจกรรมในวันเกิดเหตุผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุวุ่นวายใดๆ หลังจากนั้นช่วงปลายเดือนมกราคม 2563 นรินนิราน์ กฤตตรณ เอกรัฐ ได้รับหมายเรียกจาก สภ.เมืองเชียงรายให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาไม่แจ้งการชุมนุมจากการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง
 
นอกจากบุคคลทั้งสามแล้วยังมีอีก 2 คนที่ถูกต้องข้อหาด้วย ได้แก่ ภัทรกฤต และ นิรุตติ์ โดยนรินนิราน์ให้ข้อมูลในภายหลังว่า ภัทรกฤตและนิรุตติ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการจัดกิจกรรม ทั้งสองเพียงแต่อยู่แถวหน้าขณะที่ทางผู้จัดกำลังอ่านแถลงการณ์เท่านั้น ผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 โดยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ภูมิหลังผู้ต้องหา

เอกรัฐเป็นชาวจังหวัดเชียงราย ขณะเกิดเหตุศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยเทคนิคเชียงราย สาขาเทคนิคยานยนต์ เอกรัตน์เป็นหนึ่งในผู้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงเชียงราย
 
กฤตตฤณเป็นชาวกรุงเทพแต่ไปอาศัยและทำธุรกิจอยู่ที่จังหวัดเชียงราย เขาร่วมจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง เพราะต้องการต้องการคัดค้านการทำงานของรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพและมีลักษณะเป็นเผด็จการ

นรินนิราน์เป็นชาวจังหวัดตรัง แต่ย้ายมาอยู่ที่จังหวัดเชียงรายเมื่อมาศึกษาที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ระหว่างศึกษาในระดับปริญญาตรีเธอเคยดำรงตำแหน่งนายกสโมสรนักศึกษาสำนักวิชานวัตกรรมสังคมด้วย หลังจบการศึกนรินนิราน์ยังคงใช้ชีวิตและทำธุรกิจอยู่ที่จังหวัดเชียงราย เธอร่วมจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงเพราะต้องการให้ประชาชนหันมาสนใจการออกกำลังกายและสนใจปัญหาบ้านเมือง

ข้อหา / คำสั่ง

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนสภ.เมืองเชียงรายพอสรุปได้ว่า ก่อนเกิดเหตุผู้กำกับการสภ.เมืองเชียงรายได้สั่งการให้ทำการหาข่าวกรณีที่สืบทราบว่าในวันที่ 12 มกราคม 2563 จะมีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองจัดกิจกรรม "วิ่งไล่ลุงเชียงราย" ในพื้นที่
 
ต่อมาในวันที่ 23 ธันวาคม 2562 ตรวจพบว่ามีการเผยแพร่กำหนดการกิจกรรม วิ่งไล่ลุงเชียงราย บนเฟซบุ๊กเพจ วิ่ง ไล่ ลุง เชียงราย โดยแจ้งกำหนดการจัดงานวันที่ 12 มกราคม 2563 ระหว่างเวลา 16.00 – 18.00 น. มีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรม โดยเฟซบุ๊กเพจดังกล่าวมีนรินนิราน์ เอกรัฐ และธนวัฒน์ เป็นผู้ดูแล
 
ในวันที่ 24 ธันวาคม 2562 พบว่ามีการแจ้งเลขบัญชีของเอกรัฐเพื่อรับโอนเงินค่าสั่งซื้อเสื้อและหมวก
 
ในวันที่ 6 มกราคม 2563 มีตัวแทนของผู้จัดกิจกรรมเข้ามายื่นหนังสือที่สภ.เมืองเชียงรายเพื่อขอใช้เส้นทางในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงรายเป็นพื้นที่จัดงาน  โดยกลุ่มดังกล่าวแจ้งว่าเป็นกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพและนำรายได้ไปบริจาคองค์กรสาธารณะกุศล  ต่อมาในวันที่ 7 มกราคม 2563 กลุ่มดังกล่าวกลับมาติดตามผลการยื่นหนังสือ จากนั้นในวันที่ 9 มกราคม เอกรัฐเดินทางมาติดตามการขออนุญาตใช้เส้นทาง แต่เนื่องจากในวันจัดกิจกรรมมีขบวนเสด็จในบริเวณดังกล่าว สภ.เมืองเชียงรายจึงไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่
 
ในวันที่ 11 มกราคม 2563 เฟซบุ๊กเพจ วิ่ง ไล่ ลุง เชียงราย ลงข้อความโฆษณาย้ายสถานที่จัดงานไปเป็นสวนสาธารณะหาดเชียงราย จากนั้นในวันที่ 12 มกราคม 2563 แกนนำได้เข้ามาตั้งโต๊ะลงทะเบียนและแจกหมวก เสื้อ และบิ้บ (BIB) ที่เป็นสัญลักษณ์ของกิจกรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่ามีผู้ต้องหา 5 คนในคดีนี้เป็นแกนนำในการทำกิจกรรม โดยทั้งห้าเป็นผู้ประกาศ ประชาสัมพันธ์ เชิญชวนประชาชนทั่วไปมาร่วมกิจกรรม
 
ในวันที่ 12 มกราคม 2563 มีประชาชนมาเข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 450 คน เมื่อถึงเวลาเริ่มกิจกรรมกลุ่มแกนนำได้อ่านแถลงการณ์ในการจัดกิจกรรม ผู้ดูแลเพจ วิ่ง ไล่ ลุง เชียงรายได้ถ่ายทอดสดการทำกิจกรรมผ่านทางเฟซบุ๊กตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ก่อนยุติกิจกรรม แกนนำและผู้ร่วมกิจกรรมร้องเพลงชาติร่วมกันและตะโกนว่า "ลุงออกไป" หลายครั้ง ก่อนที่ผู้จัดกิจกรรมจะขอบคุณผู้เข้าร่วมกิจกรรม และยุติกิจกรรมในเวลา 17.20 น.
 
หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวนรายงานเหตุการณ์ให้ผู้กำกับสภ.เมืองเชียงรายทราบ จากการตรวจกิจกรรมตำรวจระบุว่ากิจกรรมวิ่งไล่ลุงเป็นการชุมนุมทางการเมือง และทางกลุ่มไม่ได้แจ้งการชุมนุมตามมาตรา 10 ของ พ.ร.บ.ชุมนุมฯ 

พฤติการณ์การจับกุม

ผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกจึงไม่มีการจับกุมตัว

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ไม่มีข้อมูล

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
23 ธันวาคม 2562 
 
เฟซบุ๊กเพจวิ่งไล่ลุงเชียงรายโพสต์ภาพพร้อมข้อความเชิญชวนประชาชนลงทะเบียนร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงจังหวัดเชียงรายในวันที่ 12 มกราคม 2563
 
6 มกราคม 2563 
 
เอกรัฐซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีนี้พร้อมเพื่อนอีกสี่คนเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองเชียงรายเพื่อยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ใช้สถานที่จัดกิจกรรม
 
7 มกราคม 2563
 
เอกรัฐถูกตำรวจสภ.เมืองเชียงรายโทรตามให้ไปพบผู้กำกับสภ.เมืองเชียงรายสองครั้ง หนึ่งครั้งในช่วงเช้า หนึ่งครั้งในช่วงบ่าย แต่ไม่ได้พบ
 
10 มกราคม 2563 
 
เฟซบุ๊กเพจสภ.เมืองเชียงรายโพสต์ข้อความซึ่งพอสรุปได้ว่า ในวันที่ 9 มกราคม เวลาประมาณ 14.00 น. มีตัวแทนผู้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย เพื่อขอใช้สถานที่จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงในพื้นที่ ทางสภ.เมืองเชียงรายตรวจสอบข้อมูลพบว่า

พื้นที่และเส้นทางที่จะขอใช้จัดกิจกรรมเป็นเส้นทางในการเสด็จพระราชดำเนิน และสภ.เมืองเชียงรายก็ไม่มีอำนาจพิจารณาให้ใช้หรือไม่ให้ใช้พื้นที่  จึงไม่อนุญาตให้จัดกิจกรรม และห้ามไม่ให้ใช้พื้นผิวการจราจรในเส้นทางดังกล่าวด้วย โดยตัวแทนผู้จัดกิจกรรมรับทราบและเข้าใจอย่างดีแล้ว 
 
นอกจากนั้นในส่วนของกิจกรรมงานวิ่ง 1st D.S. Run For Health 2020th ที่มีการขอความอนุเคราะห์จาก สภ.เมืองเชียงรายกำหนดจัดงานในวันเดียวกัน ทาง สภ.เมืองเชียงรายก็ขอความร่วมมือให้เลื่อนการจัดกิจกรรมออกไปก่อนด้วยเหตุผลและความจำเป็นเดียวกัน ทางโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ผู้จัดงานก็ให้ความร่วมมือด้วยดีโดยเลื่อนการจัดออกไปเป็นวันที่
26 มกราคม 63  
 
11 มกราคม 2563
 
นรินนิราน์นัดพบกับรองผู้กำกับสภ.เมืองเชียงรายที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเวลาประมาณ 22.00 น. เพื่อพูดคุยถึงความชัดเจนในการจัดกิจกรรม ท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าทางผู้จัดจะย้ายพื้นที่จัดกิจกรรมไปอยู่ในสวนสาธารณะหาดเชียงรายซึ่งเป็นพื้นที่ปิด แทนการจัดวิ่งบนถนน และตกลงว่าจะไม่ใช่เครื่องเสียงหรือมีการปราศรัยใดๆ นรินนิราน์โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเพจวิ่งไล่ลุงเชียงรายแจ้งย้ายสถานที่จัดกิจกรรมจากสถานที่เดิมมาเป็นที่สวนสาธารณะหาดเชียงราย
 
12 มกราคม 2563
 
การจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงเชียงรายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยที่ก่อนเริ่มปล่อยตัววิ่ง ทางผู้จัดมีการอ่านแถลงการณ์ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน กิจกรรมวิ่งไล่ลุงเชียงรายดำเนินไปท่ามกลางการจับตาอย่างใกล้ชิดของเจ้าหน้าที่
 
อ่านบทสัมภาษณ์ผู้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงเชียงรายเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในวันงาน 
 
25 มกราคม 2563
 
ประชาไทรายงานว่า พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้งห้าคนในคดีนี้รับทราบข้อกล่าวหาไม่แจ้งการชุมนุมตามพ.ร.บ.ชุมนุมโดยเบื้องต้นนัดผู้ต้องหาเข้าพบในวันที่ 31 มกราคม 2563 แต่ต่อมาผู้ต้องหาขอเลื่อนนัดเป็นวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 เนื่องจากพวกเขาติดภารกิจในวันนัดแรก 
 
13 กุมภาพันธ์ 2563
 
ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนเข้าพบพนักงานสอบสวนโดยทั้งหมดให้การปฏิเสธ  
 
18 มีนาคม 2563
 
กฤตตฤณหนึ่งในผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่าขณะนี้อัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกสามปาก และนัดหมายให้ผู้ต้องหาทั้งห้าเข้าพบในวันที่ 9 เมษายน เพื่อฟังคำสั่งคดี
 
6 พฤษภาคม 2563 
 
กฤตตฤณหนึ่งในผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่าอัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 อย่างไรก็ตามมีข้อมูลว่าในภายหลังอัยการเปลี่ยนวันนัดฟังคำสั่งจากวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นวันที่ 27 มิถุนายน 2563 แทน
 
27 มิถุนายน 2563 
 
อัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 27 กรกฎาคม 2563

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา