การชุมนุม “คนนนท์ท้าชนเผด็จการ”

อัปเดตล่าสุด: 21/01/2564

ผู้ต้องหา

พริษฐ์

สถานะคดี

ชั้นสืบสวนสอบสวน

คดีเริ่มในปี

2563

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

ไม่มีข้อมูล

สารบัญ

10 กันยายน 2563 มีการจัดกิจกรรม “คนนนท์ท้าชนเผด็จการ” ที่ท่าน้ำนนท์ จังหวัดนนทบุรี  กิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 – 23.00 น. โดยมีการจัดตั้งเวทีสำหรับแสดงดนตรีและการแสดงเสียดสีประเด็นการเมือง และปราศรัยประเด็นปัญหาทางสังคมต่างๆ โดยมีแกนนำและตัวแทนนักเรียนสลับกันขึ้นมาปราศรัยตามแต่ละประเด็น 
 
พริษฐ์ ปนัสยาและ ภาณุพงศ์ ถูกแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการขึ้นปราศรัยที่มีข้อความพาดพิงถึงพระมหากษัติรย์ ส่วน ชินวัตร และธนกรเยาวชนอายุ 17 ปี ถูกแจ้งความตามประมวลกฎหมายอาญาตามมาตรา 116 จากกิจกรรมนี้
 
ผู้ต้องหาทั้งหมด เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกเมื่อ 8 ธันวาคม 2563 ทุกคนให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวผู้ต้องหาโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ 

ภูมิหลังผู้ต้องหา

พริษฐ์ หรือเพนกวิน เป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด ใช้ชีวิตวัยเด็กที่จังหวัดลำปาง พริษฐ์เป็นอดีตเลขาธิการของกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ซึ่งทำงานรณรงค์เพื่อการปฏิรูปการศึกษาไทยให้มีความก้าวหน้า เป็นผู้ก่อตั้งสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และเป็นแกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ขณะเกิดเหตุคดีนี้พริษฐ์ศึกษาระดับอุดมศึกษาที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และยังคงทำกิจกรรมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง
 
ปนัสยา หรือรุ้ง แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม หัวหน้าพรรคโดมปฏิวัติ กลุ่มกิจกรรมทางการเมืองในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
 
ภาณุพงศ์ หรือ ไมค์ ที่รู้จักกันในนาม "ไมค์ ระยอง" เป็นแกนนำกลุ่มเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย มีชื่อเสียงครั้งแรกจากการไปชูป้ายขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อลงพื้นที่ที่จังหวัดระยองและถูกตำรวจใช้กำลังจับกุมตัวโดยอ้างมาตรการป้องกันโรคโควิด19
 
ชินวัตร หรือ ไบรท์ แกนนำกลุ่มคนรุ่นใหม่นนทบุรี
 
ธนกรหรือเพชรเป็น เยาวชน อายุ 17 ปี 

ข้อหา / คำสั่ง

มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา, มาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญา

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

วันที่ 10 กันยายน 2563 ที่บริเวณท่าน้ำนนท์ จังหวัดนนทบุรี มีการจัดกิจกรรมทางการเมืองโดยมีแกนนำ ได้แก่ พริษฐ์, ปนัสยา, ภาณุพงศ์ ขึ้นกล่าวปราศรัย โดยในเนื้อหาของการปราศรัยมีการกล่าวถึงสถาบันกษัตริย์ จึงถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 
 
ในขณะที่ชินวัตร และธนกร เยาวชนอายุ 17 ปี ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 
 

พฤติการณ์การจับกุม

ผู้ต้องหาทั้งหมดเดินทางไปที่ สภ.เมืองนนทบุรีเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกด้วยตัวเอง ในวันที่ 8 ธันวาคม 2563 จึงไม่มีการจับกุมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด 

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ไม่มีข้อมูล

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
8 กันยายน 2563 
 
พริษฐ์ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีนี้โพสต์ภาพประชาสัมพันธ์การชุมนุมที่ท่าน้ำนนท์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมระบุว่าเขาจะไปร่วมการปราศรัยด้วย
 
Protest tha nam non

10 กันยายน 2563
 
ม็อบดาต้าไทยแลนด์ ระบุว่า เวลาประมาณ 16.30 น. ที่ท่าน้ำนนท์ จังหวัดนนทบุรี ประชาชนนำโดยชินวัตร จันทร์กระจ่าง นักกิจกรรมร่วมกันจัดกิจกรรมคนนนท์ท้าชนเผด็จการ มีข้อเรียกร้องสามข้อตามคณะประชาชนปลดแอกคือ แก้ไขรัฐธรรมนูญ, ยุบสภาและหยุดคุกคามประชาชน
 
ลำดับเหตุการณ์
 
เวลา 16.05 น. บนถนนทางเดินเข้าลานกิจกรรมท่าน้ำนนท์ เจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กมากั้นพร้อมตั้งจุดคัดกรอง มีการติดตั้งประตูตรวจวัตถุระเบิดสองเครื่องและมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคอยคัดกรองอุณหภูมิผู้เข้าร่วมการชุมนุม นอกจากนั้นก็มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนเดินเข้าพื้นที่การชุมนุมด้วย
 
เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก กิจกรรมบนเวทีจึงล่าช้าออกไปเพราะผู้ปราศรัยที่มาจากนอกพื้นที่เดินทางมาถึงล่าช้า รวมทั้งฝนที่ตกลงมาอย่างหนักก็ทำให้การทดสอบเครื่องเสียงซึ่งเป็นการตั้งเวทีแบบเต็มรูปแบบต้องล่าช้าไปด้วย
 
ระหว่างที่รอเวลาเริ่มเวทีมีกลุ่มนักเรียนทยอยเข้าพื้นที่การชุมนุมเป็นระยะ ทางผู้จัดงานเตรียมเทปกาวสีทึบไว้คอยบริการปิดชื่อ และเครื่องหมายสถาบันการศึกษาทั้งบนเครื่องแบบและบนกระเป๋า ขณะที่ชินวัตร จันทร์กระจ่าง หนึ่งในผู้จัดงานที่ทำหน้าที่ปราศรัยระหว่างรอเริ่มเวทีก็ประกาศขอความร่วมมือครูที่ติดตามมาดูแลนักเรียนนอกพื้นที่การชุมนุมให้เคารพเสรีภาพของนักเรียนในการเข้าร่วมการชุมนุม
 
เวลา 17.25 น. กิจกรรมบนเวทีเริ่มขึ้นเปิดด้วยการแสดงดนตรีจากนั้นจึงมีตัวแทนผู้ชุมนุมสลับกันขึ้นปราศรัย ในประเด็นต่างๆ เช่นเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ
 
เวลา 19.54 น. ภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตยขึ้นเวทีปราศรัย เขาเพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2563 หลังศาลอาญาสั่งเพิ่มวงเงินประกันตัวในคดีการชุมนุมเยาวชนปลดแอก แต่ภาณุพงศ์ไม่ยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวจึงต้องถูกคุมตัวในเรือนจำ ตอนหนึ่งภาณุพงศ์พูดถึงสภาพความเป็นอยู่และปัญหาของคนในเรือนจำ ขณะเดียวกันก็ตั้งคำถามถึงความไม่ชอบมาพากลทั้งกลทั้งในขั้นตอนการถอนคำร้องให้เพิกถอนการประกันตัวและการปล่อยตัวที่ทำในวันหยุดราชการ 
 
นอกจากนี้มีผู้ปราศรัยคนสำคัญทั้งพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ที่เพิ่งเดินทางกลับจากไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีการชุมนุมอีสานบ่ย่านเด้อ ที่จังหวัดขอนแก่น รวมทั้งปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง หัวหน้าพรรคโดมปฏิวัติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขึ้นปราศรัยด้วยโดยในช่วงท้ายกิจกรรม
 
ในส่วนมาตรการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย จากการสอบถามหนึ่งในผู้จัดการชุมนุมทราบว่ามีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบอย่างน้อยสามกองร้อย รวมทั้งยังมีเจ้าหน้าที่สวมเสื้อกั้ก "กรมการปกครอง" บางส่วนอยู่ในพื้นที่ด้วย มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดแบบเฉพาะกิจอย่างน้อย 18 ตัว ทั้งบริเวณทางเข้าออกและลานกิจกรรม นอกจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบคอยถ่ายภาพกิจกรรมทั้งบนเวทีและผู้ร่วมชุมนุม ขณะเดียวกันก็ทราบข้อมูลจากผู้จัดกิจกรรมว่า มีครูจากโรงเรียนบางแห่งในพื้นที่ใกล้เคียงมายืนสังเกตการณ์ที่บริเวณทางขึ้นเรือท่าน้ำนนท์ ซึ่งทางผู้จัดการชุมนุมต้องพูดเป็นระยะขอให้ครูอย่าแสดงการคุกคามหรือห้ามการใช้เสรีภาพการชุมนุมของนักเรียน
 
สำหรับมาตรการอำนวยความสะดวกผู้ชุมนุมในวันนี้มีการเปิดไฟลานกิจกรรมตามเวลาปกติและมีรถสุขาของเทศบาลนครนนทบุรีมาจอดให้บริการหนึ่งคัน
 
 
7 ธันวาคม 2563 
 
พริษฐ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (8 ธันวาคม 2563) ตน และเพื่อนนักเคลื่อนไหวอีก 3 คน จะต้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดี 112 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี ซึ่งอาจทำให้ต้องเสียอิสรภาพอยู่ในเรือนจำ จึงขอให้ทุกคนมาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย 
 
ปนัสยา ได้โพสต์เฟสบุ๊กระบุว่า ขอระดมพลทุกคน เนื่องจากตน พริษฐ์ ภาณุพงศ์ และชินวัตร ต้องไปรับทราบข้อกล่าวหามาตรา 112 ที่ถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี แต่เจ้าหน้าที่แจ้งล่วงหน้าว่าจะนำตัวไปศาลเพื่อขอฝากขัง จึงขอให้ประชาชนช่วยมาสังเกตการณ์การสอบสวน โดยหวังว่าตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรมและไม่นำตัวไปขอฝากขัง ดังที่ สน.ชนะสงคราม ได้เคยปฏิบัติมาก่อนหน้านี้ 
 
8 ธันวาคม 2563 
 
นัดรับข้อกล่าวหา
 
ตั้งแต่ก่อน 10.00 น. มีประชาชนรวมตัวที่หน้าสภ.นนทบุรีใกล้ท่าน้ำนนท์ประมาณ 30 คน เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรีนำรถเครื่องเสียงพร้อมลำโพงหนึ่งคันมาจอดหน้าสภ.หนึ่งคัน
 
ชินวัตร หนึ่งในสมาชิกเครือข่ายคนรุ่นใหม่ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ในคดีขึ้นปราศรัยในเวลาประมาณ 10.30 น. ตอนหนึ่งว่า ที่ตัวเขากับเพื่อนๆต้องออกมาชุมนุมโดยเฉพาะการเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯก็เพราะมีความห่วงกังวลหลายเรื่องอย่างทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่เคยเป็นทรัพย์สินส่วนกลางก็ถูกทำให้เป็นทรัพย์ส่วนพระองค์แล้วถามว่าพระมหากษัตริย์องค์ถัดไปจะทำอย่างไร
 
“ถ้าคนเสื้อเหลืองอ้างว่ารักสถาบันและเปิดใจพอพวกเขาก็ควรออกมาสู้กับเรา การรักสถาบันต้องไม่ใช่รักแบบไม่มีเหตุไม่มีผลและที่สำคัญทุกคนต้องถูกพูดถึงวิพากษ์วิจารณ์ได้เพราะเราต่างเป็นคนเท่ากัน”
 
ชินวัตรกล่าวต่อว่า “อยากฝากไปถึงคนที่ต้องการดำเนินคดีพวกเขาด้วยว่าให้ออกมาแจ้งความเองไม่ใช่หลบอยู่ข้างหลังแล้วให้ลูกน้องมาแจ้งความ”
 
เวลาประมาณ 10.30 น. ตัวแทนเครือข่ายอ่านแถลงการณ์
 
เวลาประมาณ 11.20 น. ภาณุพงศ์ พริษฐ์และปนัสยา ทยอยมาถึงหน้าสภ.นนทบุรี สื่อมวลชนและผู้ชุมนุมบางส่วนที่อยู่ในพื้นที่กรูกันเข้าไปถ่ายภาพผู้ต้องหาประชาชน บางส่วนชูสามนิ้วและตะโกนให้กำลังใจผู้ต้องหา 
 
เวลาประมาณ 11.30 น. ผู้ต้องหาทั้งสี่เดินเข้าไปในสภ.นนทบุรีเพื่อรายงานตัว ผู้ชุมนุมมากกว่า 50 คนเดินตามเข้าไปและตะโกนยกเลิก 112 ตลอดทางที่เดินเข้าไป
 
การสอบสวนดำเนินไปจนถึงช่วงประมาณ 13.00 น.  ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ทั้งสามคนได้แก่ พริษฐ์ ปนัสยา ภาณุพงศ์ และชินวัตร ผู้ต้องหาคดีมาตรา 116 ได้รับการปล่อยตัวออกมาจากสภ.นนทบุรี ทั้งหมดให้การปฏิเสธ 
 
คดีนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดเข้ารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก จึงไม่มีการจับกุมตัว หลังผู้ต้องหาทั้งหมดเข้ารายงานตัว พนักงานสอบสวนไม่ได้ขออำนาจศาลฝากขังและปล่อยตัวผู้ต้องหาโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์  
 
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า พริษฐ์ ปนัสยา และภาณุพงศ์ปฏิเสธที่จะลงลายมือชื่อในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาเพราะไม่ยอมรับว่าประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นกฎหมาย 
 
หลังเสร็จขั้นตอนทางคดีผู้ต้องหาทั้งสี่ขึ้นรถโมบายเพื่อปราศรัยกับผู้มาให้กำลังใจเป็นเวลาสั้นๆ
 
 ภาณุพงศ์ระบุว่า “คนที่ถูกดำเนินคดีไม่ได้มีความกังวล พวกเขามารับข้อกล่าวหา และพวกเขาทุกคนบริสุทธิ์ใจเป็นอย่างยิ่งในการต่อสู้ รวมทั้งเชื่อว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่ความผิด เพียงแต่พวกเขาพูดความจริงและเป็นผู้ถูกกระทำ”
 
 เพชร เยาวชนอายุ 17 ปี อีกหนึ่งผู้ต้องหาตามมาตรา 116 ระบุว่า เขาถามตัวเองว่า อาจเป็นเพราะเขายังเป็นเยาวชนอยู่เจ้าหน้าที่เลยเลือกที่จะยังไม่ใช้มาตรา 112 เพชรระบุว่าในอนาคตคิดว่าเขาเองก็อาจถูกตั้งข้อหาตามมาตรา 112 แต่เขาก็พร้อมสู้ร่วมกับทุกคน
 
พริษฐ์กล่าวว่า “มาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทย นับวันจะยิ่งต่ำเตี้ยลง ในสมัยที่ตัวเขาเป็นนักเรียนมัธยมและออกมาต่อสู้นั้น ยังมีบรรทัดฐานทางกฎหมายว่าคดีการเมืองจะไม่นำมาใช้กับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี วันนี้มาตรฐานนั้นได้พังทลายลงแล้ว ประเทศนี้แปลก ทหารประเทศอื่นใช้รบกับศัตรู แต่ประเทศนี้ใช้รบกับประชาชน ตำรวจประเทศอื่นมีหน้าที่รบกับโจร จับโจร ในประเทศนี้มีหน้าที่รบกับอนาคต จับเด็ก เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจะปล่อยให้เป็นเรื่องปกติไปได้ ขอให้พ่อแม่พี่น้องชูสามนิ้วขึ้นเพื่อเป็นกำลังใจให้กับเยาวชนของเรา เราจะสู้ไปด้วยกันจนกว่ามันจะจบที่รุ่นเรา”
 
ชินวัตรกล่าวว่า “เรื่องมาตรา 112 อยากฝากไปถึงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่กำลังคิดจาะใช้มาตรา 112 กับผู้ที่ออกมาเรียกร้องและผู้ที่พูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า ถ้าคุณจงรักษ์ภักดีจริง เหตุใดจึงดำเนินคดีประชาชนด้วยมาตรา 112 ซึ่งถือเป็นการขัดพระราชประสงค์ ตามที่พล.อ.ประยุทธ์เองก็เคยพูดไว้”
 
หลังการปราศรัยยุติในเวลา 13.25 น. ผู้ชุมนุมก็แยกย้ายกันกลับโดยมีบางส่วนเดินทางไปที่สน.ชนะสงครามเพื่อให้กำลังใจจตุภัทร์หรือไผ่ ดาวดิน และสมยศ พฤกษาเกษมสุขที่มีกำหนดเข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีมาตรา 112 ในช่วงบ่าย
 

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา