ณัฐ: ใส่ครอปท็อปเดินพารากอน

ผู้ต้องหา

“ณัฐ”

สถานะคดี

ชั้นสืบสวนสอบสวน

คดีเริ่มในปี

2564

โจทก์ / ผู้กล่าวหา

ว่าที่ ร.ต.นรินทร์ ศักดิ์เจริญชัยกุล สมาชิกกลุ่มไทยภักดี

สารบัญ

20 ธันวาคม 2563 แกนนำกลุ่มราษฎรนัดทำกิจกรรม #ใครๆก็ใส่ครอปท็อป นัดหมายสวมชุดครอปท็อปเดินห้างสยามพารากอน “ณัฐ” และ ธนกร เยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปีได้เข้าร่วมกิจกรรมด้วย  
 
หลังวันเกิดเหตุ "ณัฐ" และธนกร ถูกออกหมายเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

ทั้งสองเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 20 มกราคม 2564 ที่สน.ปทุมวัน โดยพนักงานสอบสวนนัดผู้ต้องหาทั้งสองส่งตัวต่ออัยการวันที่ 5 มีนาคม 2564 
 

ภูมิหลังผู้ต้องหา

ณัฐ (นามสมมุติ) เยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี
 
ธนกร เยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี 
 

ข้อหา / คำสั่ง

มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา

การกระทำที่ถูกกล่าวหา

พ.ต.ท.เจริญศักดิ์ จงอิทธิ รองผู้กำกับการสอบสวน สน.ปทุมวัน ในฐานะพนักงานสอบสวน บรรยายพฤติการณ์แห่งคดีว่า
 
"ณัฐ" และธนกร เข้าร่วมกิจกรรมที่ผู้ร่วมกิจกรรมแต่งชุดครอปท็อป และแสดงออกให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่ากำลังแสดงเป็นพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่สิบและพระราชินี พร้อมด้วยข้าราชบริพาร

ผู้ต้องหาทั้งสองในคดีนี้ร่วมเดินอยู่ในกลุ่มคนที่ทำกิจกรรมดังกล่าวตลอดเวลา และยังร่วมกันชูนิ้วถ่ายภาพที่ลานพาร์ค พารากอนด้วย ธนกรชูป้ายกระดาษเขียนข้อความ “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” “ยกเลิก ม.116 ม.112”  
 
ผู้กล่าวหาเห็นว่ากลุ่มของผู้ต้องหามีเจตนาล้อเลียนพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่สิบ เข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ จึงเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดี 

พฤติการณ์การจับกุม

ผู้ต้องหาทั้งสองเข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 20 มกราคม 2564 พร้อมกับผู้ต้องหาที่ไม่ใช่เยาวชนที่ถูกฟ้องเป็นอีกคดีหนึ่ง หลังเสร็จสิ้นกระบวนการพนักงานสอบสวนปล่อยทั้งสองกลับบ้านโดยไม่ได้ส่งตัวไปที่ศาลเยาวชน

บันทึกสังเกตการณ์ในชั้นศาล

ไม่มีข้อมูล

หมายเลขคดีดำ

ไม่มีข้อมูล

ศาล

ไม่มีข้อมูล

เนื้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีข้อมูล

แหล่งอ้างอิง

ไม่มีข้อมูล
20 ธันวาคม 2563 
 
ว็อยซ์ทีวีออนไลน์ รายงานว่า ในเวลาประมาณ 17.00 น. พริษฐ์ และบุคคลอื่นรวมสี่คน แต่งกายด้วยชุดครอปท็อปไปเดินในศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมีประชาชนบางส่วนร่วมถ่ายภาพ และให้กำลังใจ ด้วยการชูสามนิ้วและมีสื่อมวลชนหลายสำนักรวมทั้งเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบติดตามถ่ายภาพและตลอดกิจกรรม
 
พริษฐ์ กล่าวถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้นว่า เป็นไปเพื่อยืนยันว่าการสวมชุดครอปท็อปไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกรณี เยาวชนอายุ 16 ปี สวมชุดครอปท็อปพร้อมเขียนตัวเองด้วยข้อความว่า "พ่อกูชื่อมานะ" ร่วมกิจกรรมเดินแฟชั่นที่ถนนสีลม ในเดือนตุลาคม 2563 แล้วถูกดำเนินคดีมาตรา 112 พริษฐ์กับพวกจึงทำกิจกรรมนี้เพื่อยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวไม่ผิดกฎหมาย
 
20 มกราคม 2564 
 
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า "ณัฐ" และ ธนกร รวมถึง ผู้ต้องหาสี่คนในอีกสำนวนคดีหนึ่งจากเหตุเดียวกันได้แก่ พริษฐ์ , ปนัสยา , เบนจา และภาณุพงศ์ เดินทางไปที่สน.ปทุมวัน เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก
 
ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้งหมดจะเข้ารายงานตัวในสน.ปทุมวัน มีผู้นำป้ายไวนิลข้อความ “ยาไม่จับ บ่อนไม่จับ จับแต่นักเรียน นักศึกษา” มาติดที่รั้วด้านหน้าสน. แต่ตำรวจสองนายพยายามเข้ายึด ผู้ที่นำป้ายมาและประชาชนอีกส่วนหนึ่งจึงนำป้ายมาถือให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพแทน ก่อนนำป้ายไปติดที่รั้วฝั่งตรงข้ามสถานีตำรวจ ที่หน้าสน.ยังมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อต่อต้านประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และการอุ้มหายผู้เห็นต่างทางการเมืองด้วย
 
คดีนี้มีประชาชนคือ ว่าที่ ร.ต.นรินทร์ ศักดิ์เจริญชัยกุล สมาชิกกลุ่มไทยภักดี เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้ต้องหาทั้งสองคนในคดีนี้และผู้ต้องหาอีกสี่คนที่ถูกแยกฟ้องเป็นอีกสำนวนคดีหนึ่ง ในการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธและแจ้งพนักงานสอบสวนว่าจะให้การเป็นหนังสือภายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 
 
หลังรับทราบข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนนัดผู้ต้องหาทั้งสองส่งตัวให้อัยการในวันที่ 5 มีนาคม 2564 และปล่อยตัวทั้งสอบกลับโดยไม่นำตัวส่งศาลเยาวชน อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมผู้ไว้ใจต้องเดินทางไปที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กธนบุรีหลังเสร็จขั้นตอนที่สน.ปทุมวันเพื่อกำหนดนัดหมายวันสืบเสาะและพินิจต่อไป  
 
 คดีนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า พนักงานสอบสวนไม่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลเยาวชนและครอบครัวออกหมายควบคุมตัวเยาวชนทั้งสอง ซึ่งก่อนหน้านี้ ในคดีมาตรา 112 ของเยาวชน 2 คดี คือ คดีที่สายชล (นามสมมติ) ตกเป็นผู้ต้องหาจากการแต่งชุดครอปท็อปและเขียนข้อความบนตัวเองไปในกิจกรรม #ม็อบ29ตุลา หน้าวัดแขก ถนนสีลม และคดีที่ธนกร ตกเป็นผู้ต้องหาจากเหตุปราศรัยในการชุมนุมบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ หลังแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว พนักงานสอบสวนได้นำตัวไปยื่นคำร้องขอให้ศาลเยาวชนและครอบครัวออกหมายควบคุมตัว โดยศาลอนุญาตให้ออกหมายควบคุมตัว และครอบครัวต้องวางหลักทรัพย์ประกันตัวเยาวชน ทั้งที่เยาวชนทั้งสองเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ไม่ได้ถูกจับกุมตามหมายจับแต่อย่างใด
 
นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตอีกประการหนึ่งว่า ในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวน ยังปรากฏชื่อ ‘ป๊อกแป๊ก’ เป็นผู้ต้องหาอีกรายซึ่งร่วมทำกิจกรรมในวันเกิดเหตุ 

คำพิพากษา

ไม่มีข้อมูล

ดูแฟ้มคดีอื่นๆ

บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์: ข้อสอบวิชาอารยธรรมไทย

คดีชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จ

รุ่งทิวา