- เว็บไซต์ไอลอว์
- ศูนย์ข้อมูลฯ
112 The Series
112 The Series
คดีมาตรา 112 ของ "ธเนศ" (นามสมมติ) ไม่ใช่คดีการเมืองใหญ่โตและไม่เป็นที่รู้จักมากนัก "ธเนศ" เป็นคนตัวเล็กๆ ที่ไม่มีฐานะทางเศรษฐกิจ ทางสังคม หรือมีสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์นัก
"ธเนศ" ถูกจับอย่างเงียบๆ โดยไม่มีใครรู้จัก ครอบครัวทราบว่าเขาถูกจับ แต่ไม่มีความรู้ทางกฎหมายและคดีความ จึงไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร เมื่อ "ธเนศ" ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ นักโทษคดีมาตรา 112 ที่อยู่ในนั้นก่อนแล้วพบกับเขา และบอกเล่าเรื่องราวของเขาออกมาข้างนอกเพื่อให้มีคนเข้าไปช่วยเหลือ
"ธเนศ" บอกกับทุกคนว่าได้ยินเสียงแว่วอยู่ในหูตลอดช่วงเวลา 20-30 ปีในชีวิตของเขา เขาถูกกลั่นแกล้งโดยข้าราชบริพารของราชสำนักมาโดยตลอด เช่น เมื่อขี่จักรยานไปที่ไหนก็จะมีคนเอาก้อนหินมาวางขวางทาง หรือเมื่อย้ายที่พักข้างห้องก็จะเคาะฝาห้องเสียงดัง หรือเมื่อย้ายที่ทำงานก็จะถูกยุแหย่ให้คนที่ทำงานไม่ชอบหน้า หรือเคยถูกคนขโมยของ และรู้สึกเหมือนถูกจับจ้องมอง ถูกคิดร้ายอยู่ตลอดเวลา
"ธเนศ" ไม่เคยเข้ารับการตรวจอาการทางจิต ไม่เคยยอมไปหาหมอ เพราะเขาเชื่อว่าสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นกับเขาจริงๆ
"ซัลมาน" : คำพิพากษาและการลาจาก
ผมได้พบ "ซัลมาน" ครั้งแรกช่วงเดือนกันยายน 2556 ที่ห้องเยี่ยมของเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ขณะนั้น "ซัลมาน" เพิ่งเข้าเรือนจำได้ไม่นาน หลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำคุกเขาด้วยมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะไปโพสต์ข่าวลือไม่เป็นมงคลในเว็บบอร์ดของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ครั้งแรกที่พบกัน ผมเห็นหน้า "ซัลมาน" ไม่ชัดนัก เพราะเขาสวมหน้ากากเพราะกำลังป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ เท่าที่รู้คือเขาเป็นชายร่างสูง ผิวคล้ำ และตากลมโตสไตล์ชาวอาหรับ ส่วนผมบนศีรษะก็สั้นเกรียนเหมือนผู้ต้องขังคนอื่นๆ
จารุวรรณ: ที่เสียไปไม่ใช่แค่ 85 วัน
คดีหมิ่นเบื้องสูงของ จารุวรรณ กลายเป็นข่าวดังกลางเดือนพฤศจิกายน หลังจากนายทหารพระธรรมนูญเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ตำรวจดำเนินคดี กับ "เฟซบุ๊คหมิ่นฯ" ที่โลกออนไลน์แชร์ต่อกันเกือบหมื่นครั้ง และ 2-3 วันให้หลัง ก็มีข่าวจับกุมเพื่อนชายที่เกี่ยวข้องกับคดีเพิ่มอีก 2 คน
คงไม่มีใครคาดคิดว่า เพียงแค่การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือการเขียนกาพย์กลอนการเมืองจะเป็นเหตุให้ต้องถูกเจ้าหน้าที่ทหารตามไล่ล่า หรือทำให้ครอบครัวต้องตกอยู่ในสภาวะหวาดกลัว แต่มันคือความจริงที่เกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย เมื่อ คสช. เริ่มประกาศรายชื่อคนผ่านทางโทรทัศน์ ว่าใครบ้างจะต้องมารายงานตัวที่ค่ายทหารเพื่อ "ปรับทัศนคติ"
ติดตามข้อมูลคดีของ 'สิรภพ' ในฐานข้อมูลของเรา ที่นี่
ภรณ์ทิพย์: กลุ่มละครกับความฝัน
"เราคิดเรื่องกฎหมายกันก่อนแสดง และพูดกันหลังเวทีก่อนขึ้นแสดงด้วยซ้ำ เราคิดว่ามันเหมือนกับละครจักรๆ วงศ์ๆ ที่ฉายกันตอนเช้าทางโทรทัศน์ ซึ่งมีเรื่องเจ้าอยู่ด้วย แล้วเราก็คิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะมาดำเนินคดีกับละคร ซึ่งเป็นเรื่องไร้สาระมาก"
ณัฐ : เหตการณ์เดิมๆ กับสถานที่แห่งเดิม
เพราะความสนใจและความตื่นตัวทางการเมือง ณัฐเริ่มเขียนอีเมลโต้ตอบกับชาวต่างชาติคนหนึ่ง ที่เขาไม่เคยเจอตัวมาก่อน ท้ายที่สุดเขาก็ถูกจับเพราะส่งอีเมลโต้ตอบกับชาวต่างชาติซึ่งเป็นคนที่ทางการไทยจับตามองอย่างใกล้ชิด อีเมล์ของเขาถูกมองว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญามาตรา112
ติดตามข้อมูลคดีของ 'ณัฐ' ในฐานข้อมูลของเรา ที่นี่
โอภาส: An old man and his love.
โอภาสชายวัย 67 รูปลักษณ์ภายนอก ผมขาวสีดอกเลา กับท่าทางดูใจดี พร้อมมิตรไมตรีจากรอยยิ้ม เมื่อเข้าไปกล่าวทักทายและเอ่ยปากชวนคุย เราทั้งสามคนก็เข้าไปท่องอยู่ในบทสนทนาหลากหลายเรื่องราว ภาษา วรรณกรรม ลงเอยด้วยดนตรี สิ่งที่เราต่างก็สนใจเหมือนๆ กัน กระทั่งการจับเจ่าอยู่กับข่าวสารการเมืองเกินไป เกิดเป็นความเครียดต้องการหาที่ระบาย ลงเอยด้วยโอภาสไปเขียนบนฝาผนังห้องน้ำในห้างสรรพสินค้า ข้อความที่เขาเขียนถูกมองว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญามาตรา 112
ติดตามข้อมูลคดีของ 'โอภาส' ในฐานข้อมูลของเรา ที่นี่
ใหญ่ แดงเดือด: ในฤดูร้อนที่ไม่เป็นเช่นเคย
สายวันหนึ่งในช่วงปลายมีนาคม 2558 ฤดูร้อนที่เปลวแดดยังแผดแรง ที่อาคารกรมพระธรรมนูญ หรือที่ตั้งศาลทหารกรุงเทพฯ ครอบครัวหนึ่งอาศัยรถตู้โดยสาร เดินทางจากนครปฐมเพื่อมานัดตามหมายศาล ด้วยความหวังว่าจะได้พบกับคนที่พลัดพราก และจะได้อยู่ร่วม วันชี้ชะตากรรมในเวลาที่เหลืออยู่ข้างหน้า พวกเขามาเฝ้ารอลุ้นจำนวนปีที่คนคนหนึ่งจะต้องถูกคุมขังอันเป็นโทษทัณฑ์ของการโพสต์เฟซบุ๊ก
ติดตามข้อมูลคดีของ 'ใหญ่ แดงเดือด' ในฐานข้อมูลของเรา ที่นี่
ปากคำและความฝันของ "บรรพต" : "ผมไม่เคยคิดล้มเจ้าเลย ระบบกษัตริย์มีความงดงาม"
เมื่อพูดถึงชื่อของ "บรรพต" นักจัดรายการวิทยุเรื่องการเมือง และ "ด่าเจ้า" ทางอินเทอร์เน็ต หลายคนอาจจะรู้สึก "ยี้" คนที่ไม่ชอบบรรพตไม่ได้มีแค่คนที่รู้สึกรับไม่ได้กับวิธีที่เขาพูดถึงในหลวงเท่านั้น นักวิชาการหรือนักเคลื่อนไหวทางการเมืองจำนวนไม่น้อยไม่ชอบบุคคลเบื้องหลังชื่อ "บรรพต" เพราะมองว่าเขาวิเคราะห์การเมือง "มั่ว" ไม่รู้ไปเอาข้อมูลมาจากไหน 9 กุมภาพันธ์ 2558 มีข่าวการจับกุมเจ้าของเสียง "บรรพต"
ติดตามข้อมูลคดีของ 'บรรพต' ในฐานข้อมูลของเรา ที่นี่
ศศิวิมล: วันแม่ ที่ไม่มีแม่อยู่
ปิยะ: ความหวังของพ่อ รอยยิ้มของปิยะ...ที่เลือนหายไป
“ผมรับไม่ได้ครับ ผมไม่ได้ทำ ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ” ปิยะพูดด้วยนำเสียงที่หนักแน่นแต่สดใด น้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยกำลังใจนี้เองที่ส่งให้การต่อสู้คดียืดยาวมาปีเศษ
ติดตามข้อมูลคดีของ ปิยะ ในฐานข้อมูลของเราที่นี่
____________________________________________________________________________________________________________
ชีวิตของ "แม่ทิพย์" เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งก็เหมือนคนทำมาหากินทั่วไป แม้แม่ทิพย์จะสนใจการเมืองแต่ก็ไม่เคยไปร่วมการชุมนุมเพราะภาระทางครอบครัวไม่เอื้ออำนวย เธอได้แต่เพียงติดตามข่าวและใช้เฟซบุ๊กแชร์ข่าวหรือแสดงความเห็นทางการเมืองเท่านั้น ทว่าการโพสต์ภาพของเธอกับเพื่อนและข้อความที่เจ้าหน้าที่เห็นว่ามีลักษณะเป็นการเสียดสีพระมหากษัตริย์ก็เพียงพอแล้วที่จำทำให้เธอต้องถูกจองจำเป็นเวลาเก้าเดือน ถึงแม้ว่าโทษจำคุกของเธอจะน้อยกว่าผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 อีกหลายคนแต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้ชีวิตของเธอพังทลายชนิดที่ยากจะซ่อมแซม