1503 1563 1504 1072 1391 1145 1069 1194 2000 1862 1392 1788 1434 1260 1868 1612 1778 1062 1575 1140 1256 1158 1607 1380 1852 1912 1593 1023 1830 1368 1979 1068 1154 1038 1264 1697 1464 1847 1207 1676 1468 1302 1286 1087 1611 1814 1434 1346 1011 1318 1563 1797 1870 1097 1871 1135 1361 1400 1765 1763 1942 1965 1458 1966 1696 1747 1298 1285 1187 1245 1156 1398 1820 1164 1285 1960 1505 1604 1235 1433 1853 1189 1724 1319 1858 1970 1947 1532 1166 1350 1625 1678 1234 1092 1851 1400 1706 1854 1064 ตำรวจส่งฟ้องคดีนิสิตปัดฝุ่นประชาธิปไตย ฐานชุมนุมทางการเมือง | Freedom of Expression Documentation Center | ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ

ตำรวจส่งฟ้องคดีนิสิตปัดฝุ่นประชาธิปไตย ฐานชุมนุมทางการเมือง



2 ตุลาคม 2561 ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางเขน (สน.บางเขน) นัดส่งสำนวนฟ้องต่ออัยการศาลทหารกรุงเทพคดีขัดคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2588 และพ.ร.บ.ชุมนุมฯ ของชนกนันท์, อรัญญิกา, เกษมชาติ, สุทธิดา, กานต์, อุทัย และคุณภัทร นักกิจกรรมและนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในนามกลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ จำนวน 7 คนจากการจัดกิจกรรมปัดฝุ่นประชาธิปไตย รำลึกครบรอบการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2559 ที่อนุสาวรีย์ปราบกบฏ วงเวียงหลักสี่ เพื่อรำลึกถึงคณะราษฎรและเหตุการณ์การปราบปรามกบฏบวรเดชอันเป็นที่มาของอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ(อนุสาวรีย์ปราบกบฏ หรืออนุสาวรีย์หลักสี่) เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2559
 
ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนสน.บางเขน ได้นัดผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 คนที่สน.บางเขน ต่อมาเปลี่ยนแปลงให้มาพบที่ศาลทหารกรุงเทพในวันนี้แทน เวลา 9.45 น. อรัญญิกา, เกษมชาติ, สุทธิดา, กานต์, อุทัย และคุณภัทร ยกเว้นชนกนันท์ ซึ่งลี้ภัยทางการเมือง เดินทางมาถึงศาลทหารกรุงเทพ โดยมีอาจารย์และประชาชนมาร่วมให้กำลังใจจำนวนประมาณ 20 คน หลังจากนั้นตัวแทนกลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ได้อ่านแถลงการณ์ยุติการดำเนินคดีต่อ “7นศ. คดีปัดฝุ่นประชาธิปไตย” ที่ใช้สิทธิในการจัดกิจกรรมอย่างสงบ(อ่านเพิ่มเติมด้านล่าง)
 
คุ้มเกล้า คงสมบูรณ์ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า "ขั้นตอนวันนี้คือ พนักงานสอบสวนนำสำนวนในคดีนี้มาส่งให้กับอัยการศาลทหารกรุงเทพ โดยคดีนี้มีผู้ถูกกล่าวหามารายงานตัว 6 คน ส่วนชนกนันท์ ทางตำรวจได้ออกหมายจับไปแล้ว อย่างไรก็ดีอัยการศาลทหารเลื่อนฟังคำสั่งฟ้องไปวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 โดยหากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดี ทนายความก็จะยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวอีกครั้งหนึ่ง"
 
966

ผู้ต้องหาทั้งหกเข้ารายงานตัวที่ศาลทหาร กรุงเทพ 2 ตุลาคม 2561
 
ขณะที่ชลิตา บัณฑุวงศ์อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงท่าทีของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หลังจากคดีนี้เกิดขึ้น ว่า "ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้มาสนใจ ถามไถ่หรือว่าให้ความช่วยเหลืออะไร แต่ในวันที่ 24 มิถุนายน 2559 หรือวันเกิดเหตุในตอนที่ตำรวจได้ควบคุมตัวทั้ง 7 คนมาไว้ที่สน.บางเขน ไม่ให้ทนายความเข้าไปด้วย ตำรวจได้ประสานกับทางมหาวิทยาลัยให้อาจารย์ 3 คนมาพบนิสิต แต่พอไปถึงสน.บางเขนก็มาช่วยตำรวจค้นกระเป๋าทั้ง 7 คนและกล่าวในทำนองที่ว่า ให้ทั้ง 7 เข้ากระบวนการปรับทัศนคติเพื่อให้คดีความยุติ แต่ทั้งหมดไม่ยอมเพราะเชื่อว่า ไม่ได้ทำอะไรผิด อาจารย์ก็กลับไปด้วยความโกรธ
 
หลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวและกลับมาเรียนปกติ ทางผู้บริหารมองว่า นิสิตทำผิด ทราบว่า มีความพยายามที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยนิสิต แต่ด้วยกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ท่าทีของมหาวิทยาลัย ทำให้เรื่องก็เงียบลง แต่มีความพยายามอื่นๆ เช่น คณบดีของนิสิตบางคนโทรไปเรียกพ่อแม่ของนิสิตให้มาพูดคุย พ่อแม่ก็ต้องเดินทางจากต่างจังหวัดมาพูดคุยกัน ในการพูดคุยก็พูดจาดี ทำนองว่า เป็นห่วง จะดูแล เดี๋ยวจะให้มาช่วยงานจะได้ไม่ไปยุ่งการเมือง แต่จริงๆ ถ้าเรามองจริงมันคือการข่มขู่
 
ที่ผ่านมาไม่เคยมีกระบวนการมาช่วยเหลือด้านกฎหมาย ณ ตอนนี้คือ ทำเหมือนกับว่า ไม่รับรู้เรื่องนี้ นิสิตถ้าจะมาศาล ก็จะลาอาจารย์ผู้สอนเอง ทุกคช่วยเหลือตัวเอง มหาวิทยาลัยก็ไม่ได้สนใจในการปกป้องสิทธิ เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อนิสิตพอสมควร มันเป็นการสร้างความหวาดกลัวส่งผลต่อจิตใจ นิสิตบางคนเกิดความเครียด
 
นอกจากนี้กระบวนการปิดกั้นเสรีภาพการแสดงออกยังมีมาโดยตลอด ปี 2560 มีการจัดเสวนา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิชาที่เรียน แต่ปรากฏว่า ตำรวจทหารหลายสิบคนมาปิดตึก ไม่ให้แม้กระทั่งนิสิตที่เรียนวิชาอื่นๆ ขึ้นไปเรียน"
 
แถลงการณ์ยุติการดำเนินคดีต่อ “7นศ. คดีปัดฝุ่นประชาธิปไตย” ที่ใช้สิทธิในการจัดกิจกรรมอย่างสงบ
.
จากการที่กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ได้จัดกิจกรรมรำลึกครบรอบการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2559 ที่อนุสาวรีย์ปราบกบฏ วงเวียงหลักสี่ เพื่อรำลึกถึงคณะราษฎรและเหตุการณ์การปราบปรามกบฏบวรเดชอันเป็นที่มาของอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ(อนุสาวรีย์ปราบกบฏ หรืออนุสาวรีย์หลักสี่) ซึ่งเป็นเพียงการรำลึกถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตยในวันที่ 24 มิถุนายนของทุกๆ ปี โดยตามกำหนดการของกิจกรรม ณ ขณะนั้น เป็นเพียงแค่การทำความสะอาดอนุสาวรีย์ฯ การกล่าวถึงคุณูปการของคณะราษฎรและเหตุการณ์การปราบปรามกบฏบวรเดช และการแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกันเท่านั้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ นักศึกษา 7 คนซึ่งเป็นผู้จัดกิจกรรมถูกควบคุมตัวตั้งแต่ที่อยู่ในวัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร บางเขน และถูกนำตัวขึ้นรถไปด้วยความไม่ยินยอม และไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการเริ่มกิจกรรมใดๆตามกำหนดการก็ตาม ดังภาพข่าวที่ปรากฎเมื่อ 2 ปีก่อน เหตุการณ์ในครั้งนั้นจบลง หลังจากศาลทหารกรุงเทพไม่รับฝากขัง 7 นักศึกษาตามคำร้องของตำรวจ สน.บางเขน ในคืนวันที่ 24 มิ.ย. 2559
 
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางเขนได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาในคดีขัดคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2558 เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ ที่ห้ามการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และความผิดฐานชุมนุมโดยไม่แจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ
 
ดำเนินการชองคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อพวกเราในครั้งนี้ถือเป็นการใช้กฎหมายข่มขู่ คุกคาม และปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน เป็นส่วนหนึ่งของการพยายามสร้างบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวขึ้นในสังคมที่ คสช.ดำเนินมาตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีของการอยู่ในอำนาจ
 
กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ขอยืนยันถึงสิทธิและเสรีภาพในการจัดกิจกรรมรำลึกถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิทธิอันชอบธรรมของคนไทยทุกคน ทั้งนี้ เราขอขอบคุณศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ช่วยเหลือด้านการสู้คดี รวมทั้งขอขอบคุณประชาชนทั้งประเทศที่ช่วยกันระดมเงินทุนประกันตัวผู้ต้องหาคดีทางการเมืองที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมมาตั้งแต่ในช่วงก่อนหน้า โดยในวันนี้เงินกองทุนดังกล่าวจะได้ถูกนำมาใช้ประกันตัวนิสิตนักศึกษาด้วย เนื่องจากหลักทรัพย์ในการประกันตัวที่ผู้มีอำนาจกำหนดไว้มีอัตราสูงเกินกว่าที่นักศึกษาคนหนึ่งจะมีได้
 
ดังนั้น กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์ จึงขอเรียกร้องให้ถอนการแจ้งความดำเนินคดีกับ 7 นักศึกษา ในคดี “ปัดฝุ่นประชาธิปไตย” ในทันที และคืนอำนาจอธิปไตยให้แก่ประชาชน โดยการยกเลิกกฎหมายและคำสั่งที่จำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมโดยสงบต่างๆ ทั้งนี้ ไม่ควรมีใครก็ตามควรที่จะถูกกล่าวหาว่ามีความผิดหรือจับกุมตัวเพียงเพราะใช้สิทธิและเสรีภาพของตน อย่างที่เกิดขึ้นในกรณีนี้และกรณีอื่นๆ ที่ผ่านมา เพราะเราเชื่อในความคิดที่ว่า สิทธิและเสรีภาพของประชาชน เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการการปกครองระบอบประชาธิปไตย และควรได้รับการปกป้องอย่างถึงที่สุด
 
ติดตามความเคลื่อนไหวคดีได้ที่นี่