กลุ่มค้านเขื่อนนครฯ-พัทลุง บุกทำเนียบฯ ยื่นคำขาดต้องยกเลิกเท่านั้น


28 มกราคม 2562 เวลา 10.00 น. ที่ด้านหน้าสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชาวบ้านจากนครศรีธรรมราช-พัทลุงที่ได้รับผลกระทบจากโครงการจัดการน้ำ 4 แห่ง คือ เขื่อนวังหีบ เขื่อนคลองสังข์ คลองผันน้ำนคร และ เขื่อนกั้นน้ำเค็มปากประ ประมาณ 100 คน เตรียมตัวเดินเท้าเคลื่อนขบวนไปที่หน้าทำเนียบรัฐบาล โดยทั้งหมดตั้งแถวเรียงหนึ่งและใช้ผ้าขาวมัดแขนไว้คล้องไว้ด้วยกัน

เวลาประมาณ 10.20 น. พล.ต.ต. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเข้าพูดคุยกับชาวบ้าน และขอไม่ให้ไปชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ให้เหตุผลถึงมาตรา 7 วรรคท้ายของพ.ร.บ.ชุมนุมฯ สั่งห้ามชุมนุมรัศมี 50 เมตรรอบทำเนียบรัฐบาล แต่ชาวบ้านยืนยันจะเดินเท้าต่อไป ต่อมาเวลา 10.30 น. ชาวบ้านเริ่มเดินเท้าเรียงหนึ่ง ท่ามกลางการวางกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบกว่า 50 นาย


เมื่อเดินผ่านด้านหน้าวัดโสมนัสวรวิหาร พ.ต.อ. อรรถวิทย์ สายสืบ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้เข้ามาเจรจากับชาวบ้านอีกครั้ง อธิบายว่า พื้นที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเป็นทางเข้าทางออก ขอให้ชุมนุมห่างออกมาจากทำเนียบรัฐบาล ชาวบ้านยังคงยืนยันเดินตามแผนเดิม หากตำรวจจะต้องดำเนินการตามกฎหมายก็ขอให้ปฏิบัติตามนั้น จากนั้นตำรวจได้นำรั้วเหล็กมาปิดกั้นที่ถนนครปฐม เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนพิษณุโลก ทำเนียบรัฐบาล ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถเดินผ่านไปได้ พ.ต.อ. สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.ดุสิต ได้อธิบายเรื่องข้อห้ามตามมาตรา 7 วรรคท้ายของพ.ร.บ.ชุมนุมฯอีกครั้ง และเข้าเจรจากับชาวบ้าน ที่สุดแล้วตกลงกันว่า จะรอจนถึงเวลา 13.30 น. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจในการตัดสินใจมาพูดคุย โดยมีข้อเรียกร้องคือ ยกเลิกโครงการทั้งหมด 4 โครงการ


เวลา 13.00 น. เฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน รองอธิบดีกรมชลประทานได้มาพูดคุยกับชาวบ้าน แต่ยังไม่บรรลุผล ชาวบ้านต้องการเจ้าหน้าที่ทีมีอำนาจในการตัดสินใจเท่านั้น จากนั้นเวลา 13.40 น. ชาวบ้านได้ตั้งแถวเรียงหนึ่งที่ถนนนครปฐมอีกครั้ง และเดินไปประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งแถวขวางไว้ โดยยืนยันจะไปชุมนุมที่ด้านหน้าทำเนียบรัฐ แต่ ผกก. สน.ดุสิต ไม่อนุญาตและอธิบายซ้ำอีกครั้งถึงข้อห้ามตามมาตรา 7 วรรคท้ายของพ.ร.บ.ชุมนุมฯ ทั้งการชุมนุมที่ฟุตบาทบริเวณทำเนียบรัฐบาลหรือหน้าก.พ.ร.จะเป็นอุปสรรคในการดูแลรักษาความปลอดภัย หากมีมือที่สามหรือบุคคลที่มีเป้าประสงค์สร้างความวุ่นวาย ชาวบ้านจึงขอเอกสารคำสั่งห้ามเป็นลายลักษณ์อักษร


ต่อมา ผกก. สน. ดุสิต ได้แจ้งคำสั่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่ 18/2562 เรื่อง ประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมี 50 เมตร รอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ตามมาตรา 7 วรรคท้าย ของพ.ร.บ.ชุมนุมฯ ระบุว่า เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยสาธารณะและความสะดวกเรียบร้อยของประชาชนและเพื่อให้การบริหารการจัดการชุมนุมสาธารณะเป็นไปด้วยความสะดวกเรียบร้อย จึงอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ มาตรา 7 วรรคท้าย ประกอบกับคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 151/2560 และคำสั่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่ 29/2561 ประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมีไม่เกิน 50 เมตรรอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล และกล่าวเพิ่มเติมว่า ให้ขยับขึ้นไปชุมนุมที่ฟุตบาทของถนนนครปฐมถึงจะพ้นรัศมี 50 เมตร


เวลา 16.45 น. ชาวบ้านยังคงปักหลักชุมนุมที่ถนนนครปฐม

You May Also Like
อ่าน

กสม.ชี้หน่วยงานรัฐไทยเอี่ยวใช้สปายแวร์เพกาซัส ชงครม.สั่งสอบ-เรียกเอกสารลับ

กสม. เชื่อว่า มีการใช้สปายแวร์ เพกาซัสละเมิดสิทธิจริง โดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของการตรวจสอบทางเทคนิคคอมพิวเตอร์ และบริบทแวดล้อมในต่างประเทศ นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า หน่วยงานรัฐไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้สปายแวร์
อ่าน

ขนุน สิรภพ “คงแค่ยิ้มสู้” ระหว่างศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัวในคดีมาตรา 112

ขนุน สิรภพ “คงแค่ยิ้มสู้” ระหว่างศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัวในคดีมาตรา 112 . สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ หรือขนุน นิสิตรัฐศาสตร์จากมศว จำเลยในคดีมาตรา 112 จากการกล่าวปราศรัยระหว่างการชุมนุม #ม็อบ18พฤศจิกา . 25 มีนาคม ที่ผ่านมาศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษา จำคุก 3 ปี แต่เนื่องจากการนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง ศาลจึงลดโทษหนึ่งในสามคงจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา . จนถึงวันนี้(4 เมษายน 2567) เป็นเวลา 10 วันแล้วที่ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัว