เลือกตั้ง 62: การดำเนินคดีต่อนักการเมืองระหว่างการเลือกตั้ง 2562

ตลอดเวลาเกือบห้าปีภายใต้ระบบ คสช. นักการเมืองถูกควบคุมและจำกัดการทำกิจกรรมทางการเมืองด้วยประกาศและคำสั่งคสช. รวมถึงกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากนักการเมืองคนไหนดื้อดึงที่จะเคลื่อนไหวหรือวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลคสช.ก็มักจะจบลงที่การคดีความหรือการกดดันในรูปแบบอื่นเช่น มีเจ้าหน้าที่มาหาถึงบ้านหรือถูกเรียกรายงานตัวปรับทัศนคติ ซึ่งนานวันเข้าก็ทำให้เสียงของบรรดานักการเมืองเงียบลงไป

111

ในวันที่ 14 กันยายน 2561 พล.อ.ประยุทธ์ออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 13/2561 คลายล็อคพรรคการเมือง ให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ แต่คดีความของนักการเมืองยังคงเดินหน้าไป ทั้งคดีที่มีมาก่อนหน้าและคดีที่เกิดขึ้นหลังการคลายล็อค นอกจากนี้ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งยังปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการดำเนินคดีกับนักการเมืองที่กำลังหาเสียง ทั้งคดีที่เกิดจากการแสดงออกทางการเมือง และคดีความผิดอื่นๆ

ถึงแม้คดีความของนักการเมืองบางคดีที่เกิดขึ้นในยุคคสช. น่าจะเป็นไปเพื่อให้นักการเมืองคนนั้นๆ ‘เงียบ’ เท่านั้น และที่สุดแล้วอาจไปไม่ถึงถูกพิพากษาจำคุกที่จะส่งผลต่ออนาคตทางการเมือง แต่มันก็ทำให้บรรดาผู้ถูกดำเนินคดีต้องประสบความยากลำบากโดยไม่จำเป็นระหว่างพิจารณาคดี ขณะที่การดำเนินคดีนักการเมืองที่อยู่ระหว่างการลงสนามเลือกตั้งจนเป็นข่าวครึกโครมก็คงไม่เป็นผลดีต่อบรรยากาศของประเทศในการเลือกตั้งเพื่อเดินหน้ากลับสู่ประชาธิปไตย

เสรีพิศุทธ์วิจารณ์ประชามติโกง

ข้อกล่าวหา : มาตรา 14(2) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

ผู้กล่าวหา : ทหารรายหนึ่ง

กรุงเทพฯ – 1 ธันวาคม 2561 พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. ชี้แจงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยระบุว่า ทหารแอบแจ้งความดำเนินคดีกับเขา และเป็นความตั้งใจให้เขาต้องนอนคุกด้วยการบีบให้ตำรวจออกหมายจับบ่ายในช่วงบ่ายของวันเดียวกันซึ่งเป็นวันศุกร์ว่า ทหารไม่ได้แอบร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์แต่ดำเนินการอย่างเปิดเผย เมื่อพบข้อมูลว่าบุคคลใดให้ข้อมูลเป็นเท็จก็จะดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามขั้นตอนปกติของกฎหมาย และทหารก็ไม่ได้บีบบังคับตำรวจแต่อย่างใด ทุกฝ่ายทำตามหน้าที่ของตัวเอง ที่ผ่านมาไม่ใช่เฉพาะกรณีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เท่านั้น กลุ่มการเมือง หรือ นักการเมืองคนอื่นก็ถูก คสช.ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดี หากมีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย

ขณะเดียวกันในวันที่ 3 ธันวาคม 2561 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ก็ระบุว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังไม่ได้ประสานขอเข้าพบพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด             

สำหรับเหตุแห่งคดีนี้เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2561 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แสดงความคิดเห็นผ่านรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง วิพากษ์วิจารณ์คสช.มีข้อความตอนหนึ่งกล่าวว่า “ประชามติก็โกง รัฐธรรมนูญก็โกง” และต่อมานำมามีการนำวิดีโอคลิปของรายการดังกล่าวมาเผยแพร่ในเพจเฟซบุ๊ก “พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” ต่อมาเดือนกันยายน 2561 บก.ปอท. ออกหมายเรียกให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวสและผู้ดูแลเฟซบุ๊กมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อหามาตรา 14(2) ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ

จับส.ส.เพื่อไทย ปล่อยกู้เงินก่อนปราศรัยใหญ่พรรค

ข้อกล่าวหา : –

ผู้กล่าวหา : –

บุรีรัมย์ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่าในวันที่ 7 มกราคม 2562 ชุดปราบปรามเงินกู้นอกระบบ ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเข้าจับกุมพรชัย ศรีสุริยันโยธิน อดีต ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ พรรคเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 พรรคเพื่อไทย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแสงสว่างลิซซิ่ง ระหว่างที่พรชัยเตรียมขึ้นปราศรัยและต้อนรับคณะของสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยที่มีกำหนดลงพื้นที่หาเสียงในวันดังกล่าว โดยพรชัยกล่าวปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแสงสว่างลิซซิ่ง แต่อาจมีคนเคยเห็นเขาอยู่ที่สำนักงานดังกล่าวจึงคิดว่า เขาเป็นเจ้าของ

อดิศร เพียงเกษ อดีต ส.ส.จังหวัดขอนแก่น แกนนำพรรคเพื่อไทยเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจขณะที่พรชัยถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องสืบสวน โดยเขามองว่า เป็นคดีการเมืองและตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดถึงมาจับกุมกันในวันที่พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ด้วย ด้านภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทยมองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นผู้มีอำนาจทำได้ แต่ต้องหลีกเลี่ยง ไม่ใช่ไปเชิญขณะจะขึ้นเวทีปราศรัยเพราะจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่ามีการใช้อำนาจรัฐคุมคามนักการเมืองและประชาชน ไม่สร้างบรรยากาศประชาธิปไตยให้เกิดขึ้น และอาจทำให้ถูกมองได้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง

ขุดคดีเยียวยาม็อบ หลังชัชชาติเตรียมขึ้นแคนดิเดตนายกฯ

ข้อกล่าวหา : –

ผู้กล่าวหา : –

กรุงเทพฯ – มีรายงานข่าวว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมตรวจสอบชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้มีรายชื่อเป็นหนึ่งในสามแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2548-2553 และการอนุมัติงบประมาณบริหารจัดการน้ำ โดยชัชชาติ ระบุว่า เขาส่งรายละเอียดชี้แจงเรื่องการเยียวยาผู้ร่วมการชุมนุมไปเมื่อสองปีที่แล้ว ส่วนเรื่องการอนุมัติงบประมาณบริหารจัดการน้ำอยู่ในชั้นหาข้อมูล ต่อมาภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่า เหตุใดถึงหยิบยกคดีที่ ‘ดอง’ ไว้มาดำเนินการในช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดว่า รัฐกำลังใช้อำนาจเข้าไปคุกคามฝ่ายการเมืองที่มีความเห็นต่าง ด้าน พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า การดำเนินการตรวจสอบชัชชาติเป็นไปตามแผนการดำเนินงานขององค์กร ไม่ได้เป็นเครื่องมือของใครแต่อย่างใด

ฟ้องหลานทักษิณ เหตุให้ข้อมูลค่าฝุ่นสูงกว่าปกติ

ข้อกล่าวหา : มาตรา 14(2) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

ผู้กล่าวหา : –

กรุงเทพฯ – วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 ฤภพ ชินวัตร โพสต์ข้อความผ่านเพจ Knight of Shinawatra ฤภพ ชินวัตร ว่า ไปรับทราบข้อกล่าวหากรณีไลน์แอดวัดค่าฝุ่นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา การจัดทำไลน์แอดเพื่อให้ประชาชนได้ตรวจสอบถึงปริมาณฝุ่นว่าเป็นอันตรายหรือไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ระหว่างการสอบสวนมีเจ้าหน้าที่ถ่ายภาพและวีดีโอกระบวนการไว้ฤภพจึงสอบถามพนักงานสอบสวนว่าปกติมีการถ่ายภาพและวีดีโอหรือไม่ พนักงานสอบสวนตอบว่า ถ่ายภาพเพื่อใช้เป็นการภายใน อย่างไรก็ตามในช่วงเย็น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกลับให้สัมภาษณ์ข่าวของตนต่อสื่อมวลชน เมื่อตรวจสอบพบว่า ภาพที่เจ้าหน้าที่ถ่ายไว้เพื่อใช้เป็นการภายในถูกนำออกมาเผยแพร่ตามข่าวด้วย ซึ่งตนไม่ได้ยินยอม การเผยแพร่ภาพเสมือนตนเป็นผู้ต้องหาที่กระทำความผิดสำเร็จแล้ว ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดต่อสังคม สร้างความเสียหายแก่ตนและพรรคเป็นอย่างมาก

ฤภพตั้งคำถามด้วยว่า การกระทำเผยแพร่ภาพในห้องสอบสวน ป็นไปเพื่อทำลายภาพลักษณ์หรือเป็นการกระทำที่ส่อไปในทางปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ตามคำสั่ง ตร.ที่ 465/2550 เรื่องการปฏิบัติเกี่ยวกับการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ การเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชนฯลฯ  และตั้งคำถามด้วยว่าเหตุใดแอปพลิเคชั่นในลักษณะเดียวกันจึงไม่ถูกตรวจสอบ ทั้งที่ในช่วงเวลาเดียวกันมีแอปพลิเคชั่นวัดปริมาณฝุ่นแบบเดียวกันจำนวนมาก แต่เลือกตรวจสอบของตนคนเดียว หรือเป็นเพราะตนนามสกุลชินวัตร

ธนาธร ไลฟ์เฟซบุ๊กดูดส.ส.

ข้อกล่าวหา : มาตรา 14(2) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

ผู้กล่าวหา : พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายคสช.

กรุงเทพฯ – ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 บีบีซีไทยรายงานว่า พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) นัดส่งสำนวนคดีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่,ไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนสมาชิกพรรค และจารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค ต่ออัยการศาลอาญา โดยอัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งว่า จะฟ้องคดีต่อศาลอาญาหรือไม่ไปในวันที่ 26 มีนาคม 2562 หรือสองวันหลังการเลือกตั้ง

คดีนี้เริ่มขึ้นจากการจัดรายการ “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” ผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์บนเพจอนาคตใหม่ – The Future We Want และเพจ Thanathorn Juangroongruangkit วิจารณ์กระแสข่าวกรณี “พลังดูด” ที่ คสช. ใช้อำนาจพิเศษดูด ส.ส. จากพรรคอื่นเข้าพรรคตัวเอง เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2561 และต่อมาพ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารชื่อคุ้นตาเป็นตัวแทนของ คสช. เข้าแจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(2) หลังมีการแจ้งข้อกล่าวหา ธนาธร ไกรก้อง และจารุวรรณไปรายงานตัวต่อพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ด้วยตัวเองตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2561 ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะดำเนินการนัดหมายคดีดังที่กล่าวไปข้างต้น

คุ้ยหมายค้าง จับผู้สมัครอนาคตใหม่

ข้อกล่าวหา : คดีฉ้อโกง

ผู้กล่าวหา : –

ตรัง – 28 กุมภาพันธ์ 2562 ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า ตำรวจภูธรจังหวัดตรังนำกำลัง พร้อมหมายจับที่ 96/2559 ของศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 11 ก.พ.2559 คดีหมายเลขดำที่ 3490/2558 คดีหมายเลขแดงที่ 1255 /2559 เข้าทำการจับกุมยศวัฒน์ ธีรัตม์วัฒนากุล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จังหวัดตรัง พรรคอนาคตใหม่ ขณะที่ยศวัฒน์นั่งวางแผนการหาเสียงอยู่กับทีมงาน ภายในศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่เขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดตรัง

วันเดียวกันพรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ชี้แจงว่า คดีนี้เป็นคดีเก่าในปี 2558 ที่มีโจทก์ยื่นฟ้องยศวัฒน์ในข้อหาฉ้อโกง แต่มีการแก้ไขข้อพิพาทและจ่ายเสียหายในคดีเรียบร้อยแล้ว แต่โจทก์ยังไม่ได้ไปถอนฟ้องตามที่ตกลงกัน ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ค่อนข้างแน่ใจว่า พรรคการเมืองคู่แข่งในพื้นที่ได้ตรวจสอบว่า มีหมายค้างอยู่จึงนำมาใช้เป็นเครื่องมือ 

รองหัวหน้าพรรคแชร์ข่าวปลอม “กาแฟบิ๊กป้อม” วอนช่วยจับตาสื่อรับใช้เผด็จการ

ข้อกล่าวหา : มาตรา 14(2) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

ผู้กล่าวหา : พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายคสช.

ตำรวจออกหมายเรียกพล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่แชร์ข่าวปลอมเกี่ยวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ข่าวพาดหัวในทำนองว่า เบิกงบกาแฟแก้วละ 12,000 บาท โดยใช้งบสวัสดิการในตำแหน่ง รวมเป็นเงิน 82,000 บาท พร้อมกับนำภาพประกอบที่มี พล.อ.ประวิตร และไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษา มาตัดต่อร่วมกัน

ฟ้องเสรีพิศุทธ์สามคดี หลังไล่ทหารไปเป็นรั้ว

ข้อกล่าวหา : หมิ่นประมาท,ดูหมิ่นเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ*

ผู้กล่าวหา : พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกและพ.ท.ปกิจ ผลฟัก รองหัวหน้ากองยุทธการมณฑลทหารบกที่ 12

กรุงเทพฯ –  ในวันที่ 4 มีนาคม 2562 มีการเผยแพร่เคลิปวิดีโอความยาว 1.20 นาที เป็นภาพเหตุการณ์ที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เข้าไปตำหนิทหารในเครื่องแบบคนหนึ่งที่มาคอยติดตามระหว่างการหาเสียง ที่จังหวัดปราจีนบุรี ทหารคนดังกล่าวทราบภายหลังว่าชื่อพ.ท.ปกิจ ผลฟัก รองหัวหน้ากองยุทธการมณฑลทหารบกที่ 12

สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวในวันที่ 5 มีนาคม 2562 พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความดำเนินคดี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ข้อหาหมิ่นประมาท จากกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว พูดถึงเครื่องหมายติดอยู่บนเครื่องแบบทหารของ พล.อ.อภิรัชต์ ด้วยข้อความไม่เหมาะสม นอกจากนั้นพล.อ.อภิรัชต์ก็เตรียมให้ฝ่ายกฎหมาย คสช.แจ้งความดำเนินคดี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ในความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการโพสต์ข้อความการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งไปในเพจส่วนตัวของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์

ต่อมาในวันที่ 6 มีนาคม 2562 พ.ท.ปกิจ นายทหารที่ถูกพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตำหนิในคลิปวิดีโอเข้าแจ้งความดำเนินคดีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ในข้อหาฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยชี้แจงว่า การลงพื้นที่ติดตามพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ในวันที่ 4 มีนาคม 2562 เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาที่สั่งให้เขาดูแลรักษาความสงบในพื้นที่

นับจากที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ประกาศลงเล่นการเมืองภายใต้พรรคเสรีรวมไทย เขาถูกกล่าวหาให้ดำเนินคดีไม่น้อยกว่าสี่คดี คือ 3 คดีข้างต้น ส่วนอีกหนึ่งคดีได้แก่คดีตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(2) จากกรณีที่เขาโพสต์วิดีโอบทสัมภาษณ์วิจารณ์ คสช. ทำนองว่า “ประชามติก็โกง รัฐธรรมนูญก็โกง” ซึ่งผู้แจ้งความดำเนินคดีเป็นทหารรายหนึ่งซึ่งได้ให้ระละเอียดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เท่ากับว่าผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่ออดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนนี้เป็นทหารทุกคดี

ฟ้องเว็บอนาคตใหม่ หมิ่นศาลรัฐธรรมนูญคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ

ข้อกล่าวหา : มาตรา 14(2) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

ผู้กล่าวหา : พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายคสช.

กรุงเทพฯ ข่าวสดออนไลน์รายงานว่า ในวันที่ 8 มีนาคม 2562 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมาย คสช. แจ้งความให้ดำเนินคดีต่อผู้ดูแลเว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่  จากกรณีที่เว็บไซต์ของพรรคอนาคตใหม่ https://futureforwardparty.org เผยแพร่เนื้อหาแถลงการณ์ของปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กรณีพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ ซึ่งอาจขัดต่อมาตรา 14(2) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และหมิ่นศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198

พิชัย วิจารณ์ดูดส.ส. และไทม์ปกประยุทธ์

ข้อกล่าวหา : มาตรา 14(2) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ผู้กล่าวหา : พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายคสช.

กรุงเทพฯ –  ข่าวสดออนไลน์รายงานว่าในวันที่ 12 มีนาคม 2562 พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) นัดส่งสำนวนคดีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ของพิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ให้แก่อัยการศาลอาญา โดยอัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งว่า จะฟ้องคดีต่อศาลอาญาหรือไม่ไปในวันที่ 11 เมษายน 2562

เหตุแห่งคดีนี้ พิชัยระบุว่ามาจากสองกรณี กรณีหนึ่งคือโพสต์เฟซบุ๊กเรื่องการแบนนิตยสารไทม์ฉบับที่มีบทสัมภาษณ์พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งก็มีคนไปหาซื้อแต่ซื้อไม่ได้โดยร้านหนังสือแจ้งว่า ไม่มีการสั่งเข้ามาขาย เขาเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงจึงได้โพสต์ข้อความไป ส่วนอีกกรณีเป็นเรื่องปรากฎการณ์พลังดูด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่คนพูดกันทั่วไป และเรื่องที่นำมาโพสต์เป็นเรื่องพลังดูด 4.0 ที่ตนไปพูดในงานเสวนาซึ่งจัดโดยภาคประชาชน โดยพลังดูด 4.0 ที่เขาหมายถึงคือพลังดูดรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่แค่ใช้เงินดึงตัวผู้สมัครแต่มีการนำเรื่องการไม่ฟ้องคดีความมาเป็นข้อต่อรองด้วย

พิชัยยืนยันว่าทั้งโพสต์เกี่ยวกับนิตยสารไทม์ และโพสต์เกี่ยวกับพลังดูด ไม่มีตอนใดเลยที่พาดพิงคสช. แต่คสช.กลับมอบหมาย.ให้พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมาย คสช. มาร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยเขาตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดคสช.จึงมาร้องทุกข์ทั้งๆที่ไม่ได้ถูกพาดพิง

อายัดทรัพย์ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา เพื่อไทย กรณีแชร์น้ำมัน

ข้อกล่าวหา : ฉ้อโกง

ผู้กล่าวหา : –

พะเยามติชนออนไลน์รายงานว่าในวันที่ 13 มีนาคม 2562 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ในฐานะรอง ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) เข้ายึดอายัดทรัพย์สินของวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดพะเยากับพวก หลังมีการร้องเรียนจากผู้เสียหายที่ถูกวิสุทธิ์กับพวกหลอกชักชวนให้ร่วมลงทุนในหุ้นน้ำมัน 4 ประเทศ  ด้านวิสุทธิ์ ชี้แจงว่า ยังไม่ถูกยึดทรัพย์สิน เพียงแต่เจ้าหน้าที่อายัดไว้และตรวจสอบ โดยไปพบพนักงานสอบสวนแล้ว และได้ขอเลื่อนไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนหลังการเลือกตั้ง

ลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวต่อกรณีการอายัดทรัพย์ครั้งนี้ว่า ต้องยอมรับว่าขณะนี้ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้มีอำนาจที่ต้องการทำลายล้างตลอดเวลา ขอเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องควรทำหน้าที่ด้วยความเหมาะสม มีความเป็นธรรม และควรรอให้พ้นหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับการหาเสียง

ในเดือนตุลาคม 2561 วิสุทธิ์ เป็นหนึ่งในกลุ่มอดีตส.ส. จังหวัดพะเยาของพรรคเพื่อไทยที่ออกมาตอบโต้กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.และนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เห็นใจคนพะเยาที่รัฐบาลก่อนๆไม่ได้ช่วยพัฒนาให้เจริญขึ้นเลย โดยวิสุทธิ์ตอบกลับพล.อ.ประยุทธ์ว่า รัฐบาลของท่านประยุทธ์อยู่มาห้าปี ช่วยอะไรพะเยาบ้าง ทำไมชาวพะเยาจนลงกว่าทุกรัฐบาล ต่อมาวันที่ 1 มีนาคม 2562 เขาออกมาแถลงข่าวว่า ได้รับความยากลำบากในการหาเสียงเลือกตั้ง มีบุคคลเข้ามาเช่ารีสอร์ตพักกระจายไปทั่วจังหวัด โดยเวลาที่ขับรถยนต์ส่วนตัวหรือออกหาเสียงในพื้นที่จะมีรถยนต์ป้ายทะเบียนแปลกๆ มาติดตามประจำ นอกจากนี้ยังทราบข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือได้ว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนพยายามหาเหตุในการดำเนินคดีอาญากับตน โดยได้สร้างพยานหลักฐานต่างๆและมีความต้องการกลั่นแกล้งเพื่อแลกกับตำแหน่งที่สูงขึ้น