ตารางการคุกคามผู้ใช้เสรีภาพโดยเจ้าหน้าที่รัฐในปี 2563

หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ปกครองประเทศเป็นเวลาห้าปีสิ้นสภาพไป เมื่อคณะรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2562 ถวายสัตย์ฯ เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 สังคมไทยก็คาดหวังว่าประเทศจะกลับไปสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่สิทธิเสรีภาพของประชาชนจะได้รับการคุ้มครอง และประชาชนจะสามารถแสดงความคิดเห็นหรือแสดงออกในประเด็นสถานะต่างๆ ได้โดยปราศจากการคุกคาม

แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2563 หรือหลังจากมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นเวลาประมาณครึ่งปี กลับพบว่าประชาชนที่แสดงออกในประเด็นสาธารณะต่างๆ ยังคงถูกคุกคามเฉกเช่นเดิม โดยอาจมีการเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินการไปบ้าง เช่น ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจแทนเจ้าหน้าที่ทหารในการเข้าไปพูดคุยกับประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นต่างๆ ทั้งที่บ้านหรือที่ทำงาน หรือที่สาธารณะอื่นๆ

การบันทึกสถิติและรูปแบบการคุกคามประชาชนที่ใช้เสรีภาพในการแสดงออกจึงยังคงมีความสำคัญ แม้ประเทศจะกลับเข้าสู่การปกครองในระบอบปกติภายใต้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว

 

หมายเหตุ: สำหรับผู้ที่ทราบข้อมูลการคุกคามประชาชนที่แสดงออกในประเด็นสาธารณะต่างๆ ด้วยรูปแบบใดก็ตาม โดยเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเป็นผู้ประสบเหตุคุกคามด้วยตัวเอง สามารถติดต่อเพื่อให้ข้อมูลกับไอลอว์ได้ทั้งทางโทรศัพท์หมายเลข 02 002 7878 อีเมล [email protected] หรือทาง facebook messenger ของเพจ ilaw หรือทาง Direct message ทาง twitter iLawFX

 

ตารางการคุกคามของเจ้าหน้าที่รัฐในปี 2563 (ไม่นับรวมการตั้งข้อกล่าวหาทางอาญา)

ครั้งที่วันที่ผู้ถูกกระทำสถานที่สรุปข้อเท็จจริงหน่วยงานที่คุกคาม
12 ม.ค. 63ไอดินพะเยาไอดิน นักศึกษา ม.พะเยา ให้ข้อมูลว่าได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากตำรวจ สภ.เมืองพะเยา และยังได้รับการติดต่อจากอาจารย์ในคณะว่าทางคณบดีอยากจะพบตัวหลังจากไปขออนุญาตจัดงาน “วิ่ง ไล่ ลุง”ตำรวจ
22 ม.ค. 63ไอดินพะเยาไอดินให้ข้อมูลว่า ได้รับแจ้งจากน้องซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านใน อ.แม่ลาว จ.เชียงรายว่า ได้มี ตำรวจ 4-5 นาย เข้ามาที่บ้าน และสอบถามว่าแม่ของนายไอดินอยู่บ้านหรือไม่ เมื่อน้องบอกว่าแม่ไปวัด ทางตำรวจก็ได้ติดตามไปพบถึงวัด และได้พยายามสอบถามแม่ของไอดินว่า ทราบหรือไม่ว่าลูกของตนนั้นได้ทำกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ที่ จ.พะเยา และแม่ได้ยินยอมให้นายไอดินจัดกิจกรรมดังกล่าวหรือไม่ ทั้งยังได้มีการจัดทำบันทึก
การให้ถ้อยคำของแม่ไอดินลงในกระดาษ A4 เขียนด้วยลายมือ พร้อมกับให้แม่ของไอดินลงลายมือชื่อด้วย
ตำรวจ
32 ม.ค. 63พงศธรณ์ หรือ บอยกาฬสินธุ์พงศธรณ์ หนึ่งในผู้จัดกิจกรรม “แล่น ลัก ลุง” ที่ ม.มหาสารคาม ให้ข้อมูลว่าระหว่างที่อยู่ที่บ้านที่กาฬสินธุ์ มีรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ขับมาจอดและบีบแตรที่หน้าบ้านของเขา เมื่อออกไปที่หน้าบ้านก็พบชายสองคนแต่งกายนอกเครื่องแบบ ชายคนหนึ่งที่มาอ้างตัวว่าชื่ออนุดิษฐ์ และอ้างว่าตัวเองเป็นตำรวจจาก สภ.เมืองมหาสารคาม มาพบเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมตามคำสั่งของนาย ส่วนชายอีกคนไม่ได้แจ้งว่าตัวเองชื่ออะไรตำรวจ
43 ม.ค. 63เจมส์บุรีรัมย์ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jame Nattapong หรือ “เจมส์” ซึ่งเป็นผู้จัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ในพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ให้ข้อมูลว่า วันที่ 3 มกราคม 2563 หลังเขาโพสต์เฟซบุ๊กว่าจะจัดกิจกรรมออกไปก็มีคนรู้จักบอกเขาว่า จะมีตำรวจเข้ามาหาที่บ้านตำรวจ
54 ม.ค. 63เจมส์บุรีรัมย์เจมส์ให้ข้อมูลว่า ระหว่างที่เขาไปทำงานที่โรงงานมีตำรวจมาหาเขาที่บ้านแต่ไม่พบ จึงไปพบเขาที่โรงงาน และหัวหน้างานของเขาเป็นคนมาตามเขาไปพบกับตำรวจ การพูดคุยระหว่างเจมส์ กับ จนท.ตำรวจจาก สภ.สตึก ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เจ้าหน้าที่พยายามถามถึงจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม และเส้นทางการวิ่งตำรวจ
64 ม.ค. 63ประเสริฐแพร่ประเสริฐให้ข้อมูลว่า หลังจากโพสต์เฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์ว่า จะจัดงาน “วิ่งไล่ลุง” ที่แพร่ วันต่อมาในช่วงเช้ามีตำรวจโทรติดต่อขอเข้าพบเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการจัดงาน จากนั้นเวลาประมาณ 13.00 น. ประเสริฐนัดพบกับตำรวจที่บ้านของเขา เจ้าหน้าที่ 2 นายที่มาเป็นตำรวจสืบสวน สภ.เมืองแพร่ แต่งกายนอกเครื่องแบบ ประเสริฐก็แจ้งว่า เขาเป็นผู้โพสต์ข้อความ และจะเป็นผู้จัดกิจกรรมดังกล่าวจริงๆตำรวจ
74 ม.ค. 63ประเสริฐแพร่ประเสริฐให้ข้อมูลว่า หลังจากมี ตำรวจชุดแรกมาพบในช่วงบ่าย ในช่วงเย็นมีตำรวจอีกชุดเข้ามาขอพูดคุยกับประเสริฐที่บ้าน ตำรวจที่มาเป็นตำรวจสันติบาล สภ.เมืองแพร่ เข้ามาขอความร่วมมือไม่ให้จัดงานวิ่งไล่ลุงโดยแจงว่ากิจกรรมดังกล่าวอาจขัดต่อ พ.ร.บ.ชุมนุมฯ แต่ประเสริฐยืนยันกับ จนท.ตำรวจชุดดังกล่าวว่าจะจัดงานตามเดิมตำรวจ
84 ม.ค. 63พงศธรณ์ หรือ บอยกาฬสินธุ์พงศธรณ์ให้ข้อมูลว่า หลังจากเพจ “แนวร่วมนิสิต มมส.เพื่อประชาธิปไตย” ประกาศย้ายสถานที่จัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” จาก ม.มหาสารคามเป็นที่หอนาฬิกาเมืองมหาสารคาม ชายหนึ่งในสองคนที่เคยมาพบเขาที่บ้านในจังหวัดกาฬสินธุ์ที่อ้างว่าเป็นตำรวจโทรศัพท์มาหาเขาอีกครั้งหนึ่งโดยบอกว่า นายฝากให้มาถามว่า พ่อและแม่ประกอบอาชีพอะไรตำรวจ
95 ม.ค. 63ประเสริฐแพร่ประเสริฐให้ข้อมูลว่า มีตำรวจติดต่อขอเข้ามาพูดคุยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เข้ามาพบก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง โดยครั้งนี้ประเสริฐนัดไปพูดคุยที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งใน อ.เมืองแพร่ เมื่อถึงเวลานัดมีตำรวจนอกเครื่องแบบมา 3 นาย ตำรวจที่มาเป็นตำรวจสันติบาล สภ.เมืองแพร่ ซึ่งตำรวจขอให้ประเสริฐงดจัดงานวิ่งไล่ลุงในจังหวัดแพร่ เนื่องจากอาจจะกระทบความมั่นคงและแจ้งว่าแม้ประเสริฐจะยื่นหนังสือขอจัดงาน จนท.ตำรวจก็ไม่สามารถอนุญาตให้จัดงานได้ พร้อมทั้งอธิบายว่ากิจกรรมดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมฯ และกฎหมายอื่นๆ เช่น กฎหมายเกี่ยวกับการจราจร แต่ประเสริฐก็ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาจะจัดกิจกรรมต่อไปตำรวจ
105 ม.ค. 63เจมส์บุรีรัมย์เจมส์ให้ข้อมูลว่า ได้รับการติดต่อจากตำรวจอีกครั้ง หลังคุยกันที่โรงงานก่อนหน้านี้ โดยครั้งนี้ให้ไปพบกับรองผู้กำกับ สภ.สตึก โดยตำรวจจะให้รถมารับเขาจากที่พัก และเมื่อพูดคุยแล้วก็จะให้รถของตำรวจขับไปส่งเขาที่โรงงาน แต่ “เจมส์” ยืนยันว่า เขาจะเดินทางไปด้วยรถของตัวเอง
เมื่อไปพบ รองผู้กำกับ สภ.สตึกถามเขาทำนองว่า สนใจการเมืองหรือไม่ และรู้หรือไม่ว่า กิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” เป็นกิจกรรมทางการเมือง เจมส์ตอบว่า เขาแค่อยากจัดกิจกรรมวิ่ง ส่วน “วิ่งไล่ลุง” เขาตั้งใจจะสื่อว่ายิ่งวิ่งยิ่งเด็ก รองผู้กำกับยังพูดกับเขาเพิ่มเติมในทำนองว่า อยากให้เลื่อนวันจัดงาน และไม่อยากให้เขาเป็นเบี้ยให้ “พรรคการเมืองพรรคหนึ่ง” รวมทั้งบอกด้วยว่า อาจจะไปพบกับผู้บริหารโรงงานเขาเพื่อพูดคุยอีก เมื่อพูดคุยกับรองผู้กำกับ สภ.สตึกแล้วเสร็จ ตำรวจสืบสวนคนหนึ่งพูดกับเขาทำนองว่า ขอให้หยุดเพราะ “คงพอรู้นะว่าพื้นที่ตรงนี้ของใคร” และยังถามเขาด้วยว่าพ่อกับแม่ของเขาประกอบอาชีพอะไร
จนในที่สุดในวันที่ 6 มกราคม 2563 เจมส์ได้ตัดสินใจยุติบทบาทในฐานะผู้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์
ตำรวจ
117 ม.ค. 63อ้นนครศรีธรรมราช“อ้น” หนึ่งในผู้จัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ที่นครศรีธรรมราช ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่ประชาสัมพันธ์ว่าจะจัดกิจกรรมออกไป ลุงของเขาแจ้งว่ามีตำรวจ สภ.ปากพนังมาถามหาเขาที่บ้านในอำเภอปากพนังและกลับไปตำรวจ
127 ม.ค. 63ประเสริฐแพร่ประเสริฐให้ข้อมูลว่า มีตำรวจนอกเครื่องแบบไปที่ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่จังหวัดแพร่ เพื่อพบกับกลุ่มผู้ร่วมจัดกิจกรรมคนอื่นๆ ที่เดินทางไปขออนุญาตจัดงาน “วิ่งไล่ลุง” กับประเสริฐ เมื่อประเสริฐทราบเรื่องก็เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าวด้วยตัวเองเพื่อร่วมพูดคุยกับตำรวจด้วย ตำรวจพยายามหว่านล้อมให้ทางกลุ่มยุติการจัดกิจกรรม และสอบถามว่าพรรคอนาคตใหม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับกิจกรรมดังกล่าวหรือไม่ตำรวจ
137 ม.ค. 63เอมเชียงรายเอม หนึ่งในทีมผู้จัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” เชียงราย ได้รับโทรศัพท์ตามตัวไปพบผู้กำกับ สภ.เมืองเชียงรายเพื่อ “กินกาแฟ” ในช่วงเช้า เอมไปตามนัดแต่รอจนถึงเที่ยงก็ไม่ได้พบใคร เมื่อสอบถามตำรวจนายหนึ่งที่อยู่ที่สถานีก็ได้ความว่าผู้กำกับติดประชุม เอมจึงเดินทางกลับบ้าน ช่วงบ่ายวันเดียวกันเอมถูกตามตัวอีกครั้งให้ไปที่สถานีตำรวจ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครออกมาคุยด้วยตำรวจ
148-10 ม.ค. 63เอมเชียงรายเอมถูกตามตัวไปกินกาแฟกับผู้กำกับ สภ.เมืองเชียงราย 2 ครั้งและรองผู้กำกับอีก 1 ครั้ง การพูดคุยทั้ง 3 ครั้งไม่มีข้อสรุปใดๆ ทั้งผู้กำกับและรองผู้กำกับกับกับพยายามหว่านล้อมให้เอมเลื่อนงานวิ่งไล่ลุงออกไปก่อนโดยเหตุผลว่าในวันที่ 12 มกราคม 2563 จะมีขบวนเสด็จในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และเส้นทางวิ่งอาจไปทับเส้นทางขบวนเสด็จ
ไม่เพียงแต่ถูกคุกคามจากตำรวจ ช่วงประมาณวันที่ 8 – 9 มกราคม ระหว่างที่เอมกำลังเรียนอยู่ อาจารย์คนหนึ่งเดินมาหาที่ห้องเรียนเรียกชื่อของเอม เมื่อเอมแสดงตัวอาจารย์คนนั้นก็ถ่ายรูปแล้วเดินออกไป
อีกครั้งหนึ่ง พี่คนหนึ่งซึ่งทำงานในบริษัทที่เอมไปสมัครฝึกงานบอกกับเอมว่ามีตำรวจมาถามหาเอมในบริษัทที่ไปสมัครฝึกงาน
ตำรวจ, อาจารย์มหาวิทยาลัย
158 ม.ค. 63อ้นนครศรีธรรมราชอ้นให้ข้อมูลว่า พ่อตาของเขาแจ้งว่า ตำรวจ อ้างตัวว่าเป็นรองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช มาหาที่บ้านในอำเภอปากพนัง และขอเบอร์โทรศัพท์ของเขาไป จากนั้นชายรายดังกล่าวโทรติดต่อให้เขาไปพูดคุยกันที่ร้านกาแฟในเวลาประมาณ 17.00 น. เมื่อไปถึงพบชายสองคน ไม่สวมเครื่องแบบ ตำรวจอ้างตัวว่า ชื่อ ‘รองสมพร’ การพูดคุยคือ สอบถามเรื่องกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ขอให้เขาลดบทบาทการแสดงออก และไม่ให้เป็นแกนนำ แต่อ้นตอบว่า กิจกรรมดังกล่าวไม่มีแกนนำอยู่แล้วและวันที่จัดกิจกรรมเขาไม่ได้อยู่ในพื้นที่นครศรีธรรมราช สุดท้ายอ้นขอตำรวจว่า อย่าไปที่บ้าน ซึ่งก็ดูเหมือนทุกคนจะเข้าใจตรงกันตำรวจ
168 ม.ค. 63นักกิจกรรม PerMASปัตตานีนักกิจกรรมของสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี หรือ PerMAS ถูกทหารในเครื่องแบบประมาณ 4-5 คน เดินทางโดยรถฮัมวีมาที่บ้านพักในพื้นที่ ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อสอบถามข้อมูล แต่เจ้าตัวไม่ได้อยู่ที่บ้านดังกล่าว ทหารจึงได้สอบถามข้อมูลจากแม่ของเขาแทน จากนั้นเวลาประมาณ 12.00 น. มีเจ้าหน้าที่ทหารใส่ชุดนอกเครื่องแบบจำนวน 6-8 คน มาที่บ้านพักพร้อมสอบถามข้อมูลจากแม่ของเขาอีกครั้ง โดยได้แนะนำตัวเองว่า ชื่อ ร.ต.ประสิทธิ์ ศรีโรงเชน ตำแหน่งผู้ช่วยนายทหารฝ่ายการข่าว กรมทหารพรานที่ 22 เพื่อสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวกับการได้เคยเข้าร่วมกิจกรรมแฟลชม็อบ ‘ไม่ถอยไม่ทน’ ที่สกายวอล์ค ปทุมวัน นอกจากนั้นนักศึกษาอีก 2 คนที่เคยเดินทางไปร่วมกิจกรรมแฟลชม็อบที่สกายวอล์ค ปทุมวัน ด้วยกันก็ถูกทหารเดินทางไปสอบถามข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวอีกด้วยทหาร
179 ม.ค. 63อ้นนครศรีธรรมราชอ้นให้ข้อมูลว่า รองผู้กำกับการ สภ.ปากพนัง และตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 4-5 คนเดินทางไปที่บ้านพ่อแม่ของอ้นใน อ.ปากพนัง ถ่ายรูปพ่อแม่และยายของอ้น
ทั้งนี้หลังเผชิญกับการคุกคาม ช่วงบ่ายวันเดียวกัน อ้นประกาศยกเลิกกิจกรรมวิ่งไล่ลุง
ตำรวจ
189 ม.ค. 63กฤตภพลำปางกฤตภพ อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เขต 2 จ.ลำปาง ของพรรคอนาคตใหม่ ให้ข้อมูลว่า ได้มีตำรวจนอกเครื่องแบบ 3 นายเป็นตำรวจสืบสวนของ อ.วังเหนือ เดินทางมาที่บ้านของเขา แต่ไม่มีใครอยู่บ้าน เนื่องจากพ่อและแม่อยู่โรงพยาบาล ตำรวจจึงไปพบกับพี่ชายของเขาที่บ้านข้างๆ ทราบว่าพ่อเขาอยู่ที่โรงพยาบาลจากพี่ชายด้วย หลังจากนั้นตำรวจชุดดังกล่าวได้เดินทางไปถึงโรงพยาบาลที่พ่อเขารักษาตัวอยู่ โดยแม่ของเขาได้โทรมาแจ้งว่า มีตำรวจ 3 นายมาหาถึงโรงพยาบาล
ก่อนหน้านี้ ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2562 ที่เริ่มมีประกาศจัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” กฤตภพถูกตำรวจหลายหน่วยงานเข้ามาหาที่บ้านบ่อยครั้ง และสอบถามเกี่ยวกับกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” อย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้มีแผนจะจัดงานดังกล่าว อีกทั้งตำรวจสืบสวนของลำปางยังได้เดินทางไปที่บ้านของเขาที่พ่อแม่ของเขาอยู่ ใน อ.วังเหนือ จ.ลำปาง บ่อยครั้ง ทั้งๆ ที่เขาทำงานอยู่กรุงเทพฯ จนพ่อถึงขั้นเครียดและป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล
ตำรวจ
199 ม.ค. 63วัฒนานครศรีธรรมราชวัฒนา นักศึกษา ม.วลัยลักษณ์ รายงานในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า มีบุคลากรของมหาวิทยาลัยโทรหาและนำรถยนต์มารับตัวเขาที่หอพักในมหาวิทยาลัย พาเขาไปพูดคุยที่ห้องทำงานส่วนตัวของพนักงานคนดังกล่าว โดยภายในห้องมีพนักงานมหาวิทยาลัย 2 คน และตำรวจอีก 5 คน ทั้งหมดได้รุมสอบถามวัฒนาในรูปแบบการสอบสวนถึงประวัติส่วนตัว เป็นแอดมินเพจ “มวล. เสรี” ใช่หรือไม่ และถามว่าเป็นผู้จัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ใน ม.วลัยลักษณ์หรือไม่ อีกทั้งยังมีการถ่ายรูป และบันทึกชื่อของวัฒนาไว้ด้วยเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยและตำรวจ
2011 ม.ค. 63ผู้จัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” เชียงรายเชียงรายกลุ่มผู้จัดกิจกรรมให้ข้อมูลว่า ตำรวจได้นัดหมายทีมผู้จัดกิจกรรมเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมที่จะจัดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในเวลากลางคืน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าไม่ให้จัดกิจกรรม ด้านผู้จัดยังยืนยันจะจัดกิจกรรม แต่จะมีการขยับกำหนดการออกไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเน้นย้ำขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางเสด็จ ซึ่งการพูดคุยตกลงกันกินเวลากว่าหลายชั่วโมง ตั้งแต่ 22.00 น. – ประมาณ 03.00 น.ตำรวจ
2118 ม.ค. 63ธนวัฒน์เชียงใหม่ธนวัฒน์รายงานในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ได้รับการติดต่อจากคุณย่าว่า เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน แจ้งกับคุณย่าว่า ได้รับคำสั่งมาจาก “ข้างบน” ให้มาถ่ายรูปบ้านคุณย่าของบอล โดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนจะทราบความว่าคำสั่งนั้นเกิดจากการจัดงาน “วิ่งไล่ลุง” และกำลังจะจัดอีกครั้งที่เชียงใหม่ฝ่ายปกครอง (ผู้ใหญ่บ้าน, กำนัน)
224 ก.พ. 63กฤตตฤณเชียงรายกฤตตฤณ หนึ่งในทีมผู้จัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” เชียงราย รายงานในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า คุณแม่แจ้งเขาว่าช่วงนี้ตำรวจเข้ามาเยี่ยมที่บ้านบ่อยครั้ง กฤตตฤณให้ข้อมูลว่า หลังจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงเสร็จสิ้น กฤตตฤณย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ประมาณ 2 สัปดาห์ ระหว่างนั้นเขาขอให้แม่เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปอยู่บ้านของเขาที่เชียงรายเพื่อดูแลบ้าน ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่บ้านเขารวม 3 ครั้ง โดยทั้ง 3 ครั้งเขาไม่ทราบวันที่แน่ชัดเนื่องจากคนสวน และแม่ที่พบตำรวจก็จำไม่ได้ตำรวจ
2324 ก.พ. 63นักศึกษา และอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.อ.ปัตตานีปัตตานีหลังจากการจัดกิจกรรมอ่านแถลงการณ์หลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ไอลอว์ได้รับรายงานว่าตำรวจไม่ทราบสังกัดโทรไปหานักศึกษาขอรายละเอียดของงาน ถามชื่อผู้เข้าร่วม องค์กร และสังกัด อ้างว่าต้องนำไปรายงานนาย และเข้าไปที่คณะรัฐศาสตร์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงให้ไปพูดคุยกับเอกรินทร์ ต่วนศิริ อาจารย์ประจำคณะ ตำรวจจึงขึ้นไปพบ และสอบถามรายละเอียดงาน ระหว่างการพูดคุยตำรวจมีความพยายามถ่ายรูปของเอกรินทร์ไว้ แต่เมื่อเอกรินทร์เห็นจึงขอไม่ให้ถ่ายภาพ ก่อนจะกลับไปตำรวจ
2428 ก.พ. 63ผู้จัดกิจกรรมแฟลชม็อบ #บักขามบ่มักสลิ่มเพชรบูรณ์หลังเสร็จสิ้นกิจกรรม #บักขามบ่มักสลิ่ม ทางผู้จัดได้เดินทางไปรับประทานอาหารร่วมกัน ในร้านที่อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยหลายสิบกิโลเมตร พบว่าได้มีตำรวจนอกเครื่องแบบ จำนวน 4 นาย ซึ่งจำได้ว่าเป็นชุดเดียวกันกับที่เข้ามาติดตามจับตากิจกรรม เข้ามานั่งรับประทานอาหารที่โต๊ะข้างๆ ด้วย หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว กลุ่มผู้จัดกำลังเดินกลับไปที่รถ เจ้าหน้าที่รายหนึ่งได้เดินมาสอบถามว่าจะมีการจัดกิจกรรมอีกเมื่อไรหรือไม่ตำรวจ
253 มี.ค. 63ไมค์ระยองภาณุพงษ์ หรือไมค์ แจ้งความกับตำรวจว่า ได้มีชายแต่งกายคล้ายทหารนอกเครื่องแบบขับรถไปจอดที่บ้าน และเข้าไปพูดคุยกับคนที่อยู่บ้านเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม “ชู 3 นิ้ว ต้านเผด็จการ” ที่จังหวัดระยอง และถ่ายรูปบ้านของไมค์ไป โดยชายคนนั้นห้ามคนที่บ้านถ่ายรูปของเขาด้วยไม่แน่ชัด
264 มี.ค. 63ไอดินพะเยาไอดินให้ข้อมูลกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่า ตำรวจนอกเครื่องแบบเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของหอพักเพื่อสอบถามถึงไอดิน และแจ้งว่าอาจจะมีการขอออกหมายค้นเพื่อเข้าค้นหอพัก เนื่องจากอาจมีอาวุธหรือสิ่งผิดกฎหมายของกลุ่มนักศึกษาซุกซ่อนอยู่ภายในหอพัก ทำให้เจ้าของหอพักเกิดความรู้สึกไม่สบายใจ และเกรงว่าจะถูกกลั่นแกล้ง จนอาจทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปด้วยความลำบาก จึงขอให้ไอดินย้ายออกจากหอพักภายในสิ้นเดือนมีนาคม เจ้าของหอพักแจ้งกับไอดินอีกว่าก่อนหน้านี้ตำรวจนอกเครื่องแบบหลายหน่วยงานได้เข้ามาถามถึงไอดินบ่อยครั้งตำรวจ
2715 เม.ย. 63ไพศาลปัตตานีไพศาล นักศึกษาปี 4 คณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถามถึงแผนการจัดการกับสภาวะวิกฤติโควิด-19 ของมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Banjong Chalermwong ซึ่งเป็นผู้อำนวยการกองกิจการนักศึกษามาตอบข้อความดังกล่าวว่า “พี่คนหนึ่งแหละที่คงไม่กล้าด่าคนเก่งๆ อย่างน้อง แต่ต่อไปถ้าเป็นไปได้อย่ากลับไปเหยียบแผ่นดิน ม.อ.ปัตตานีอีกนะครับ”เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย
2824 เม.ย. 63กลุ่มนักศึกษา ม.ช. ขอลดค่าเทอมเชียงใหม่ตัวแทนนักศึกษา ม.ช. จำนวน 4 คนเดินเท้าขึ้นตึกอธิการบดีเพื่อไปยื่นหนังสือขอให้ทางสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่พิจารณาลดค่าเทอม รปภ เข้ามาสอบถาม และไม่ยอมให้ขึ้นไปยื่นหนังสือ จากนั้น รศ.ประเสริฐ ฤกษ์เกรียงไกร รองอธิการบดีเข้ามาเจรจากับนักศึกษาให้ลงจากตึก ระบุว่า ก่อนหน้านี้เคยประชุมพูดคุยกันมาก่อนแล้วในเรื่องนี้และเรื่องก็อยู่ในวาระการประชุมของวันนี้แล้ว ต่อมามีตำรวจในเครื่องแบบสองนายจาก สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เข้ามาในพื้นที่ แจ้งว่า ที่มาชุมนุมกันอย่างนี้ มันจะผิด พ.ร.บ. เจ้าหน้าที่อ้างเพียงคำว่า พ.ร.บ.โดยไม่ได้แจ้งชื่อกฎหมาย และได้มีตำรวจสืบสวนนอกเครื่องแบบเดินเข้ามาแนะนำตัว พร้อมข่มขู่นักศึกษาว่าระวังจะฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ประกาศใช้อยู่เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยและตำรวจ
2928 เม.ย. 63ชาวบ้านในกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์หนองบัวลำภูตำรวจ สภ.หัวทะเล จำนวนเจ็ดคน แต่งกายในเครื่องแบบห้าคน นอกเครื่องแบบสองคน เดินทางด้วยรถยนต์จำนวนสามคัน ได้แก่ รถตู้ตำรวจ รถตำรวจตราโล่ และรถกระบะสีบรอนซ์เงิน เดินทางไปหาชาวบ้านที่เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ถึงทุ่งนาขณะที่กำลังทำนาอยู่ พร้อมแจ้งว่ามาเชิญตัวไป สภ.หัวทะเล จากกรณีคลิปอ่านแถลงการณ์ล็อคดาวน์เหมืองแร่หยุดฉวยโอกาสให้สัมปทานเหมือง โดยระหว่างพาไปโรงพักได้ยึดโทรศัพท์ และไม่ให้ติดต่อกับคนอื่นตำรวจ
309 พ.ค. 63คะติมะเชียงใหม่คะติมะโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวแจ้งว่า มีทหารนอกเครื่องแบบไปหาที่บ้านพร้อมทั้งสอบถามประวัติส่วนตัวของคะติมะอย่างละเอียด โดยทหารอ้างว่านายให้มาตรวจสอบว่าคะติมะอยู่บ้านตรงนี้ใช่หรือไม่ทหาร
You May Also Like
อ่าน

กสม.ชี้หน่วยงานรัฐไทยเอี่ยวใช้สปายแวร์เพกาซัส ชงครม.สั่งสอบ-เรียกเอกสารลับ

กสม. เชื่อว่า มีการใช้สปายแวร์ เพกาซัสละเมิดสิทธิจริง โดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของการตรวจสอบทางเทคนิคคอมพิวเตอร์ และบริบทแวดล้อมในต่างประเทศ นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า หน่วยงานรัฐไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้สปายแวร์
อ่าน

ขนุน สิรภพ “คงแค่ยิ้มสู้” ระหว่างศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัวในคดีมาตรา 112

ขนุน สิรภพ “คงแค่ยิ้มสู้” ระหว่างศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัวในคดีมาตรา 112 . สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ หรือขนุน นิสิตรัฐศาสตร์จากมศว จำเลยในคดีมาตรา 112 จากการกล่าวปราศรัยระหว่างการชุมนุม #ม็อบ18พฤศจิกา . 25 มีนาคม ที่ผ่านมาศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษา จำคุก 3 ปี แต่เนื่องจากการนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง ศาลจึงลดโทษหนึ่งในสามคงจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา . จนถึงวันนี้(4 เมษายน 2567) เป็นเวลา 10 วันแล้วที่ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัว