ม.เชียงใหม่ไม่ให้ใช้สถานที่จัด “ล่น ไล่ ลุง”: ผู้ขอแจง คิดว่ามหาวิทยาลัยจะเป็นสถานที่ที่ให้สิทธิ เสรีภาพ เหมือนในอดีต

49467044638_ae1abc80b4_o

หลังจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ออกหนังสือไม่อนุญาตให้กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้จัดงาน “ล่น ไล่ ลุง” ใช้สถานที่มหาวิทยาลัยในการจัดกิจกรรมดังกล่าว ทางผู้ยื่นหนังสือได้ให้ข้อมูลว่า ในอดีตทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เคยเป็นสถานที่ที่กลุ่ม กปปส. เข้ามาชุมนุมในมหาวิทยาลัยได้ และมีความหวังว่า มหาวิทยาลัยจะให้เสรีภาพกับนักศึกษาในการจัดกิจกรรมในมหาวิทยาลัยมากกว่านี้

 

สรุปสถานการณ์การการยื่นหนังสือขอใช้สถานที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ออกหนังสือไม่อนุญาตให้จัดกิจกรรม “ล่น ไล่ ลุง” ที่เดิมวางแผนจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 โดยให้เหตุผลในหนังสือโดยสรุปว่า งานดังกล่าวเป็นงานที่ดี แต่ชื่องาน “ล่น ไล่ ลุง” จะสื่อความหมายทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนและเชื่อมโยงไปยังสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ซึ่งขัดกับนโยบายของทางมหาวิทยาลัยที่ต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง

ก่อนหน้านี้ วันที่ 22 มกราคม 2563 ธนาธร นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ภาคปรัชญาและศาสนา คณะมนุษยศาสตร์ ร่วมกับเพื่อนๆ ได้ไปยื่นหนังสือที่สำนักงานอธิการบดี เพื่อขออนุญาตใช้พื้นที่ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จัดกิจกรรม “ล่น ไล่ ลุง” แต่เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยที่รับหนังสือแจ้งทางวาจาว่า ทางมหาวิทยาลัยจะต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง การให้มหาวิทยาลัยไปมีส่วนเกี่ยวข้องอาจจะไม่สามารถให้ใช้สถานที่ได้ แม้แต่การที่จะไม่กล่าวถึงมหาวิทยาลัยโดยตรงก็ไม่สามารถใช้ได้ แต่ก็ได้รับหนังสือดังกล่าวไว้

ต่อมาวันที่ 23 มกราคม 2563 เพจ “วิ่งไล่ลุง – Run Against Dictatorship” ประกาศว่า เลื่อนการจัดงานวิ่งไล่ลุง ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 ไปโดยไม่มีกำหนด เพื่อจัดหาสถานที่ใหม่ เนื่องจากเดิมจะจัดงาน “ล่นไล่ลุง” (วิ่งไล่ลุง) ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่ได้คำตอบทางวาจาจากผู้บริหารระดับสูงของทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ว่า อาจจะมีความไม่สะดวกในการให้ทาง “ทีมงานวิ่งไล่ลุง” ใช้ทุกๆ สถานที่ที่อยู่ในการดูแลของมหาวิทยาลัย

จนกระทั่งวันที่ 28 มกราคม 2563 จึงได้เห็นหนังสือที่เป็นทางการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งผู้ลงนามในหนังสือ คือ รศ.ประเสริฐ ฤกษ์เกรียงไกร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

 

ผู้ขอแจง คิดว่ามหาวิทยาลัยจะเป็นสถานที่ที่ให้สิทธิ เสรีภาพ เหมือนในอดีต

ไอลอว์ได้พูดคุยกับ เต้-ธนาธร นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ภาคปรัชญาและศาสนา คณะมนุษยศาสตร์ ถึงเหตุการณ์การยื่นหนังสือดังกล่าว

ธนาธรกล่าวว่า “ในวันที่ไปยื่นหนังสือขอใช้สถานที่กับเพื่อนๆ นั้น คิดว่าการจัดกิจกรรม “ล่น ไล่ ลุง” มีคนให้ความสนใจเยอะแน่ๆ จึงประชุมกันเลือกสถานที่ในการจัดงาน คิดว่าในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่น่าจะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด เนื่องจากเป็นสถานศึกษา คนนอกไม่พลุกพล่านจนเกินไป น่าจะควบคุมการทำกิจกรรมให้เป็นไปโดยปลอดภัยได้ง่าย จากนั้นจึงไปขออนุญาตทางมหาวิทยาลัยตามที่ได้รายงานในเฟซบุ๊ก

แต่วันที่ไปยื่นหนังสือนั้น มีเจ้าหน้าที่ออกมารับหนังสือ แนะนำตัวเองว่าเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายรับเอกสาร ได้มาแจ้งว่า ‘ทางมหาวิทยาลัยอาจจะให้ใช้สถานที่ไม่ได้นะ เนื่องจากต้องรักษาความเป็นกลางทางการเมือง แต่ผมเข้าใจคุณ เมื่อก่อนผมก็เคยเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง ไม่เชื่อไปดูมือตบที่บ้านผมได้เลย แต่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่คงให้ใช้สถานที่ไม่ได้หรอก’ 

หลังจากกลับไปนักศึกษาคนดังกล่าวจึงไปย้อนหาข่าวว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เคยเป็นสถานที่สำหรับจัดกิจกรรมทางการเมืองหรือไม่ แล้วพบว่า งานหนึ่งที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ งานที่มีกลุ่ม กปปส.เข้ามาจัดชุมนุมที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อปี 2557 จึงคิดว่า เหตุผลที่อ้างว่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ต้องเป็นกลางทางการเมืองนั้นเป็นปัญหา และถือว่าไม่ให้สิทธิเสรีภาพนักศึกษาในการจัดงานที่มีความคิดเห็นทางการเมืองต่างจากผู้บริหาร

จากการสืบค้นพบว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ใช้ชื่อมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการร่วมคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และมีการจัดกิจกรรมในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ด้วย ซึ่งกิจกรรมวันดังกล่าวมีการเดินขบวนและเป่านกหวีดกันทั่วมหาวิทยาลัย และชวนนักศึกษาที่เรียนอยู่ออกไปร่วมเดินขบวนด้วย