Live Real: สื่ออิสระของคนดินแดง เพื่อคนดินแดง โดยคนดินแดง

การปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณดินแดง เกือบจะกลายเป็น “เรื่องปกติ” (ที่ผิดปกติ) ในสังคมไทย กล่าวคือ สถานการณ์การชุมนุมในพื้นที่ที่เรียกขานกันว่า “ย่านดินแดง” กลับไม่เป็นที่สนใจของบรรดาสื่อมวลชนและประชาชนมากนัก แม้ว่าในการชุมนุมเกือบจะทุกครั้ง จะมียังมีรายงานเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุโดยเจ้าหน้าที่รัฐ หรือมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชุมนุม รวมถึงมีรายงานความเสียหายของทรัพย์สินราชการและเอกชน
51597880082_9f24ddf3a7_h
ท่ามกลางความเป็นแดนสนธยาของพื้นที่ที่เรียกว่า “ดินแดง” ยังมีสื่อพลเมืองอยู่จำนวนหนึ่งที่คอยเกาะติดสถานการณ์การชุมนุมไม่ได้ขาด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “แอดมินนินจา” แห่งเพจ Live Real ซึ่งเพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ด้วยความต้องการที่จะบันทึกและถ่ายทอดสถานการณ์การชุมนุมโดยคนในพื้นที่ เพื่อคนในพื้นที่ แต่ดูเหมือนว่าการมีอยู่ของเขาในพื้นที่การชุมนุม จะทำให้รัฐรู้สึกว่าเขาเป็น ‘ปัญหา’ ที่รัฐจะต้องเข้ามาจัดการ

Live Real สื่อที่ต้องการเสนอข่าวแบบไม่ปรุงแต่ง

แอดมินนินจา ผู้ก่อตั้งเพจ Live Real เล่าให้ฟังว่า เริ่มแรกเขาเป็นคนที่ชอบถ่ายภาพนิ่ง และด้วยความที่เขาเป็นคนจากชุมชนดินแดน เขาจึงอยากจะเราเรื่องดินแดงบ้านเกิดของเขาผ่านภาพถ่าย แต่เมื่อเวลาและสถานการณ์ในพื้นที่เปลี่ยนไป เมื่อดินแดงเริ่มกลายเป็นจุดนัดหมายของการชุมนุมรูปแบบใหม่ ทำให้เขาผันตัวมาเป็นสื่อพลเมืองที่คอยนำเสนอข่าวแบบรายงานสดจากพื้นที่ผ่านการไลฟ์เฟสบุ๊กลงในเพจ
“ความหมายของคำว่า Live Real ก็ตรงตัวของในความหมายของคำ คือความสด ไม่ปรุงแต่งใดๆ คือวัตถุดิบที่มาจากแหล่งกำเนิด ส่วน Real คือความจริง เกิดอะไรขึ้นก็เป็นไปตามที่ได้รายงานไว้ เดิมทีแล้วเพจนี้จัดทำขึ้นมาเพื่อสำหรับถ่ายภาพ เก็บภาพถ่ายต่างๆ ที่ถ่ายเอาไว้เพื่อเอาไว้ดูเองและเพื่อแบ่งปันผู้ที่สนใจประเด็นบ้านเมือง แต่เมื่อความรุนแรงของสถานการณ์ได้เพิ่ม ภาพนิ่งจึงไม่อาจเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างครบถ้วน หากเป็นวิดีโอก็อาจจะทำให้บางคนมองว่ามีช่องทางที่จะดัดแปลงได้ การไลฟ์สดจึงเป็นคำตอบที่จะทำให้สถานการณ์ต่างๆ ถูกบิดเบือนได้ยาก ผมเลยเลือกที่จะไลฟ์และนำเสนอสถานการณ์ต่างๆ ให้ท่านผู้ชมได้รับรู้รับทราบ และใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเหจุการณ์นั้นๆ ด้วยตัวเอง” แอดมินนินจากล่าว
แอดมินนินจา เล่าให้ฟังด้วยว่า “ก่อนที่ผมจะมาไลฟ์ ผมเห็นพี่ๆ สื่อมวลชนอยู่กันเยอะ แต่ว่าสถานการณ์ในขณะนั้นมันดำเนินอยู่ตลอดเวลา บางครั้งมันดำเนินไปจนถึงตีสี่ แต่สื่อมวลชนที่เกาะติดสถานการณ์อยู่ในขณะนั้นไม่อยู่แล้ว แต่สถานการณ์ยังอยู่ แล้วมันเป็นสิ่งที่ผมพอจะทำได้ ผมก็ทำ โดยที่ผมไม่ได้คิดว่า ผมจะต้องเจออะไร ผมคิดแต่ว่า เขาคือพี่น้องของผม ที่ตรงนั้นคือบ้านของผม”

เมื่อสื่ออิสระกำลังตกเป็นเป้าของผู้มีอำนาจรัฐ

การเป็นสิ่ออิสระที่ต้องการเกาะติดสถานการณ์ในพื้นที่ดินแดงไม่ใช่เรื่อง่ายเลย แอดมินนินจา เล่าให้ฟังว่า เมื่อเป็นสื่ออิสระเขาต้องเผชิญหน้ากับการคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐในหลายรูปแบบ เช่น การขอตรวจบัตรนักข่าว การขอตรวจสอบปลอกแขนสื่อหรือสังกัด 
โดยแอดมินนินจา มองว่า นี่คือการคัดกรองเพื่อหลีกเลี่ยงการนำเสนอสถานการณ์ในพื้นที่ เพราะรัฐไม่ต้องการให้ราษฎร หรือคนทั่วไปได้รับรู้รับทราบ เนื่องจากในการชุมนุมครั้งหลังๆ  เจ้าหน้าที่รัฐมักจะใช้ความรุนแรง อย่างล่าสุดที่เขาถูกทำร้ายร่างกายและประชาชนทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องก็โดนด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ เขายังต้องมาถูกดำเนินคดีจากการรายงานสถานการณ์ในพื้นที่การชุมนุม
ย้อนกลับในช่วงดึกของวันที่ 6 สิงหาคม 2564 แอดมินนินจาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนเข้าจับกุม ในขณะที่กำลังทำการไลฟ์สดรายงานสถานการณ์ชุมนุมบริเวณแยกดินแดง ทั้งที่ได้มีการสวมปลอกแขนสื่อมวลชนอย่างชัดเจน ต่อมา ทางสมาพันธ์สื่อไทยเพื่อประชาธิปไตย หรือ “DemAll” ได้ออกแถลงการณ์ต่อเหตุการณ์นี้ว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และขอให้มีการปล่อยตัวแอดมินนินจาทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข พร้อมระบุให้เจ้าหน้าที่หยุดคุกคามการทำงานของสื่อมวลชนอิสระ 

“คุกคาม-ทำร้าย-จับกุม” สิ่งที่สื่ออิสระต้องเจอในสนาม

แอดมินนินจา เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะถูกจับกุมได้ปรึกษากับพี่ๆ สื่อมวลชนถึงสถานที่ที่จะปักหลักเนื่องจากมีกระแสข่าวออกมาว่าในวันนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนชุดเคลื่อนที่เร็วจะทำการบุก ในระหว่างที่กำลังปรึกษาอยู่ เจ้าหน้าที่ได้บุกเข้ามายังแยกมิตรไมตรีและเปิดฉากยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม ผู้ชุมนุมจึงตอบโต้ด้วยการยิงพลุและขว้างปาประทัดยักษ์ จากนั้นเขาจึงได้เข้าไปยังซอยต้นโพธิ์เพื่อทำการไลฟ์สด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่อีกหน่วยเดินทางมาถึงก็ได้มีการปิดกั้นและผลักดันให้สื่อมวลชนออกจากพื้นที่ เขาจึงได้พยายามเข้าไปในซอยต้นโพธิ์อีกครั้งด้วยทางด้านข้าง แต่เข้าไปได้ไม่นานก็ถูกเจ้าหน้าที่ผลักดันออกมาอีกครั้ง 
ต่อมาเขาจึงขับรถจักรยานยนต์เข้าไปในพื้นที่ที่มีเพียงผู้อยู่อาศัยที่อยู่ที่นั่นทราบ เมื่อเข้าไปได้ก็ได้ติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณนั้นประมาณ 20 นาย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุที่เจ้าหน้าที่โดนยิงด้วยกระสุนจริงที่ศรีษะ เขาจึงได้พยายามจะเข้าไปเพื่อติดตามสถานการณ์แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่สั่งห้ามไว้  หลังจากคนเจ็บได้รับการนำส่งโรงพยาบาลแล้วเจ้าหน้าที่จึงถอนกำลังออกจากบริเวณนั้น มีเจ้าหน้าที่นายหนึ่งซึ่งคาดว่าเป็นนายตำรวจได้เรียกตัวเขาไปตรวจค้น แม้จะได้แสดงปลอกแขนสื่อมวลชนแล้วแต่กลับเพิกเฉย ซ้ำยังตรวจค้นอีกครั้งและนำตัวเขาขึ้นรถควบคุมตัวไป 
แอดมินนินจา เล่าว่า ในตอนที่โดนจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ตรวจค้นแอดมินนินจาจึงได้อ้างสิทธิ์ความเป็นสื่อมวลชนโดยมีปลอกแขนของ DemAll อยู่ตรงนั้น แต่เจ้าหน้าที่กลับเพิกเฉย ทำให้เขาไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างในฐานะสื่อ มากไปกว่านั้น ยังมีการพูดจาดูถูกเหยียดหยามว่าเขาไม่ใช่สื่อมวลชน 
“เจ้าหน้าที่มีท่าที่ไม่ยอมรับ ไม่ได้สนใจถึงรายละเอียดถึงหลักต่างๆ ที่ผมได้ชี้แจง โดนปฏิเสธและถูกเยาะเย้ยอย่างไม่มีเกียรติ” ผู้ก่อตั้งเพจ Live Real กล่าว
ในระหว่างการถูกจับกุม ซึ่งที่เขาเห็นเจ้าหน้าที่รัฐทำ คือ การจับกุมตัวผู้ชุมนุมแล้วรุมซ้อม รวมถึงตัวเขาเองก็เสี่ยงต่อการโดนทำร้ายร่างกาย เพราะแม้จะมีเจ้าหน้าบางคนปกป้องเขาเพราะเห็นว่าเป็นสื่อมวลชน แต่เจ้าหน้าที่นายหนึ่งอ้อมมาจากด้านหลังแล้วใช้เข่ากระทุ้งไปที่บริเวณน่องขาด้านซ้าย แล้วสั่งให้เขานั่งลง 
“ผมมองว่ามันเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ไม่ว่าจะเป็นกับผมหรือผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำร้ายร่างกายเขา” แอดมินนินจากล่าว
แอดมินนินจา กล่าวด้วยว่า “ผมเชื่อว่าผู้บังคับบัญชาทราบดีว่านี่เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ทางเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ควบคุมอารมณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่เป็นหน่วยงานรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อราษฎร แต่กลับใช้อารมณ์ส่วนตัวในการกระทำหน้าที่ ณ ตอนนั้น ผมมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควร”

โทษปรับ 2,500 บาท ราคาขั้นต่ำของการทำหน้าที่สื่อ

แอดมินนินจา เล่าให้ฟังว่า หลังจากถูกจับกุม เขาต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่สถานะคดีของเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว เนื่องจากหลังจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวเขาไปส่งฟ้องศาล ศาลได้สั่งลงโทษเขาด้วยโทษเป็นเงิน 2,500 บาท เนื่องจากฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 
แม้ว่าโทษที่เขาได้รับในรอบนี้จะเป็นเพียงโทษไม่หนัก แต่ก็ไม่มีอะไรมารับประกันเลยว่า เขาจะไม่ถูกโดนคดีอีกจากการทำหน้าที่สื่อ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงยืนยันจะทำหน้าที่ต่อไป เพียงแต่ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น เพราะสุดท้าย ถ้าเขาไม่ทำหน้าที่นี้ ก็อาจจะไม่มีใครที่ให้ความสำคัญกับการชุมนุมและผู้ชุมนุมกลุ่มนี้
“ทุกครั้งที่มีการจับกุมก็จะมีการใช้ความรุนแรงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมและมีการเข้าไปจู่โจมของหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ในบางครั้งถ้าหากไม่มีสื่อมวลชนอยู่เจ้าหน้าที่ก็จะเลือกใช้ความรุนแรง แต่ถ้าหากมีสื่อมวลชนอย่าง ‘ผม’ อยู่ ณ ตอนนั้น ก็จะไม่สามารถที่จะใช้ความรุนแรงได้ สื่อมวลชนจึงถูกผลักดันมาเสมอ” แอดมินนินจากล่าว