- เว็บไซต์ไอลอว์
- ศูนย์ข้อมูลฯ
ฐานข้อมูลคดี
Stared
ชื่อคดี
ผู้ต้องหา
กฤษณะ
สถานะคดี
คำอธิบายสถานะคดี ภาษาไทย
ชั้นศาลชั้นต้น
สถานะผู้ต้องหา
ได้รับการประกันตัว
ข้อหา / คำสั่ง
มาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญา
ผู้ต้องหา | สถานะผู้ต้องหา |
---|---|
'สมศักดิ์' | ได้รับการประกันตัว |
ประพันธ์ | อื่นๆ (ประพันธ์ถูกถอนประกันหลังจากลี้ภัยไปประเทศมาเลเซียและถูกส่งกลับมายังไทยในเดือนพฤษภาคม 2562) |
วรรณภา | ได้รับการประกันตัว |
จินดา | ได้รับการประกันตัว |
เนื้อหาคดีโดยย่อ
จำเลยห้าคนถูกกล่าวหาฐานยุยงปลุกปั่น และเป็นอั้งยี่ ตามมาตรา 116 และ 209 ของประมวลกฎหมายอาญาจากการสื่อสารแนวคิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองไทยให้เป็นระบบสหพันธรัฐผ่านโลกออนไลน์และการแจกจ่ายใบปลิวและเสื้อยืดสีดำพร้อมโลโก้ธงสีแดงขาวที่หน้าอกเสื้อ กฤษณะ, ‘สมศักดิ์’ และวรรณภาได้รับการประกันตัวระหว่างการพิจารณาคดี ขณะที่ประพันธ์ถูกถอนประกันเนื่องจากหลบหนีระหว่างการพิจารณาคดี ส่วนจินดาไม่ปรากฏตัวยังไม่สามารถติดตามตัวได้
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลอาญาสั่งจำคุกจำเลยทั้งสี่คนในความผิดตามมาตรา 209 วรรคหนึ่งประกอบมาตรา 83 จำคุก 3 ปี จำเลยที่สองและสามให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ลดโทษให้หนึ่งในสามตามมาตรา 78 คงโทษจำคุกจำเลยที่สองและสามสองปี
ภูมิหลังผู้ต้องหา
พนักงานอัยการศาลอาญา
ข้อกล่าวหา
สร้างความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่อง ก่อความไม่สงบ, อื่นๆ (มาตรา 209 ของประมวลกฎหมายอาญา)
-
รูปแบบการจำกัดเสรีภาพ
การดำเนินคดี
-
ประเภทสื่อ
โซเชียลเน็ตเวิร์ค, การพูด / ปราศรัย
-
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
-
ศาล
ศาลอาญา
-
หมายเลขคดีดำ
เลขคดีดำคือเลขที่ศาลออกเมื่อประทับรับฟ้องคดี
ชั้นศาล: ศาลอาญา No: อ.3157/2561
ตามคำฟ้องระบุว่า ระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน 2561 ถึงวันที่ 12 กันยายน 2561 จำเลยทั้งห้าได้ร่วมกันกระทำความผิดดังนี้
หนึ่ง จำเลยทั้งห้ากับวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ, ชูชีพ ชีวะสุทธิ์, สยาม ธีระวุฒิ, วัฒน์ วรรลยางกูรและกฤษณะ ทัพไทย ซึ่งหลบหนีอยู่ยังไม่ได้นำตัวมาฟ้องคดีนี้ได้ร่วมกันเป็นหัวหน้า ผู้จัดการหรือมีตำแหน่งหน้าที่ในคณะบุคคลที่ไม่เปิดเผยวิธีการดำเนินการชื่อกลุ่มสหพันธรัฐไท มีจุดมุ่งหมายในการต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อต้านรัฐบาลและ คสช. เพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไปสู่การปกครองในระบอบสหพันธรัฐที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข
สอง จำเลยทั้งห้าและบุคคลที่ระบุตามข้อหนึ่งได้ปลุกระดมสมาชิกกลุ่มและประชาชนทางสื่อสังคมออนไลน์และแจกเอกสารใบปลิวชักชวนให้ประชาชนทั่วไปต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อต้านรัฐบาลและคสช. ซึ่งไม่ใช่การกระทำตามความมุ่งหมายในรัฐธรรมนูญและการติชมโดยสุจริต แต่เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินและเกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองไปสู่ระบอบสหพันธรัฐที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข
ขอให้ศาลพิจารณาลงโทษในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 และการเป็นอั้งยี่ตามมาตรา 209 ของประมวลกฎหมายอาญา
3 กันยายน 2561 ขณะที่ประพันธ์กำลังอยู่ที่หอพักย่านลาดพร้าว เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำที่มณฑลทหารบกที่ 11
กรณีของวรรณภา
กรณีของจินดา
12 กันยายน 2561 ขณะที่จินดากำลังอยู่ที่บ้านพักในจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำที่มณฑลทหารบกที่ 11
ขณะที่ประพันธ์กำลังอยู่ที่หอพักย่านลาดพร้าว เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำที่มณฑลทหารบกที่ 11
ขณะที่จินดากำลังอยู่ที่บ้านพักในจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำที่มณฑลทหารบกที่ 11
ขอฝากขังระหว่างการสอบสวนครั้งที่หนึ่ง
พ.ต.ท.เสวก บุญจันทร์ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม นำตัวกฤษณะ, เทอดศักดิ์และประพันธ์ ผู้ต้องหาที่หนึ่งถึงสามมายื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอฝากขังครั้งที่หนึ่ง กล่าวหาว่า ผู้ต้องหาทั้งสามกระทำความผิดตามมาตรา 116 และ 209 ของประมวลกฎหมายอาญา โดยมีพฤติการณ์คือ วันที่ 20 สิงหาคม 2561 ฝ่ายข่าวคสช.ได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสามมีพฤติการณ์ต่อต้านรัฐบาลและคสช. รวมกลุ่มภายใต้ชื่อ สหพันธรัฐไท ทำการเคลื่อนไหวทางการเมือง โน้มน้าวให้ประชาชนเห็นด้วยในการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเป็นระบอบสหพันธรัฐ มีการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ เช่น การทำเสื้อและสติกเกอร์ของกลุ่ม แจกจ่ายให้สมาชิกกลุ่มและเผยแพร่ความคิดผ่านใบปลิวตามสถานที่ต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประสานมิตร และสถานที่อื่นๆ
ขอฝากขังระหว่างการสอบสวนครั้งที่หนึ่ง
นัดฟังคำสั่งฟ้อง
ศาลอาญามีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวจินดา จำเลยที่ห้า โดยวางหลักทรัพย์ 40,000 บาท พร้อมติดกำไลอีเอ็ม
นัดสอบคำให้การ
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวประพันธ์, เทอดศักดิ์และจินดาไปจากบ้านพัก วันเดียวกันเจ้าหน้าที่ไม่ทราบสังกัดได้โทรศัพท์ไปแจ้งวรรณภาด้วยว่า ในวันที่ 9 ธันวาคม 2561 จะมีตำรวจติดตามไปไหนมาไหนด้วย ให้วรรณนภาใช้ชีวิตไปตามปกติ ในวันถัดมามีตำรวจมารอวรรณภาที่ที่พักในจังหวัดสมุทรปราการตั้งแต่เช้า และตามวรรณภาไปดูหนังและเดินห้างสรรพสินค้า แต่เมื่อวรรณภาจะกลับที่พักในเวลา 15.00 น. ตำรวจกลับขอให้เธอไปนั่งรอที่สนามหน้าศาลากลางสมุทรปราการก่อนจนกระทั่งเวลา 17.00 น. จึงปล่อยให้วรรณภากลับบ้าน
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า เวลาประมาณ 21.00 น. ทหารได้ปล่อยตัวประพันธ์, เทอดศักดิ์และจินดาจากมณฑลทหารบกที่ 11 แล้ว หลังควบคุมตัวไปนานหกวัน โดยทหารนำตัวไปส่งที่บ้านพักและถ่ายรูปไว้ด้วย
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ทหารได้ปล่อยตัวภรรยาและลูกชายของชูชีพ ชีวะสุทธิ์จากมณฑลทหารบกที่ 11 แล้ว
นัดตรวจพยานหลักฐาน
นัดตรวจพยานหลักฐาน
21 มกราคม 2563
นัดฟังคำพิพากษา