พรุ่งนี้ จับตาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดี พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ของชาวบ้านเทพาสองคดี

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 9.00 น. ศาลจังหวัดสงขลาและศาลจังหวัดนาทวีนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดี พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ของชาวบ้านเทพาสองคดีพร้อมกันคือ

 

คดี พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ของชาวบ้านเทพาคดีที่หนึ่ง

คดีนี้อยู่ในการพิจารณาของศาลจังหวัดสงขลามีจำเลยทั้งหมด 17 คนประกอบด้วย เอกชัย จำเลยที่ 1, รุ่งเรือง จำเลยที่ 2, ปาฏิหาริย์ จำเลยที่ 3, ดิเรก จำเลยที่ 4 , อิสดาเรส จำเลยที่ 5, สมบูรณ์ จำเลยที่ 6, ยิ่งยศ จำเลยที่ 7, เนติพงษ์ จำเลยที่ 8, อามีน จำเลยที่ 9, วีระพงษ์ จำเลยที่ 10, เจะอาเเซ จำเลยที่ 11, สรวิชญ์ จำเลยที่ 12, สมาน จำเลยที่ 13, อัยโยบ จำเลยที่ 14, อานัส จำเลยที่ 15, มุสตารซีดีน จำเลยที่ 16 และฮานาฟี จำเลยที่ 17 ทั้งหมดถูกกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ พ.ร.บ.จราจรฯ และข้อหาพกพาอาวุธและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า เอกชัย จำเลยที่ 1 และปาฏิหาริย์ จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานไม่แจ้งการชุมนุมก่อนเริ่มการชุมนุมเป็นเวลา 24 ชั่วโมงและขอผ่อนผันตามระยะเวลาที่กำหนดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ลงโทษปรับคนละ 5,000 บาท ข้อหาอื่นให้ยกและยกฟ้องจำเลยอีก 15 คนที่เหลือ

 

คดี พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ของชาวบ้านเทพาคดีที่สอง

คดีนี้อยู่ในการพิจารณาของศาลจังหวัดนาทวีมีจำเลย 5 คน คือ เอกชัย จำเลยที่ 1, ดิเรก จำเลยที่ 2, หมิด จำเลยที่ 3, รอกีเยาะ จำเลยที่ 4 และอัยโยบ จำเลยที่ 5 ทั้งหมดถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะและไม่แจ้งการชุมนุมก่อนเริ่มการชุมนุมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง และเดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายการชุมนุมโดยไม่แจ้งล่วงหน้าต่อหัวหน้าสถานีตำรวจที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลการชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า เอกชัย จำเลยที่ 1, ดิเรก จำเลยที่ 2 และรอกีเยาะ จำเลยที่ 4 มีความผิดตามฟ้องทั้งสองข้อหา สั่งลงโทษปรับข้อหาละ 10,000 บาท รวมโทษปรับสองข้อหาคนละ 20,000 บาท

ทั้งสองคดีมีความเกี่ยวเนื่องทับซ้อนกัน สืบเนื่องจากเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินทำกิจกรรมเดินเท้าเป็นเวลาสี่วัน จากอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ไปที่อำเภอเมืองฯ จังหวัดสงขลา เพื่อสื่อสารต่อสาธารณะและยื่นหนังสือต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 แต่เมื่อถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 เจ้าหน้าที่ได้เข้าสลายการชุมนุมและจับกุมตัวชาวบ้าน 16 คน ที่ร่วมในกิจกรรมในที่เกิดเหตุ ต่อมาตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ พ.ร.บ.จราจรฯ และข้อหาพกพาอาวุธและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และเรียกผู้ต้องหาเพิ่มอีกหนึ่งราย รวมแล้วมีผู้ร่วมกิจกรรมถูกดำเนินคดี พ.ร.บ.ชุมนุมฯ จากการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งแรกทั้งหมด 17 คน

เดือนตุลาคม 2561 ระหว่างการพิจารณาคดีที่หนึ่งในศาลชั้นต้น พ.ต.อ.วีรวุธ สันนะกิจ ผู้กำกับการ สภ.เทพาได้กล่าวหาคดี พ.ร.บ.ชุมนุมฯ จากกิจกรรมดังกล่าวเพิ่มอีกหนึ่งคดี ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจศาลจังหวัดนาทวี โดยคดีนี้มีจำเลยทั้งห้าคนคือ เอกชัย, ดิเรก, อัยโยบ, หมิด และรอกีเยาะ สามคนแรกเคยถูกดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดสงขลามาก่อนแล้ว เดือนพฤษภาคม 2562 ศาลจังหวัดนาทวีมีพิพากษาว่า เอกชัย, ดิเรก และอัยโยบมีความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ สั่งปรับคนละ 20,000 บาท

การดำเนินคดีสองคดีจากกิจกรรมเดียวกันนั้นทำให้เกิดข้อถกเถียง ฝ่ายผู้กล่าวหามองว่า ชาวบ้านเทพาเริ่มเดินเท้ากันเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ในพื้นที่อำเภอเทพา ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจศาลนาทวี เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระกันกับการชุมนุมในพื้นที่อำเภอเมืองฯ จังหวัดสงขลา ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ขณะที่ฝ่ายจำเลยมองว่า การเดินเท้าของชาวบ้านเทพาที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2560 เป็นการกระทำกรรมเดียวกันต่อเนื่องกัน อย่างไรก็ดีศาลจังหวัดนาทวีวินิจฉัยในประเด็นนี้ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำคนละกรรม เกิดขึ้นต่างพื้นที่และเวลากัน

สำหรับนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากคดีที่ศาลจังหวัดสงขลาและศาลจังหวัดนาทวีมีจำเลยทับซ้อนกันสามคนคือ เอกชัย ดิเรก และอัยโยบ จำเลยทั้งสามจึงตัดสินใจเดินทางไปฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดนาทวีก่อนจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดสงขลาต่อไป

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คดี พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ของชาวบ้านเทพาคดีที่หนึ่ง: https://freedom.ilaw.or.th/case/810 คดี พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ของชาวบ้านเทพาคดีที่สอง: https://freedom.ilaw.or.th/case/893 7 เรื่องต้องรู้ก่อนฟังคำพิพากษา คดีเทใจให้เทพา: https://freedom.ilaw.or.th/node/628